หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

ควบคุมการจัดสร้างงานตามแบบและแผนงานที่กำหนด

สาขาวิชาชีพธุรกิจจัดการพื้นที่สีเขียว


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ ECM-BAWW-031A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ ควบคุมการจัดสร้างงานตามแบบและแผนงานที่กำหนด

3. ทบทวนครั้งที่ - / -

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

    อาชีพนักจัดผังบริเวณและภูมิทัศน์


6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)

    ผู้ที่ผ่านหน่วยสมรรถนะนี้ มีความสามารถเข้าใจในรูปแบบและรายการ มีทักษะในการควบคุมงานให้มีความสอดคล้องกับแผนงานโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมาย


7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)

    6162 นักภูมิสถาปัตย์


9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)

    ไม่ระบุ


10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)

    ไม่ระบุ


11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria)
02231 รับใบงานและรูปแบบและรายการเข้าใจลักษณะพื้นที่ ประกอบรูปแบบและรายการ

1.1 ระบุรายละเอียดของงานโครงสร้างตามรูปแบบและรายการ

1.2 ระบุรายละเอียดของงานระบบสาธารณูปโภคตามรูปแบบและรายการ

1.3 ระบุรายละเอียดของพรรณไม้ตามรูปแบบและรายการ

02232 เตรียมพื้นที่เพื่อการทำงานโครงสร้าง งานระบบสาธารณูปโภค และพรรณไม้

2.1 กำหนดลักษณะของพื้นที่ที่จะทำงานโครงสร้าง

2.2 กำหนดลักษณะของพื้นที่ที่จะทำงานระบบสาธารณูปโภค

2.3 กำหนดลักษณะของพื้นที่ที่จะทำงานพรรณไม้


12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)

    ไม่ระบุ


13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

    สามารถเข้าใจถึงรูปแบบและรายการ, ทำการปฏิบัติการควบคุมงานตามแผน, แก้ปัญหาหน้างานได้

(ข) ความต้องการด้านความรู้

    ความรู้เรื่องงานเขียนแบบ เช่น รูปแปลนความหมายของรูปแปลนความหมายของรูปด้านความหมายของรูปตัดแบบขยายรายละเอียดทางวิศวกรรม เป็นต้น


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

    (ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)
        1. เอกสารรับรองจากสถานประกอบการ หรือ
        2. แบบบันทึกรายการผลจากการสังเกต
    (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)
        1. เอกสารรับรองจากสถานประกอบการ หรือ
        2. เอกสารรับรองผลจากการเรียนหรือผลการอบรม หรือ
        3. ใบบันทึกผลการสอบข้อเขียนหรือแนวคำถามที่ใช้ประเมิน
    (ค) คำแนะนำในการประเมิน
        ผู้ประเมินตรวจประเมินเกี่ยวกับความเข้าใจในรูปแบบและรายการ ทักษะ และความเข้าใจในการปฏิบัติงานจริงและการแก้ปัญหาในการสร้างงานได้ โดยพิจารณาจากหลักฐานการปฏิบัติงาน หลักฐานจากแบบทดสอบข้อเขียน


15. ขอบเขต (Range Statement)

    การจัดผังบริเวณและภูมิทัศน์ในสมรรถนะนี้ ครอบคลุมการกำกับดูแล ตรวจสอบและประเมินผลงาน ในสายงานด้านพรรณไม้ ด้านโครงสร้างตกแต่ง และด้านระบบสาธารณูปโภค
    (ก) คำแนะนำ 
        1. ผู้เข้ารับการประเมินต้องมีความรู้ความเข้าใจในรูปแบบและรายการ
        2. ผู้เข้ารับการประเมินต้องมีทักษะความสามารถในการควบคุมงาน
        3. ผู้เข้ารับการประเมินต้องมีความรู้และเข้าใจในปัญหาของงานและสามารถแก้ปัญหาได้
    (ข) คำอธิบายรายละเอียด
        ข1 ความรู้เรื่องงานเขียนแบบ 
        งานเขียนแบบเป็นการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ด้วยการเขียนหรือวาดเส้น รูปภาพสัญลักษณ์ และรายการประกอบแบบ ลงบนกระดาษเขียนแบบหรือคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้เป็นแนวทางให้การสร้างหรือการซ่อมแซมชิ้นงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างถูกต้อง โดยแบบจะแสดงรายละเอียดหรือข้อกำหนดของงานที่ช่างหรือผู้ปฏิบัติงานต้องเข้าใจตรงกันกับผู้ออกแบบ สามารถอ่านแบบได้ถูกต้องและปฏิบัติตามรูปแบบรายการที่กำหนดไว้ได้โดยลักษณะของแบบโดยทั่วไปมี 3 ลักษณะ ได้แก่ รูปแปลนและรูปด้าน รูปตัดและรูปขยาย (ฝ่ายวิชาการ บริษัท สกายบุ๊กส์ จำกัด, 2553)
            ข1.1 รูปแปลน
            ในอดีตแผนที่เป็นแบบแผ่นแรกของมนุษย์ ที่แสดงตำแหน่งที่ตั้ง ภูมิประเทศ ทิศเหนือ ถนน แม่น้ำ แหล่งน้ำ ภูเขา สิ่งก่อสร้างต่างๆ มีประโยชน์ต่อการเดินทาง และการค้นหาทรัพย์สมบัติ การเขียนแผนที่ในยุคแรกอาศัยภูมิปัญญาชาวบ้านใช้จินตนาการขึ้นเอง นับเป็นการฝึกเขียนภาพ 2 มิติ ที่มีลักษณะคล้ายการเขียนแปลนพื้นหรือผังพื้นในปัจจุบัน
        ความหมายของรูปแปลน
            รูปแปลนหมายถึง รูปตัดในทางราบหรือทางนอนเป็นภาพ 2 มิติ (กว้างกับยาว)   ที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดรูปร่าง การจัดแบบพื้นที่ใช้สอย เขียนออกมาในลักษณะของสัญลักษณ์เส้น คำย่อ ตัวเลข ตัวอักษร ระดับความสูง และมาตราส่วนประกอบกัน เพื่อใช้สื่อความหมาย การเรียกชื่อแปลนพื้นจะกำหนดตามตำแหน่งของแปลนพื้นตั้งอยู่ 
        สัญลักษณ์ในรูปแปลน
            รูปแปลน เป็นแบบที่แสดงจำนวนสัญลักษณ์ที่มีมากที่สุด ได้แก่ เสา ผนัง ประตู หน้าต่าง บันได ทิศเหนือ การบอกขนาดมิติกว้างยาว ระดับความสูง ชื่อห้อง วัสดุปูพื้น แนวเส้นตัด รายการประกอบแบบ และรหัสรูปด้าน เป็นต้น
            ข1.2 รูปด้าน
            รูปภาพที่คนทั่วไปทำความเข้าใจและอ่านออกได้ง่ายที่สุด อีกทั้งบุคคลที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ในวิชาเขียนแบบมาก่อน และเป็นภาพที่เกือบทุกคนสามารถจะร่างภาพออกมาเป็นลักษณะของภาพลายเส้นด้วยตนเองอย่างคร่าวๆ เนื่องจากเป็นภาพที่พบเห็นในชีวิตประจำวันจนเคยชินต่อสายตา ภาพดังกล่าวจัดเป็นรูปทรงเรขาคณิต 2 มิติ ประเภทหนึ่งสิ่งนั้น คือ รูปด้าน
        ความหมายของรูปด้าน
            รูปด้าน (Elevation) หมายถึง รูปที่ปรากฏในแนวดิ่งของอาคารแสดงรูปร่างรายละเอียดภายนอกโดยรอบเป็นการมองในลักษณะขนานกับพื้นดินทีละด้านจนครบ 4 ด้าน ประกอบการใช้สัญลักษณ์ เส้น ตัวย่อ ตัวอักษร ตัวเลข และมาตราส่วนรวมกันเพื่อใช้สื่อความหมาย รูปด้านมีลักษณะคล้าย
        การกำหนดชื่อหรือการเรียกชื่อรูปด้าน แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้
            1. กำหนดชื่อตามลักษณะของการมองเห็นภาพจากแปลนพื้น ให้ครบ 4 ด้าน เช่น รูปด้านหน้า รูปด้านซ้าย รูปด้านขวาและรูปด้านหลัง เป็นต้น เหมาะสำหรับแปลนพื้นโดยรวมเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีประตูทางเข้าหลักอยู่ด้านอาคาร
            2. กำหนดชื่อตามทิศสี่ทิศ เป็นทิศที่รูปด้านนั้นหันไปทางทิศดังกล่าว จนครบ 4 ด้าน เช่น รูปด้านทิศเหนือ รูปด้านทิศใต้ รูปด้านทิศตะวันออก และรูปด้านทิศตะวันตก เป็นต้น เหมาะสำหรับ กรณีรูปแปลนพื้นรูปทรงสี่เหลี่ยม วางในแนวขนานหรือวางตั้งฉาก กับเครื่องหมายทิศเหนือในรูปแปลนอย่างชัดเจน
            3. กำหนดชื่อตามเครื่องหมายรหัส (Code) รหัสที่ใช้กำหนดเป็นตัวเลขหรือตัวอักษรให้ครบ 4 ด้าน เช่น รูปด้าน 1 รูปด้าน 2 รูปด้าน 3 และรูปด้าน 4 หรือ รูปด้าน ก รูปด้าน ข รูปด้าน ค และรูปด้าน ง เป็นต้น เหมาะสำหรับกรณีรูปแปลนพื้น มีลักษณะเป็นรูปหลายเหลี่ยม รูปวงกลม รูปทรงอิสระ หรือรูปทรงใดๆ ให้เขียนแสดงเครื่องหมายรหัสลงในแปลนพื้น โดยให้ตัวเลข 1 หรือตัวอักษรตัวแรกเป็นรูปด้านหน้า
            ข1.3 รูปตัด
            เราผ่าวัตถุสิ่งของก็เพื่อต้องการทราบรายละเอียดต่างๆ ที่อยู่ภายใน สาเหตุเนื่องจากไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ ในงานเขียนแบบก็เช่นเดียวกัน ถ้าตัดบ้านในแนวนอนขนานกับพื้นดินระดับกึ่งกลางหน้าต่าง เอาส่วนบนออกทิ้ง มองดูส่วนล่างในลักษณะตั้งฉากกับพื้นดิน จะเป็นรูปของแปลนพื้นแต่ละชั้นในทำนองเดียวกัน ถ้าตัดบ้านในแนวตั้ง เอาส่วนหลังลูกศรออกทิ้ง แล้วมองให้ขนานกับพื้นดินไปตามลูกศร จะได้ภาพ 2 มิติ ที่เรียกว่า รูปตัด
        ความหมายของรูปตัด
            รูปตัด (Section) หมายถึง รูปซึ่งเกิดจากการตัดส่วนใดส่วนหนึ่งของวัตถุ ที่ตัดด้วยระนาบเดียวหรือหลายระนาบ เพื่อแสดงให้เห็นส่วนของวัตถุที่ต้องการ ณ จุดระนาบแนวตัด และส่วนที่มองเห็นได้เบื้องหลัง ตามแนวเส้นตัดที่กำหนดไว้ในแปลนพื้น เพื่อแสดงให้เห็นรายละเอียดในแนวดิ่งของงานโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม ตั้งแต่ใต้ดินขึ้นมาถึงส่วนที่อยู่บนดินไปสิ้นสุดที่หลังคา ด้วยการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ ในงานเขียนแบบประกอบกันเพื่อสื่อความหมาย
        รูปตัดในงานเขียนแบบ
        รูปตัดในงานเขียนแบบแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ รูปตัดตามขวาง และรูปตัดตามยาว มีรายละเอียดดังนี้
            1. รูปตัดตามขวาง (Transverse Section) หมายถึง รูปตัดที่ตัดตามแนวเส้นตัดในแปลนพื้นที่ตัดผ่านด้านแคบ หรือด้านสั้นของอาคาร
            2. รูปตัดตามยาว (Longitudinal Section) หมายถึง รูปตัดที่ตัดตามแนวเส้นตัดในแปลนพื้นที่ตัดผ่านด้านยาวของอาคาร กรณีที่รูปแปลนพื้นอาคารเป็นรูปร่างอื่นใดที่มิใช่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำให้แยกไม่ออกว่าด้านใดเป็นด้านสั้นหรือด้านยาว การกำหนดแนวตัดก็ต้องกำหนดเป็น 2 แนวตัด เช่นเดียวกัน โดยให้แนวเส้นตัดทั้ง 2 เส้น ตั้งฉากกัน
            ข1.4 แบบขยายรายละเอียดทางวิศวกรรม
        งานวิศวกรรมโครงสร้างที่วิศวกรได้กำหนดขึ้น เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแข็งแรง และความปลอดภัยของตัวอาคารเป็นหลัก เริ่มจากใต้ดินขึ้นมาเหนือดินไปสิ้นสุดที่หลังคาของโครงสร้างไม้ โครงสร้างเหล็ก และ โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ไม่สามารถเขียนแสดงเป็นมาตราส่วนปกติได้ เนื่องจากมีรายละเอียดปลีกย่อยมากจะต้องนำมาเขียนแยกขยายต่างหาก ซึ่งเปรียบเหมือนการมองผ่านแว่นขยายให้มองเห็นได้อย่างละเอียดชัดเจน
            1. ความหมายของแบบขยายรายละเอียดทางวิศวกรรม
            แบบขยายรายละเอียดทางวิศวกรรม หมายถึง แบบที่แสดงรายละเอียดในบางจุด ที่ต้องเกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมโครงสร้าง ในแปลนพื้น รูปด้าน รูปตัด ที่เขียนแสดงด้วยมาตราส่วนขยายให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อให้เกิดความละเอียดชัดเจนในเชิงลึก เขียนแสดงตัดตอนออกมาเป็นรูปแปลน รูปด้าน รูปตัด และภาพ 3 มิติ ด้วยการใช้สัญลักษณ์ เส้น ตัวย่อ ตัวเลข ตัวอักษร และมาตราส่วน รวมกันเพื่อใช้สื่อความหมาย
            2. การแบ่งประเภทของแบบขยายรายละเอียดทางวิศวกรรม
            แบบขยายรายละเอียดทางวิศวกรรมโครงสร้าง โดยทั่วไปเป็นแบบรูปที่เขียนด้วยมาตราส่วนขยายขนาดโตประกอบคำบรรยายในเชิงลึก แบ่งออกได้ดังนี้
                2.1 แบบขยายเฉพาะจุด ได้แก่ แบบขยายที่ตัดตอนออกมาเฉพาะตามรายการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง เช่น แบบขยายรอยต่อ รอยเชื่อม ของโครงสร้างไม้ โครงสร้างเหล็ก และคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นต้น
                2.2 แบบขยายที่กฎหมายกำหนดขึ้น ได้แก่ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร 2522 ตัวอย่างเช่น แบบขยายรูปหน้าตัดโครงสร้างแบบขยายรายละเอียดการเสริมเหล็กงานคอนกรีต เช่น เสาเข็ม ฐานราก เสา คาน พื้น ผนัง บันได โครงหลังคา และขยายอื่นๆตามความเหมาะสม


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)

    ไม่ระบุ


17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)

    ไม่ระบุ


18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

    18.1 การประเมินความรู้ด้วยข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลือกและข้อสอบแบบอัตนัย
    18.2 การสอบสัมภาษณ์


ยินดีต้อนรับ