หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

ให้คำแนะนำแม่บ้านให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ

สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ PET-PJEF-153B

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ ให้คำแนะนำแม่บ้านให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ทบทวนครั้งที่ 3 / 2567

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

Unit Group 5152 Domestic Housekeepers (ISCO – 08)

1 5152 พนักงานดูแลงานบ้านแม่บ้าน

6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)

หน่วยสมรรถนะนี้เกี่ยวข้องกับการให้คำปรึกษาแนะนำแก่แม่บ้าน ประยุกต์ใช้เทคนิคและกลยุทธ์การให้คำปรึกษาแนะนำ สอนงาน ฝึกอบรม ความรู้ทักษะ แม่บ้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่จะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพมากขึ้น เน้นทักษะในการสื่อสาร การให้คำแนะนำ และการแก้ไขปัญหา เพื่อให้แม่บ้านสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ 


7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)

อาชีพแม่บ้าน


9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)

Unit Group 5152 Domestic Housekeepers (ISCO – 08)


10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria)
40221

จัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานแม่บ้าน

วิเคราะห์ หัวข้อการอบรม เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานแม่บ้านให้สอดคล้องกับความต้องการของแม่บ้าน

จัดทำแผนการอบรมที่ครอบคลุมเนื้อหา เตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ ที่ใช้ในการอบรม

ดำเนินการอบรม เลือกใช้เทคนิคการอบรมที่เหมาะสม เพื่อถ่ายทอดทักษะการปฏิบัติงานแม่บ้านได้ตรงตามวัตถุประสงค์

ประเมินผลระหว่างการอบรม สังเกตปฏิกิริยาของผู้เข้าอบรม และปรับเปลี่ยนวิธีการอบรมให้เหมาะสม

40222

แลกเปลี่ยนทัศนคติและประสบการณ์การปฏิบัติงานแม่บ้าน

เปิดโอกาสให้แม่บ้านได้ถามคำถาม แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนทัศนคติและประสบการณ์การปฏิบัติงานแม่บ้าน

ให้คำปรึกษาแนะนำ ถ่ายทอดทักษะการปฏิบัติงาน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานแม่บ้าน


12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)

สามารถสื่อสารเพื่อกำกับดูแล และให้คำปรึกษาในการปฏิบัติงานแม่บ้านได้


13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

เทคนิคการให้คำปรึกษาแก่พนักงานทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ

(ข) ความต้องการด้านความรู้

ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ/เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการบริหารผลการปฏิบัติงาน เช่น แบบจำลอง (Model) การประเมินผลการปฏิบัติงาน หลักเกณฑ์การประชุมเพื่อชี้แจงวิธีการประเมินผลและผลการประเมิน ความรู้เกี่ยวกับบทบาทของการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการให้คำปรึกษา เป็นต้น
ความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดด้านแรงงานสัมพันธ์ และความหลากหลายของข้อปฏิบัติต่าง ๆ


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)
(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)
แสดงความสามารถในการติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานพนักงาน ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายและการวางแผนการทำงาน การสื่อสารกับทีมงาน การสั่งงานและมอบหมายงาน การให้คำปรึกษาแก่พนักงานทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
(ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)
- แสดงความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายและระเบียบวิธีปฏิบัติขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารผลการปฏิบัติงาน หลักการบริหารผลการปฏิบัติงาน รูปแบบของมาตรฐานการปฏิบัติงาน ระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน วิธีการ/เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการบริหารผลการปฏิบัติงาน
- แสดงความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดด้านแรงงานสัมพันธ์ และความหลากหลายของข้อปฏิบัติต่าง ๆ
(ค) คำแนะนำในการประเมิน
N/A
(ง) วิธีการประเมิน
- สังเกตการณ์ผลการดำเนินงาน
- ทดสอบโดยให้แสดงบทบาทสมมติ
- ทำแบบทดสอบกรณีศึกษา
- ทดสอบความรู้โดยการตอบคำถามด้วยวาจาหรือข้อเขียน
- พิจารณารายงานจากหน่วยงานภายนอก
- มอบหมายงาน/โครงการ
 


15. ขอบเขต (Range Statement)

ขอบเขตอธิบายถึงขอบเขตของการปฏิบัติงาน และสภาพแวดล้อมอื่นๆหรือสถานการณ์อื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อการทำงาน รวมถึงเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ทรัพยากรที่ใช้ หรือข้อกำหนดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
(ก) คำแนะนำ 
N/A
(ข) คำอธิบายรายละเอียด
1. ทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ให้คำแนะนำ เช่น
- ความรู้เกี่ยวกับงานทำความสะอาด: เข้าใจขั้นตอนการทำความสะอาดต่างๆ ชนิดของอุปกรณ์และสารเคมีที่ใช้
- ทักษะการสื่อสาร: สื่อสารได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
- ทักษะการฟัง: ฟังปัญหาและความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างตั้งใจ
- ทักษะการให้คำปรึกษา: ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์
- ทักษะการแก้ไขปัญหา: สามารถวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยา: เข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์และสามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้อื่นได้
2. แนวปฏิบัติที่ดีในการให้คำแนะนำแม่บ้าน 
- ให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว: เพื่อให้สามารถพูดคุยและให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด
- ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย: หลีกเลี่ยงคำศัพท์ที่ยากและซับซ้อน
- ให้ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม: เพื่อให้แม่บ้านเข้าใจได้ง่ายขึ้น
- ให้โอกาสแม่บ้านได้ถามคำถาม: เพื่อให้แน่ใจว่าแม่บ้านเข้าใจสิ่งที่ได้รับคำแนะนำ
- ให้กำลังใจและชื่นชม: เมื่อแม่บ้านทำได้ดี
- ติดตามผล: เพื่อดูว่าคำแนะนำที่ให้ไปมีผลต่อการทำงานของแม่บ้านหรือไม่
3. การจัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานของแม่บ้าน
การจัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานของแม่บ้านเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้แม่บ้านมีความรู้ความสามารถในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจในการทำงานให้กับพนักงานอีกด้วย
4. ขั้นตอนการจัดอบรม
4.1 วิเคราะห์ความต้องการ:
4.2 ประเมินความรู้และทักษะปัจจุบัน: ทำการประเมินความรู้และทักษะของแม่บ้านแต่ละคน เพื่อระบุจุดแข็ง จุดอ่อน และช่องว่างในการพัฒนา
4.3 กำหนดวัตถุประสงค์ของการอบรม: กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการให้แม่บ้านมีความรู้และทักษะอะไรเพิ่มขึ้น
4.4 เลือกหัวข้อการอบรม: เลือกหัวข้อที่สอดคล้องกับความต้องการและปัญหาที่พบเจอในปัจจุบัน เช่น การทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ การใช้สารเคมี การดูแลรักษาอุปกรณ์
4.5 ออกแบบหลักสูตร:
กำหนดเนื้อหา: ออกแบบเนื้อหาการอบรมให้ครอบคลุมทุกหัวข้อที่ต้องการสอน
เลือกวิธีการสอน: เลือกวิธีการสอนที่หลากหลาย เช่น การบรรยาย การสาธิต การปฏิบัติจริง
จัดทำเอกสารประกอบการอบรม: จัดทำเอกสารประกอบการอบรม เช่น สไลด์นำเสนอ ใบความรู้ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ศึกษาเพิ่มเติม
4.6 เลือกวิทยากร:
เลือกวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์: เลือกวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการทำความสะอาด หรือผู้ที่มีประสบการณ์ในการฝึกอบรม
วิทยากรภายในองค์กร: อาจเป็นหัวหน้างาน หรือพนักงานที่มีความรู้ความสามารถ
วิทยากรภายนอก: เชิญวิทยากรจากสถาบันฝึกอบรม หรือบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
4.7 จัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์:
เลือกสถานที่: เลือกสถานที่ที่สะดวกต่อการเดินทางและมีอุปกรณ์ครบครัน
เตรียมอุปกรณ์: เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการอบรม เช่น โปรเจคเตอร์ จอฉาย สื่อการสอน
4.8 ดำเนินการอบรม:
สร้างบรรยากาศการเรียนรู้: สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้มีส่วนร่วม
ใช้สื่อการสอนที่หลากหลาย: ใช้สื่อการสอนที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย
ให้ผู้เข้าอบรมได้ปฏิบัติจริง: จัดกิจกรรมให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติจริง เพื่อเสริมสร้างทักษะ
ประเมินผลระหว่างการอบรม: สังเกตพฤติกรรมและสอบถามความคิดเห็นของผู้เข้าอบรม
4.9 ประเมินผลการอบรม:
ประเมินผลทันทีหลังการอบรม: สอบถามความคิดเห็นของผู้เข้าอบรมเกี่ยวกับการอบรม
ประเมินผลระยะยาว: ติดตามผลการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและประสิทธิภาพการทำงานของผู้เข้าอบรม
5. หัวข้อการอบรมที่ควรนำเสนอ
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำความสะอาด: ประเภทของคราบ สารเคมีที่ใช้ วิธีการทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ
การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์: วิธีการใช้งานและการดูแลรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ทำความสะอาด
การรักษาสุขอนามัย: การป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค การดูแลความสะอาดของตนเอง
การทำงานเป็นทีม: การทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และการแก้ไขปัญหา
การประหยัดพลังงาน: วิธีการประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ และลดการใช้สารเคมี
6. แนวทางการปฏิบัติหลังการอบรม
ติดตามผล: ติดตามผลการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและประสิทธิภาพการทำงานของผู้เข้าอบรม
ให้คำแนะนำ: ให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เข้าอบรมอย่างต่อเนื่อง
จัดอบรมเพิ่มเติม: จัดอบรมเพิ่มเติมในหัวข้อที่ผู้เข้าอบรมต้องการ หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงาน
ให้รางวัล: ให้รางวัลแก่ผู้เข้าอบรมที่มีผลการปฏิบัติงานดี เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ
7. การบริหารผลการปฏิบัติงาน หมายถึง การพัฒนา การติดตามผล การประเมินผล และการปรับปรุงผลการปฏิบัติงาน รวมทั้งคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมที่มีคุณค่าต่อการปฏิบัติงานภายในเวลาที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน โดยมุ่งเน้นความสอดคล้องของผลการปฏิบัติงานของบุคคล ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับเป้าหมายรวมขององค์กร ด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ
8. วงจรที่สำคัญในการบริหารผลการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนย่อย ได้แก่ การวางแผนผลการดำเนินงาน (Performance Planning) การให้ข้อมูลสะท้อนกลับและการพัฒนา (Performance Feedback and Development) การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Appraisal)และการให้รางวัลและโอกาสการพัฒนา (Performance Reward and Opportunity)
9. การวางแผนผลการดำเนินงาน เป็นการกำหนดปัจจัยวัดผลงานโดยผู้บังคับบัญชาจะต้องวางแผนเป้าหมายในการทำงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา เน้นการสื่อสารสองทางแบบมีส่วนร่วม (Two-way Communications)
10. การให้ข้อมูลสะท้อนกลับและการพัฒนา (Performance Feedback and Development) หมายถึง การให้ข้อมูลป้อนกลับถึงผลการปฏิบัติงานของพนักงานอันนำไปสู่ข้อตกลงร่วมกันในการพัฒนาต่อไป
เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่หัวหน้างานและผู้ถูกประเมินได้วางแผนปัจจัยผลการดำเนินงาน (Performance Planning) เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงต้นปี หลังจากนั้นหัวหน้างานจะต้องติดตามตรวจสอบว่าพนักงานมีผลงานเป็นไปตามเป้าหมายของปัจจัยประเมินผลงานที่กำหนดขึ้นในช่วงต้นปีหรือไม่
11. หน้าที่ของหัวหน้างานในการตรวจสอบการทำงาน ประกอบด้วย การให้ข้อมูลป้อนกลับแก่พนักงานถึงผลการปฏิบัติงานจริงที่เกิดขึ้น (Performance Feedback) และคิดหาวิธีการหรือเครื่องมือนำไปสู่การพัฒนาพนักงาน (Performance Development)
12. การนำแนวคิดตัวชี้วัดผลงานหลัก (Key Performance Indicators: KPIs) มาใช้ จะต้องประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ปัจจัยที่ใช้ประเมินผลงาน น้ำหนักของปัจจัยที่กำหนด และวิธีการประเมินผลงาน
13. แนวทางการกำหนดดัชนีชี้วัดผลการปฏิบัติงาน แบ่งได้เป็น ประเภทที่มุ่งเน้นปริมาณของงาน (จำนวนผลงานที่ทำได้สำเร็จเปรียบเทียบกับปริมาณงานที่กำหนด หรือ ปริมาณงานที่ควรจะทำได้ในเวลาที่ควรจะเป็น) ประเภทที่มุ่งเน้นคุณภาพของงาน (ความถูกต้อง ความประณีต ความเรียบร้อยของงาน และตรงตามมาตรฐานของงาน) ประเภทที่มุ่งเน้นความรวดเร็วหรือทันการณ์ (เวลาที่ใช้ปฏิบัติงานเทียบกับเวลาที่กำหนดไว้) และประเภทที่มุ่งเน้นความประหยัดหรือความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร (การประหยัดในการใช้วัสดุอุปกรณ์ต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายในการทำงาน การระวังรักษาเครื่องมือเครื่องใช้)
ดัชนีชี้วัดผลการปฏิบัติงาน รวมถึง
• ตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินผลการดำเนินงานจริงเปรียบเทียบกับชุดของเป้าหมายที่กำหนด
• มาตรฐานการดำเนินงานที่เป็นการระบุระดับของการปฏิบัติงานที่ต้องการจากแต่ละบุคคลหรือจากกลุ่ม ซึ่งอาจจะแสดงเป็นเป้าหมายในเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ และอาจจะเกี่ยวข้องกับ
ประสิทธิภาพ
ความตรงต่อเวลา
การนำเสนอส่วนบุคคล
ระดับความถูกต้องในการปฏิบัติงาน
ความสอดคล้องกับระเบียบ/ขั้นตอนการทำงาน
มาตรฐานการให้บริการแก่ลูกค้า
การมีปฏิสัมพันธ์กับทีมงาน
เวลาที่ใช้ในการตอบสนอง
การสูญเสียที่น้อยที่สุด
ต้นทุนต่ำที่สุด
14. การให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลลัพธ์แก่พนักงาน หมายถึง
• การให้ข้อมูลย้อนกลับที่ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง/หลักฐานของผลการดำเนินงาน
• การเห็นชอบร่วมกันในผลการดำเนินงานจริงและระดับผลการดำเนินงานที่ต้องการ
• การบ่งชี้กิจกรรมที่ควรปรับปรุง กำหนดเวลาและเป้าหมายสำหรับการประเมินครั้ง/รอบถัดไป
15. การระบุมาตรการปรับปรุงแก้ไข หมายถึง
• การให้การสนับสนุนอย่างเพียงพอ เช่น การใช้ระบบพี่เลี้ยงและให้คำปรึกษา (Mentoring) การสอนงาน (Coaching) การฝึกอบรม ทรัพยากรที่ต้องการ ข้อมูล
• การให้การสนับสนุน/แก้ไขปัญหานอกเหนือจากหน้าที่งานที่พนักงานกำลังเผชิญ
• การจัดสรรหน้าที่ความรับผิดชอบและการปรับภาระงาน
• การปรับโครงสร้างการปฏิบัติงาน
• การปรับปรุงภาะงานที่ต้องการและ/หรือมาตรฐานการทำงาน
16. โปรแกรมการให้รางวัลและการสร้างแรงจูงใจ หมายถึง
• การจัดสรรอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น
• อำนาจดุลพินิจ (Discretionary Power) ที่เพิ่มขึ้น
• การรับรู้การให้รางวัลเป็นการภายใน ซึ่งรวมถึงการจัดทำแผ่นป้ายจารึกคุณความดี การชี้แจงในจุลสารภายในองค์กร หรือในที่ประชุมทีมงาน
• การจ่ายโบนัส/เงินรางวัล
• การเลื่อนตำแหน่ง
• วันหยุด
17. ระเบียบการด้านวินัยและการเลิกจ้าง หมายถึง
• การเตือนด้วยวาจา ประกอบกับการเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรตามขั้นตอน ซึ่งรวมถึงการลงลายมือชื่อของพนักงานและผู้เข้าร่วมการประชุมที่เป็นพยาน
• การลดตำแหน่งและการถอดถอนอำนาจหน้าที่/การอนุญาตและหน้าที่ความรับผิดชอบ
• การลดจำนวนชั่วโมงทำงานล่วงเวลาที่จัดสรรให้
• ข้อกำหนดที่ไม่สามารถต่อรองได้ เพื่อให้พนักงานเข้าร่วมการฝึกอบรม เข้าร่วมการให้คำปรึกษา หรือการประชุมที่จำเป็นอื่น ๆ
• การประยุกต์ใช้ขั้นตอนที่กำหนดและบทลงโทษที่เป็นธรรมและเที่ยงตรง
• การดำเนินงานตามระเบียบวิธีปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและจรรยาบรรณในการดำเนินงานขององค์กร
การกำหนดเงื่อนไขการบังคับใช้ระเบียบการด้านวินัยและการเลิกจ้าง เกี่ยวข้องกับ
• นโยบายและระเบียบวิธีปฏิบัติขององค์กร
• ข้อกำหนดทางกฎหมาย    
 


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

1. การสาธิตการปฏิบัติงาน
2. การสัมภาษณ์
 


ยินดีต้อนรับ