หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

เขียนจดหมายธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษ

สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ THR-JSAC-234A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ เขียนจดหมายธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษ

3. ทบทวนครั้งที่ - / -

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

5123 (ISCO-88:TH) พนักงานบริการอาหารและเครื่องดื่ม


6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)

     หน่วยสมรรถนะนี้เป็นหน่วยที่เกี่ยวกับเขียนจดหมายธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ การรับรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของจดหมายธุรกิจ มีความเข้าใจระเบียบแบบแผนของการเขียนจดหมายธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษ การประยุกต์ใช้ระเบียบแบบแผนของการเขียนจดหมายธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษได้

 


7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)

สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม และภัตตาคาร 


9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)

4222 (ISCO-88:TH) พนักงานบริการส่วนหน้าของโรงแรม

5121 (ISCO-88:TH) แม่บ้านในโรงแรม

5122 (ISCO-88:TH) พ่อครัว

7412 (ISCO-88:TH) พ่อครัวขนมปังอบ


10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)

ไม่มี


11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria)
2.10.118.01 รู้และเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของจดหมายธุรกิจ

1.1 เข้าใจการใช้จดหมายธุรกิจที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของธุรกิจในสถานการณ์ต่างๆ

1.2 บ่งชี้วัตถุประสงค์ของการดำเนินธุรกิจกับจดหมายที่ส่งให้ลูกค้า

1.3 บ่งชี้วัตถุประสงค์ของการใช้จดหมายระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง

2.10.118.02 เข้าใจแบบแผนการเขียนจดหมายธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษ

2.1 เลือกใช้รูปแบบจดหมายธุรกิจที่เหมาะสม

2.2 อธิบาย/ขยายความความสำคัญของทัศนคติในการเขียน (Tone)จดหมายธุรกิจ

2.3 อภิปรายรูปแบบของภาษาที่นิยมในการเขียนจดหมายธุรกิจ

2.4 วางแผนการเขียนตอบจดหมายธุรกิจ

2.10.118.03 ประยุกต์ใช้แบบแผนการเขียนจดหมายธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษ

3.1 ประยุกต์ใช้รูปแบบการเขียนจดหมายธุรกิจที่เหมาะสม

3.2 สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมและเป็นมืออาชีพเมื่อต้องเขียนจดหมายธุรกิจ

3.3 ใช้ระดับภาษาที่เหมาะสม สะกดคำถูกต้องเครื่องหมายวรรคตอน และไวยากรณ์


12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)

ไม่มี


13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

  • ความสามารถในการวิเคราะห์และประยุกต์ใช้รูปแบบจดหมายธุรกิจที่เหมาะสม
  • ความสามารถในการวางแผนการโต้ตอบจดหมายที่ส่งออก
  • ความสามารถในการเลือกใช้ทัศนคติในการเขียน (Tone) ของจดหมายธุรกิจ
  • ความสามารถในการเลือกใช้ภาษาที่เหมาะสม

(ข) ความต้องการด้านความรู้

  • ความรู้เกี่ยวกับนโยบายและระเบียบวิธีปฏิบัติขององค์กรที่เกี่ยวกับการเขียนจดหมายธุรกิจ
  • ความรู้เกี่ยวกับการใช้จดหมายธุรกิจในสถานการณ์ต่าง ๆ
  • ความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ การสะกดคำถูกต้อง การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และไวยากรณ์

14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

      หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมินและควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

  • แฟ้มสะสมผลงาน
  • ผลการสัมภาษณ์
  • ผลการสังเกตการณ์ ณ หน้างานจริง 
  • ผลงานหรือชิ้นงานที่ทำสำเร็จแล้ว
  • ผลการประเมินจากโครงการที่รับผิดชอบ

(ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)

  • ผลสอบข้อเขียน
  • ผลการสัมภาษณ์

(ค) คำแนะนำในการประเมิน

การประเมินควรให้ความสำคัญกับบริบทเฉพาะของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การโรงแรม และภัตตาคาร

(ง) วิธีการประเมิน

  • ข้อสอบข้อเขียน
  • การสัมภาษณ์
  • การสังเกตการณ์ ณ หน้างานจริง 
  • ผลงานหรือชิ้นงานที่ทำสำเร็จแล้ว
  • การประเมินจากโครงการที่รับผิดชอบ

15. ขอบเขต (Range Statement)

      ขอบเขตอธิบายถึงขอบเขตของการปฏิบัติงาน และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ หรือสถานการณ์อื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อการทำงาน รวมถึงเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ทรัพยากรที่ใช้ หรือข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

(ก) คำแนะนำ

ไม่มี

(ข) คำอธิบายรายละเอียด

  • การใช้จดหมายธุรกิจที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของธุรกิจในสถานการณ์ต่าง ๆ อาจครอบคลุม
    • การอธิบายข้อกำหนดและเงื่อนไข
    • การแจ้งหรือร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่ผิดพลาดหรือไม่มีคุณภาพ หรือการขอคืนเงิน
    • การติดตามการอภิปรายที่เป็นทางการและไม่ทางการ เพื่อทำให้การตัดสินใจเป็นระเบียบแบบแผน
    • การให้ใบแสดงราคา
    • การให้อนุมัติหรือปฏิเสธสินเชื่อ
    • การแจ้งรายละเอียดของสินค้า หรือจดหมายส่งเสริมการขาย
    • การแนะนำบุคคลหรือพนักงานที่รับผิดชอบ หรือนโยบายขององค์กร
    • การเชิญเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
    • การชักจูงเพื่อส่งเสริมการขาย หรือจดหมายแจ้งข้อเสนอทางการตลาดและการขาย
  • วัตถุประสงค์ของการดำเนินธุรกิจกับจดหมายที่ส่งให้ลูกค้า อาจครอบคลุม
    • การยืนยันการจอง การแจ้งกำหนดการเดินทาง และการชำระค่าสินค้าและบริการ
    • การเชิญร่วมกิจกรรม
    • การนำเสนอข้อเสนอพิเศษและส่วนลด
    • การชักจูง
    • การให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไข
    • การตอบข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะ และข้อซักถาม
    • การกล่าวขอบคุณและต้อนรับลูกค้าใหม่
  • วัตถุประสงค์ของการใช้จดหมายระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง อาจครอบคลุม
    • การยืนยันการจ้างงานและต้อนรับพนักงานใหม่
    • การชี้แจงนโยบายและระเบียบขององค์กร
    • การชี้แจงตำแหน่งและหน้าที่รับผิดชอบของพนักงาน
    • การแสดงความยินดีและชื่นชมกับความสำเร็จในการปฏิบัติงาน
    • การยืนยันผลการประเมินและแจ้งแผนการฝึกอบรม
    • การว่ากล่าวตักเตือนและ/หรือปลดจากการจ้างงาน
  • รูปแบบจดหมายธุรกิจที่เหมาะสม อาจมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละองค์กรและครอบคลุม
    • การวางเค้าโครง (Layout) ของจดหมาย เช่น ตำแหน่งของที่อยู่ของบริษัท ตำแหน่งและรูปแบบการเขียนวันที่  การเขียนที่อยู่ในเนื้อจดหมาย คำทักทาย เช่น “Dear …”
    • ย่อหน้าบทนำ เนื้อหาของจดหมาย และบทสรุป ซึ่งมักจะจัดชิดซ้าย
    • คำลงท้าย เช่น “Yours faithfully” สำหรับการเขียนถึงบุคคลด้วยชื่อแรก หรือ “Yours sincerely”
    • การลงลายมือชื่อ มักจะลงชื่อเต็มในกรณีที่เขียนจดหมายถึงบุคคลที่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว
    • ชื่อของผู้เขียนและตำแหน่งใต้ลายมือชื่อ และมักจะไม่ใส่คำนำหน้า เช่น Ms. หรือ Mr.
    • อักษรย่อในท้ายกระดาษของจดหมาย เช่น cc: และตามด้วยชื่อบุคคลที่ต้องการให้สำเนาของจดหมายส่งไปถึง
    • จดหมายธุรกิจมักจะใช้การพิมพ์โดยคอมพิวเตอร์
  • ทัศนคติในการเขียน (Tone) อาจครอบคลุม
    • บรรยากาศแห่งมิตรภาพ สำหรับกรณีที่ต้องการร้องขอสิ่งใด ตอบรับการร้องขอต่อสิ่งใด ปฏิเสธการร้องขอที่ได้รับ แจ้งข่าวดีและข่าวร้าย
    • ความเป็นมืออาชีพของผู้เขียนจดหมาย และความสุภาพโดยทั่วไป
    • ความสัมพันธ์กับผู้อ่าน
  • ภาษาที่นิยม อาจครอบคลุม
    • เนื้อความที่กระชับ และไม่สับสน/กำกวม
    • การใช้รูปแบบประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ (Active Voice) มากกว่ารูปแบบประโยคที่มีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ (Passive Voice) เช่น ควรเขียนว่า “I will see to it personally” แทนการเขียนว่า “The matter is being looked into”
    • ภาษาที่ใช้มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อผู้อ่าน เช่น ไม่เลือกใช้คำที่คลุมเครือ หรือใช้คำที่สื่อความมากเกินความเป็นจริง ประโยคสั้นกระชับ ตรงประเด็น และความคิดที่ซับซ้อนนำเสนอออกมาให้อ่านง่าย
    • ภาษาที่ใช้ระบุอย่างชัดเจน ไม่ควรนำเสนออย่างกว้างเกินไป เช่น ควรเขียนว่า “Your order should arrive by next Monday” แทนการเขียนว่า “Your order should arrive soon”
    • ภาษาที่ไม่แสดงความแบ่งแยกเพศ เพศสภาพ และการเลือกปฏิบัติ
    • ภาษาที่สุภาพ ไม่สร้างความแตกแยก  หรือสั่งการ/บงการให้กระทำการใด ๆ
    • การเสนอความช่วยเหลือในย่อหน้าสุดท้ายของจดหมาย เช่น “Please do not hesitate to contact us again if you need any help” หรือ “Please let us know if we can be of any assistance in the future”
    • ความเชื่อมโยงที่สอดคล้องกันในประโยค ระหว่างประโยค ในย่อหน้า และในข้อความทั้งหมด ด้วยการใช้คำเชื่อม เครื่องหมาย การอ้างอิง
    • ไวยากรณ์และคำศัพท์ที่ใช้ถูกต้อง
  • วางแผนการเขียนตอบจดหมายธุรกิจ อาจครอบคลุม
    • การทราบถึงวัตถุประสงค์ของจดหมาย
    • การมีความเข้าใจว่าผู้อ่านจดหมายจะเป็นผู้ใด
    • การตัดสินใจในการเขียนเนื้อหาสาระของจดหมายในแต่ละย่อหน้า เช่น บทนำ เนื้อความ และบทสรุป  

16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)

ไม่มี


17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)

ไม่มี


18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

กระบวนการและวิธีการประเมินให้ดูในคู่มือการประเมิน


ยินดีต้อนรับ