หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

รักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำงานและผู้ปฏิบัติงาน

สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ THR-LGOJ-281A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ รักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำงานและผู้ปฏิบัติงาน

3. ทบทวนครั้งที่ - / -

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

5121 (ISCO-88:TH) แม่บ้านในโรงแรม


6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)

     หน่วยสมรรถนะนี้เป็นหน่วยที่เกี่ยวกับความรู้และทักษะที่จำเป็นในการรักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำงานและผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรับมือกับอัคคีภัยและเหตุการณ์เตือนภัยอื่น การรับมือกับภัยคุกคามต่อความปลอดภัย การรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การดำเนินการอพยพ การดำเนินงานธุรการที่เกี่ยวข้อง และการรับมือกับเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 


7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)

สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม และภัตตาคาร


9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)

4222 (ISCO-88:TH) พนักงานบริการส่วนหน้าของโรงแรม 
5121 (ISCO-88:TH) แม่บ้านในโรงแรม 
 


10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria)
3.04.142.01 รับมือกับอัคคีภัยและเหตุการณ์เตือนภัยอื่น

1.1 ระบุสภาพโดยธรรมชาติและจุดติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัย

1.2 ติดต่อประสานงานหน่วยงานให้บริการฉุกเฉิน

1.3 ให้ความช่วยเหลือหน่วยงานให้บริการฉุกเฉินในการเข้าถึงพื้นที่และการอำนวยความสะดวกอื่น

1.4 ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น

3.04.142.02 รับมือกับภัยคุกคามต่อความปลอดภัย

2.1 จัดหน่วยลาดตระเวนเพื่อติดตาม/บ่งชี้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

2.2 รักษาความปลอดภัยพื้นที่เสี่ยง

2.3 รับมือกับสิ่งของต้องสงสัย

2.4 รับมือกับคำขู่หรือการลอบวางระเบิด

3.04.142.03 รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

3.1 ระบุลักษณะและขอบเขตของเหตุการณ์ฉุกเฉิน

3.2 ติดต่อประสานงานหน่วยงานให้บริการฉุกเฉิน

3.3 นำแผนรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินไปใช้ปฏิบัติ

3.4 ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น

3.5 รักษาสวัสดิภาพสูงสุดในสถานการณ์ฉุกเฉิน

3.04.142.04 ดำเนินงานธุรการที่เกี่ยวข้อง

5.1 จัดทำเอกสารและรายงานที่จำเป็น

5.2 ประสานงานกับฝ่ายบริหารในการปรับปรุงความปลอดภัยแก่ลูกค้าและพนักงาน

3.04.142.05 รับมือกับเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต

6.1 ควบคุมสถานการณ์

6.2 ติดต่อประสานงานหน่วยงานให้บริการฉุกเฉิน

6.3 ติดต่อประสานงานฝ่ายบริหาร

6.4 ปกป้อง/รักษาสถานที่เกิดเหตุ

6.5 ปลอบประโลมผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเสียชีวิต


12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)
N/A

13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

-    เทคนิคการตั้งค่าและสั่งให้ระบบเตือนภัยทำงาน
-    ทักษะการใช้ชุดปฐมพยาบาลและเครื่องมือดับเพลิง
-    ทักษะการสื่อสารในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
-    ทักษะการประเมินความเสี่ยงและภัยคุกคามในสถานที่ทำงาน
 

(ข) ความต้องการด้านความรู้

-    ความรู้เกี่ยวกับนโยบายและระเบียบวิธีปฏิบัติขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน
-    ความเข้าใจในมิติด้านความปลอดภัยที่ปรากฏในแผนบริหารภาวะฉุกเฉิน (Emergency Management Plan) ซึ่งรวมถึงความรู้เกี่ยวกับแผนผังของพื้นที่/ที่ทำการ และจุดที่ตั้งของอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย 
-    ความเข้าใจในภารกิจการรักษาความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด
-    หลักการบริหารความปลอดภัยที่ใช้อยู่ในอุตสาหกรรม 
 


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)
(ก)    หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)
-    แสดงความสามารถในการประยุกต์ใช้นโยบายขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยส่วนบุคคลของผู้มีอุปการคุณและพนักงาน
-    แสดงความสามารถในการตอบสนองอย่างมีประสิทธิผลต่อการเตือนภัยประเภทที่ได้รับมอบหมายความรับผิดชอบ ในพื้นที่ที่กำหนด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้มีอุปการคุณและเพื่อนร่วมงาน
-    แสดงความสามารถในการขอรับการช่วยเหลือตามระเบียบ/ขั้นตอน/แผนงานที่กำหนด
-    แสดงความสามารถในการให้การช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่กำหนด
-    แสดงความสามารถในการคาดการณ์สถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้มีอุปการคุณ และอุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหาย และดำเนินมาตการในเชิงป้องกันเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคลสูงสุด
-    แสดงความสามารถในการบริหารจัดการสถานการณ์ที่มีผู้มีอุปการคุณ/ผู้ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
-    แสดงความสามารถในการป้องกันความปลอดภัยให้แก่ผู้มีอุปการคุณและเพื่อนร่วมงานในระหว่างการซ้อมเหตุฉุกเฉิน
-    แสดงความสามารถในการดำเนินการอพยพออกจากพื้นที่/อาคารที่ได้รับมอบหมาย ที่สอดคล้องกับข้อกำหนด/ระเบียบปฏิบัติของแผนบริหารภาวะฉุกเฉิน 

(ข)    หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)
-    มีความเข้าใจในข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยส่วนบุคคลของผู้มีอุปการคุณและพนักงานในสถานที่ทำการ

(ค)    คำแนะนำในการประเมิน
การประเมินควรให้ความสำคัญกับบริบทเฉพาะของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การโรงแรม และภัตตาคาร

(ง)    วิธีการประเมิน
-    ทำแบบทดสอบกรณีศึกษา
-    การฝึกซ้อมกับสถานการณ์จำลอง
-    ทดสอบทักษะการปฏิบัติงานโดยใช้ใบบันทึกการสังเกตการปฏิบัติงาน
-    มอบหมายงาน/โครงการ
-    พิจารณาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
-    รายงานการประเมินจากหน่วยงานภายนอก
 


15. ขอบเขต (Range Statement)

ขอบเขตอธิบายถึงขอบเขตของการปฏิบัติงาน และสภาพแวดล้อมอื่นๆหรือสถานการณ์อื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อการทำงาน รวมถึงเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ทรัพยากรที่ใช้ หรือข้อกำหนดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
(ก)    คำแนะนำ 
ไม่มี

(ข)    คำอธิบายรายละเอียด
-    สภาพโดยธรรมชาติและจุดติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัย หมายถึง
•    การระบุตามประเภทการเตือนภัย เช่น ไฟไหม้ การบุกรุก ควัน น้ำท่วม ก๊าซรั่ว
•    การระบุจุดที่ติดตั้ง แผนก ชั้น ห้อง อย่างชัดเจน
•    การระบุจำนวนจุดเตือนภัยที่สามารถมองเห็นได้
•    การระบุประเภทของการเตือนภัยที่สามารถได้ยินได้  
-    การติดต่อประสานงานหน่วยงานให้บริการฉุกเฉิน รวมถึง
•    ประสานงานทางโทรศัพท์กับหน่วยงานดับเพลิง ตำรวจ แพทย์ฉุกเฉิน 
•    การใช้ช่องทางการสื่อสารในองค์กรสำหรับภาวะฉุกเฉิน
•    การติดต่อประสานงานกับผู้บริหาร
•    การแจ้งเตือนหน่วยงานภายนอก
-    การให้ความช่วยเหลือหน่วยงานให้บริการฉุกเฉินในการเข้าถึงพื้นที่และการอำนวยความสะดวกอื่น หมายถึง
•    มอบหมายความรับผิดชอบให้แก่บุคคลผู้ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานให้บริการฉุกเฉินและนำพาไปสู่จุดเกิดเหตุ
•    ประสานงาน/ร้องขอให้ผู้มีอุปการคุณย้ายยานพาหนะที่จอดกีดขวาง
•    ประสานงานการย้ายพาหนะขององค์กร
•    ปลดล็อคประตูและเคลื่อนย้ายเครื่องกีดขวางต่าง ๆ
•    จัดเตรียมเส้นทางเข้าสู่พื้นที่เกิดเหตุ
•    ขอรับแผนผังอาคารสำหรับจุดเกิดเหตุ
-    การให้การช่วยเหลือเบื้องต้น อาจแตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ โดยอาจจะหมายถึง
•    การให้การปฐมพยาบาล
•    การต่อสู้กับอัคคีภัยเบื้องต้น
•    การดำรงรักษาสถานการณ์ไม่ให้เลวร้าย/รุนแรงเพิ่มขึ้น
•    การปลอบประโลมและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์
•    การเคลื่อนย้ายผู้คนออกจากจุดเกิดเหตุ
•    การดำรงรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลและความปลอดภัยของบุคคลอื่น 
-    พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หมายถึง
•    พฤติกรรมก้าวร้าว หยาบคายและต่อต้านสังคม รวมถึงการโต้เถียงกับผู้มีอุปการคุณหรือพนักงานอื่น
•    การปฏิเสธการเคลื่อนย้ายออกจากสถานที่เมื่อได้รับการร้องขอ
•    มึนเมาสุรา
•    ขู่กรรโชก และสร้างความรุนแรง
•    แต่งกายไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดการแต่งกายของสถานที่
•    จำนวนลูกค้าในห้องพักที่มีมากเกินไป
•    ส่งเสียงดัง เอะอะ โวยวาย
-    ขั้นตอนการรับมือกับสิ่งของต้องสงสัย หมายถึง
•    การอพยพผู้คนออกจากพื้นที่
•    การแจ้ง/รายงานให้ผู้บริหารทราบ
•    การสอบถามหาเจ้าของสิ่งของ
•    การไม่เคลื่อนย้ายสิ่งของต้องสงสัย 
•    การเคลื่อนย้ายสิ่งของต้องสงสัยเมื่อได้รับอนุญาต
-    การรับมือกับคำขู่หรือการลอบวางระเบิด รวมถึง
•    ให้ถือว่าคำขู่ที่ได้รับเป็นจริง
•    บันทึกรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนรายละเอียดของผู้แจ้งเหตุ
•    แจ้งเตือนผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้อง
•    รักษาความสงบและสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีอุปการคุณ
•    อพยพผู้คนออกจากสถานที่
•    ให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตามที่ได้รับการร้องขอ
•    ไม่แตะต้องสิ่งของที่คาดว่าจะเป็นระเบิด และป้องกันพื้นที่จนกว่าเจ้าหน้าที่จะมาถึง
-    การบริหารงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Management Plan) เกี่ยวข้องกับ
•    การรับมือกับเหตุการณ์ที่กระทบ กระเทือน และทำความเสียหายให้กับธุรกิจ โดยภัยที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ในระดับภัยพิบัติ
•    แผนการตระเตรียมทีมงานกู้ภัย (Emergency Response Team) เครื่องไม้เครื่องมือ และทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อการกู้ภัย
•    แผนจัดการป้องกันกับผลกระทบจากอุบัติภัยหรือภัยพิบัติหรือวิกฤติที่เกิดขึ้นเพื่อจำกัดความเสียหายมิให้แผ่ขยายเกินกว่าที่ควรจะเป็น
-    การอบรม การฝึกซ้อม และการประเมินผลเพื่อปรับปรุงแผนการบริหารงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ดียิ่งขึ้น เป็นสิ่งซึ่งต้องกระทำอย่างสม่ำเสมอ ผู้ปฏิบัติตามแผนจะไม่สามารถทำงานได้ดีหากไม่ได้รับการอบรมถึงบทบาทของตัวเองในแผนนั้น แผนจะไม่มีประสิทธิภาพหากไม่เคยทำการฝึกซ้อมเพื่อทดสอบแผนที่เขียน และไม่มีแผนใดที่จะดีพร้อมและคงอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีการปรับปรุง
-    การรักษาสวัสดิภาพสูงสุดในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจหมายรวมถึง
•    ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของบุคคลมากกว่าความปลอดภัยของทรัพย์สิน
•    เคลื่อนย้ายผู้มีอุปการคุณออกจากพื้นที่ ซึ่งรวมถึงการใช้กำลังอย่างเหมาะสม/ในกรณีจำเป็น
•    ป้องกันผู้คนเข้าสู่พื้นที่ ซึ่งรวมถึงการใช้กำลังอย่างเหมาะสม/ในกรณีจำเป็น
-    การระงับความตื่นเต้น ตระหนกตกใจ หมายถึง
•    แสดงความมั่นใจและมีอากัปกิริยาที่ปกติ
•    ดำรงรักษาจิตใจให้สงบ
•    สร้างความเชื่อมั่นให้แก่บุคคลที่แสดงอาการผิดหวัง หวาดกลัว และตื่นตระหนก
-    การระบุเส้นทางอพยพที่จำเป็น อาจหมายรวมถึง
•    อ้างอิงจากบุคคลที่มีความรู้เกี่ยวกับพื้นที่
•    ใช้ความรู้ในการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกอบกับความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับสถานที่และการคาดการณ์เหตุฉุกเฉินของผู้คนในการกำหนดเส้นทาง
•    เปิดทางเลือกหลายทางสำหรับการกำหนดเส้นทางการออกจากสถานที่
•    ตัดสินใจอย่างทันท่วงที
-    การจัดทำเอกสารและรายงานที่จำเป็น หมายถึง
•    รวบรวมและนำเสนอข้อมูลการเข้า-ออกของยานพาหนะและของบุคคล
•    จัดทำบันทึก/ทะเบียนการเข้า-ออกที่มีเงื่อนไขตามคำร้องขอ
•    จัดทำรายงานประเมินความเสียหาย
•    จัดทำรายงานประเมินผลด้านความปลอดภัย การฝ่าฝืน และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
•    ให้การช่วยเหลือในการจัดทำคำร้องขอค่าสินไหมจากบริษัทประกัน
•    รายงานการเป็นพยานในสถานที่เกิดเหตุ
-    การควบคุมสถานการณ์ในกรณีที่มีผู้เสียชีวิต หมายถึง 
•    การทำให้เชื่อมั่นว่าไม่มีผู้ใดได้เห็นผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากผู้ที่ประสบเหตุ
•    ให้เกียรติและความเคารพอย่างเหมาะสมแก่ผู้ตาย
•    ปิดประตูทั้งหมด
•    จัดวางอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็น และปรับเปลี่ยนเส้นทางการสัญจรที่จำเป็น
•    ระมัดระวังการตกหล่นของร่างกายผู้เสียชีวิต
-    การปกป้อง/รักษาสถานที่เกิดเหตุ อาจหมายรวมถึง
•    ใช้อุปกรณ์ป้องกันการเข้ามายังพื้นที่
•    ไม่แตะต้องสิ่งใดๆ ในสถานที่เกิดเหตุ
•    ไม่อนุญาตให้เคลื่อนย้ายสิ่งใด ๆ ออกจากพื้นที่
•    ถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุ
•    จดบันทึกชื่อพยานบุคคลและผู้ที่เกี่ยวข้อง
•    ป้องกันหลักฐานชิ้นสำคัญจากการรบกวนหรือปนเปื้อน
-    การปลอบประโลมผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเสียชีวิต อาจหมายรวมถึง
•    ให้คำปรึกษา 
•    ให้การปฐมพยาบาล หรือนำส่งโรงพยาบาลตามความเหมาะสม
•    แจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม
•    แสดงอาการอันสงบ
 


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

กระบวนการและวิธีการประเมินให้ดูในคู่มือการประเมิน


ยินดีต้อนรับ