หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

จัดให้มีการรักษาความปลอดภัยในที่ทำงาน

สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ THR-ZBEQ-094A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ จัดให้มีการรักษาความปลอดภัยในที่ทำงาน

3. ทบทวนครั้งที่ - / -

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

พนักงานบริการส่วนหน้าในโรงแรม - 4222 (ISCO-88 : TH) หรือ 4224 (ISCO-08 : TH)


6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)

หน่วยสมรรถนะนี้เป็นหน่วยที่เกี่ยวกับความรู้และทักษะที่จำเป็นในการจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยในที่ทำงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระบุหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน การพัฒนาและดำรงรักษากรอบการปฏิบัติงานเพื่อคงไว้ซึ่งข้อกำหนดด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย การจัดให้มีกระบวนการระบุความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย การจัดให้มีกระบวนการประเมินความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย การจัดให้มีกระบวนการควบคุมความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย การสอบสวนการบาดเจ็บ ความเจ็บป่วยและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และการประเมินความมีประสิทธิผลของงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย 


7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)

กลุ่มสาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม และภัตตาคาร


9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)

แม่บ้านในโรงแรม - 5121 (ISCO-88 : TH) หรือ 5151 (ISCO-08 : TH)
พ่อครัว - 5122 (ISCO-88 : TH) หรือ 3434 (ISCO-08 : TH)
พ่อครัวขนมปังอบ - 7412 (ISCO-88 : TH)
พนักงานบริการอาหารและเครื่องดื่ม - 5123 (ISCO-88 : TH) หรือ 5131 (ISCO-08 : TH) 
 


10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria)
1.04.139.1 ระบุหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน

1.1 ระบุสิทธิและหน้าที่รับผิดชอบของนายจ้าง

1.2 ระบุสิทธิและหน้าที่รับผิดชอบของลูกจ้าง

1.3 จัดทำนโยบายด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย

1.04.139.2 พัฒนาและดำรงรักษากรอบการปฏิบัติงานเพื่อคงไว้ซึ่งข้อกำหนดด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย

2.1 จัดเตรียมคำบรรยายลักษณะงานที่สอดคล้องกับหน้าที่รับผิดชอบด้านสุขอนามัยความมั่นคงและความปลอดภัย

2.2 สถาปนาความสัมพันธ์กับฝ่ายบริหาร

2.3 สร้างโครงสร้างรายงานผลการดำเนินงานด้านสุขอนามัยความมั่นคงและความปลอดภัย

2.4 เผยแพร่ข้อมูลด้านสุขอนามัยความมั่นคงและความปลอดภัย

2.5 เสนอการฝึกอบรมด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย

2.6 พัฒนาการเก็บข้อมูลและเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับสุขอนามัยความมั่นคงและความปลอดภัย

1.04.139.3 จัดให้มีกระบวนการระบุความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย

3.1 ดำเนินการตรวจสอบสถานที่ทำงานในส่วนที่เกี่ยวกับกายภาพ

3.2 สนับสนุนให้พนักงานรายงานความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตราย

3.3 วิเคราะห์รายงานบันทึกภายในองค์กร

3.4 ระบุความเสี่ยงในขั้นตอนการวางแผนและการจัดซื้อ

3.5 ติดตามประเมินแหล่งที่มาของความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายในสถานที่ปฏิบัติงาน

1.04.139.4 จัดให้มีกระบวนการประเมินความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย

4.1 ระบุปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการประเมิน

4.2 กำหนดตารางเวลาการประเมินความเสี่ยง

4.3 ดำเนินการให้มีกิจกรรมการประเมินความเสี่ยง

4.4 บันทึกแนวความคิดที่เกิดขึ้นในระหว่างการประชุมเพื่อประเมินความเสี่ยง

4.5 อำนวยความสะดวกโดยการให้คำปรึกษาที่มีประโยชน์และมีประสิทธิผล

4.6 ยึดถือหลักการให้ความปลอดภัยโดยรวมมากกว่าการสร้างความปลอดภัยส่วนบุคคล

4.7 จัดลำดับและความสำคัญของความเสี่ยงระดับต่างๆ

4.8 สรุปผลการประเมินความเสี่ยงและดำเนินกิจกรรมที่เหมาะสม

1.04.139.5 จัดให้มีกระบวนการควบคุมความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย

5.1 วางแผนเพื่อนำกิจกรรมควบคุมมาใช้ปฏิบัติ

5.2 ริเริ่มกิจกรรมควบคุม

5.3 ติดตามประเมินกิจกรรมควบคุม

5.4 ทำการแก้ไขข้อผิดพลาดในกรณีที่จำเป็น

1.04.139.6 สอบสวนการบาดเจ็บ ความเจ็บป่วยและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

6.1 กำหนดวิธีการแจ้งการบาดเจ็บความเจ็บป่วยและเหตุการณ์ต่าง ๆ

6.2 สอบสวนการบาดเจ็บ ความเจ็บป่วยและเหตุการณ์ต่างๆ

6.3 ระบุสาเหตุของการบาดเจ็บความเจ็บป่วยและเหตุการณ์ต่าง ๆ

6.4 ดำเนินมาตรการแก้ไขความผิดพลาด

1.04.139.7 ประเมินความมีประสิทธิผลของงาน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

7.1 ทบทวนและประเมินประสิทธิผลของระบบที่ใช้

7.2 ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในกรณีที่จำเป็น

7.3 ประเมินการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และข้อกำหนดภายในองค์กร


12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)
N/A

13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

-    ความสามารถในการประยุกต์ใช้หลักการด้านเทคนิคการจัดการคู่มือความปลอดภัย
-    ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัย
 

(ข) ความต้องการด้านความรู้

-    ความรู้เกี่ยวกับนโยบายและระเบียบวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความมั่นคง
-    ความรู้ในรายละเอียดเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและปลอดภัย
-    ความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดความปลอดภัย
-    ความรู้เกี่ยวกับการประเมินภัยคุกคามหรือสิ่งที่เป็นอันตราย ความเสี่ยงรูปแบบต่าง ๆ ภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงาน
-    ความรู้เกี่ยวกับมาตรการ วิธีการที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการควบคุมภัยคุกคามและความเสี่ยง
 


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)
(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)
-     แฟ้มสะสมผลงาน 
-     ผลการสัมภาษณ์ 
-     ผลการประเมินด้วยบุคคลที่ 3 
-     ผลการประเมินจากโครงการที่รับผิดชอบ

(ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)
-     ผลการสอบข้อเขียน 
-     ผลการสัมภาษณ์ 
-     ผลการประเมินด้วยบุคคลที่ 3 

(ค) คำแนะนำในการประเมิน
การประเมินควรให้ความสำคัญกับบริบทเฉพาะของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การโรงแรม และภัตตาคาร

(ง) วิธีการประเมิน
-     ข้อสอบข้อเขียน 
-     แฟ้มสะสมผลงาน 
-     การสัมภาษณ์ 
-     การประเมินด้วยบุคคลที่ 3 
-     การประเมินจากโครงการที่รับผิดชอบ
 


15. ขอบเขต (Range Statement)

ขอบเขตอธิบายถึงขอบเขตของการปฏิบัติงาน และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ หรือสถานการณ์อื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อการทำงาน รวมถึงเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ทรัพยากรที่ใช้ หรือข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
(ก) คำแนะนำ 
ไม่มี

(ข) คำอธิบายรายละเอียด
สิทธิและหน้าที่รับผิดชอบของนายจ้าง อาจเกี่ยวข้องกับ
    วัตถุประสงค์ทางกฎหมายที่สำคัญ
    ข้อกฎหมายที่บังคับใช้ที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย
    แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดที่อุตสาหกรรมนำมาใช้ปฏิบัติ
    หน้าที่ในการดูแลของนายจ้างที่พึงมีต่อลูกจ้างและผู้อื่น

สิทธิและหน้าที่รับผิดชอบของลูกจ้าง อาจเกี่ยวข้องกับ
    ข้อกฎหมายที่บังคับใช้ที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย
    แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดที่อุตสาหกรรมนำมาใช้ปฏิบัติ
    หน้าที่ในการดูแลของลูกจ้างที่พึงมีต่อตนเอง เพื่อนร่วมงาน และผู้อื่น

นโยบายด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย อาจครอบคลุมถึง

  •     การบริหารจัดการความปลอดภัย
  •     การยกหรือขนย้ายสิ่งของในการปฏิบัติงาน
  •     การใช้และการจัดเก็บสารเคมี
  •     การใช้สิ่งของที่เป็นอันตราย
  •     การปฏิบัติหน้าที่โดยลำพัง
  •     การจัดการความรุนแรง การข่มขู่ และการล่วงละเมิด
  •     การจัดสถานที่ทำงานให้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัย โดยคำนึงถึงสิ่งที่เป็นอันตรายทางสิ่งแวดล้อม สิ่งที่เป็นอันตรายทางชีวภาพ เครื่องมือและอุปกรณ์ การใช้สารเคมีอย่างผิดวิธี  บทบาทและหน้าที่รับผิดชอบของผู้บริหารและลูกจ้าง

การจัดเตรียมคำบรรยายลักษณะงาน อาจครอบคลุมถึง

  •     การระบุบทบาททางด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัยของพนักงาน
  •     การเขียนคำอธิบายหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทางด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย

ความสัมพันธ์กับฝ่ายบริหาร ควรครอบคลุมถึง

  •     การให้ความร่วมมือกันในการปฏิบัติหน้าที่
  •     การมีส่วนร่วมของทั้งสองฝ่าย
  •     การให้คำปรึกษา
  •     การจัดให้มีโครงสร้างคณะกรรมการดูแลด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย

โครงสร้างรายงานผลการดำเนินงานด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย ควรครอบคลุมถึง

  •     การจัดตารางการประชุม รวมถึงวันที่ เวลา และหัวข้ออภิปราย
  •     การกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
  •     การกำหนดรูปแบบการจดบันทึกการประชุม ประเด็นที่อภิปราย และการตัดสินใจ
  •     การกำหนดให้มีกระบวนการรายงานและเผยแพร่ข้อมูลไปสู่พนักงานในระดับต่าง ๆ  

การเผยแพร่ข้อมูล อาจครอบคลุมถึง

  •     ข้อมูลในรูปของสิ่งพิมพ์ เช่น เอกสาร/คู่มือ/แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย ป้าย/แผ่นพับติดไว้ในสถานที่ต่าง ๆ การให้คำแนะนำทางด้านความปลอดภัย เป็นต้น
  •     การจัดให้มีการอบรมพนักงานในด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย
  •     การประชุมที่เป็นวาระสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัยโดยเฉพาะ

การฝึกอบรมด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
•    การสอนงาน โดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก หรือบุคลากรภายในองค์กรที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เพื่อให้บุคลากรมีทักษะ และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตามขอบเขตงานที่ได้รับมอบหมาย
•    การฝึกอบรม เพื่อพัฒนาความรู้ และทักษะ ซึ่งอาจจะหมายถึง การฝึกอบรมภายนอกองค์กร ได้แก่ การส่งเจ้าหน้าที่เข้ารับการฝึกอบรม/ที่จัดโดยหน่วยงานภายนอก หรือการฝึกอบรมภายในองค์กร ซึ่งเป็นการฝึกอบรมที่จัดขึ้นเองภายในองค์กร โดยวิทยากรภายในหรือวิทยากรภายนอก
 
ข้อมูลและเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย อาจครอบคลุมถึง 

  •     รายงานการตรวจสอบ
  •     รายงานการควบคุมภายใน 
  •     รายงานการประเมินความเสี่ยง
  •     รายงานการวิเคราะห์ภัยคุกคาม 
  •     รายงานการบาดเจ็บ
  •     รายงานการสอบสวนอุบัติเหตุ
  •     รายงานการประชุมของคณะกรรมการด้านสุขอนามัย ความปลอดภัยขององค์กร
  •     รายงานสรุปผลการฝึกอบรม 
  •     มาตรฐานการปฏิบัติงาน
  •     แผนภาพกระบวนการทำงานในการแก้ไขปัญหา
  •     รายงานการติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย
  •     รายงานการบริหารและควบคุมความเสี่ยง
  •     แผนการจัดการด้านความปลอดภัย
  •     แผนการจัดการในภาวะฉุกเฉิน เช่น การอพยพลี้ภัย อัคคีภัย การรั่วของก๊าซ การปล้น การรักษาพยาบาลฉุกเฉิน พายุ
  •     ใบรับรองทางการแพทย์ของพนักงาน
  •     บันทึกและประกาศนียบัตรการฝึกอบรม
  •     รายงานการซ่อมบำรุงอุปกรณ์/เครื่องจักร
  •     รายงานจากที่ปรึกษา
  •     รายงานการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก
  •     ทะเบียนของสารควบคุม/สิ่งที่เป็นอันตราย
  •     ใบข้อมูลความปลอดภัยของวัสดุ
  •     รายละเอียดของคุณสมบัติที่เหมาะสมในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์
  •     การทดสอบท่อความดัน
  •     บันทึกการซ้อมหนีไฟ
  •     รายงานการปฐมพยาบาลและรายงานทางการแพทย์  

การตรวจสอบสถานที่ทำงาน ควรครอบคลุมถึง

  •     การบูรณาการกิจกรรมการตรวจสอบสถานที่ทำงานในกิจกรรมประจำวันในสถานที่ทำงาน
  •     การจัดเตรียมตารางการตรวจสอบ
  •     การจัดสรรหน้าที่ในการตรวจสอบ
  •     การให้ฝ่ายบริหารมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
  •     การทำบันทึกการตรวจสอบสิ่งที่พบเห็น
  •     การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
  •     การวิเคราะห์รายงานบันทึกภายในองค์กร เช่น รายงานอุบัติเหตุ เหตุการณ์เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การบาดเจ็บ ข้อร้องเรียนจากลูกค้า

การสนับสนุนให้พนักงานรายงานความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตราย อาจครอบคลุมถึง

  •     การจัดให้มีการประชุมในสถานที่ทำงานเป็นประจำ
  •     การพัฒนาคณะกรรมการและโครงสร้างด้านสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย
  •     การสร้างความมั่นใจว่าพนักงานไม่ตกเป็นเหยื่อ
  •     การสร้างช่องทางการรายงานสำหรับผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เช่น กล่องคำแนะนำ

การดำเนินการตรวจสอบสถานที่ทำงาน และสนับสนุนให้พนักงานรายงานความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตราย โดยพิจารณาอันตรายจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งแบ่งได้ 4 ด้าน ดังนี้
•    อันตรายจากสภาพแวดล้อมทางเคมี (Chemical Environmental Hazards) เกิดจากการใช้สารเคมีในการทำงาน หรือมีสารเคมีที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตของงาน รวมทั้งวัตถุพลอยได้จากการผลิต เช่น กลุ่มสารเคมีที่เป็นพิษ ก๊าซพิษ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ตัวทำละลาย ฝุ่นละอองที่ทำให้เกิดโรคปอด สารเคมีที่ก่อมะเร็ง
•    อันตรายจากสภาพแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environmental Hazards) คือ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ประกอบอาชีพนั้น จะอยู่ในลักษณะของการได้รับหรือสัมผัสกับสภาพแวดล้อมในลักษณะที่ไม่พอดีหรือผิดจากปกติธรรมดา อันตรายทางด้านกายภาพ ได้แก่ เสียง แสงสว่าง ความสั่นสะเทือน อุณหภูมิที่ผิดปกติ ความดันบรรยากาศที่ผิดปกติ รังสี 
•    อันตรายจากสภาพแวดล้อมทางชีวภาพ (Biological Environmental Hazards) เกิดจากการทำงานที่ต้องเสี่ยงต่อการสัมผัสและได้รับอันตรายจากสารทางด้านชีวภาพ (Biohazardous Agents) แล้วสารชีวภาพนั้นทำให้เกิดความผิดปกติของร่างกาย หรือมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น เช่น เชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ฝุ่นละอองจากส่วนของพืชหรือสัตว์ การติดเชื้อจากสัตว์หรือแมลง การถูกทำร้ายจากสัตว์หรือแมลง 
•    อันตรายจากสภาพแวดล้อมทางด้านการยศาสตร์ (Ergonomics) เป็นอันตรายที่เกิดจากการใช้ท่าทางทำงานที่ไม่เหมาะสม วิธีการปฏิบัติงานที่ไม่ถูกต้อง การปฏิบัติงานที่ซ้ำซาก และความไม่สัมพันธ์กันระหว่างคนกับงานที่ทำ 

รายงานบันทึกภายในองค์กร อาจครอบคลุมถึง

  •     รายงานบันทึกสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย
  •     รายงานการบาดเจ็บ
  •     รายงานการตรวจสอบ
  •     ใบบันทึกการวิเคราะห์ความปลอดภัยของงาน
  •     ใบบันทึกคำร้องเรียน

การระบุความเสี่ยงในขั้นตอนการวางแผนและการจัดซื้อ หมายถึง องค์กรได้จัดให้มีมาตรฐานการปฏิบัติงานสำหรับการจัดซื้อและการจัดจ้าง ในส่วนที่จะมีผลต่อการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดย 
•    การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ต้องพิจารณาถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และมีการดำเนินการเพื่อป้องกันอันตราย โดยกำหนดข้อมูลรายละเอียดความต้องการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พร้อมทั้งตรวจรับตามข้อมูลรายละเอียดที่กำหนดไว้
•    ในกรณีที่เป็นสารเคมีอันตรายต้องมีเอกสารแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสารเคมี เพื่อจะได้ใช้สารเคมีนั้นอย่างถูกต้องและปลอดภัย
•    ในกรณีที่เป็นอุปกรณ์ หรือเครื่องมือ เครื่องจักร ต้องมีเอกสารคู่มือการใช้งานที่ถูกต้องและปลอดภัย
•    การจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจวัดที่เกี่ยวกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ต้องพิจารณาถึงการสอบเทียบ (Calibration) อุปกรณ์ตรวจวัด เพื่อความถูกต้องในการตรวจวัด และต้องมีเอกสารคู่มือการใช้งาน
•    การจัดจ้างผู้รับเหมา และผู้รับเหมาช่วง ต้องจัดจ้างโดยพิจารณาถึงความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการขององค์กร ในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และต้องมีการกำหนดวิธีการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง ปลอดภัย รวมทั้งมีการดำเนินการเพื่อควบคุมดูแลการทำงานของผู้รับเหมาและผู้รับเหมาช่วงให้เป็นไปตามวิธีปฏิบัติที่กำหนด 

แหล่งที่มาของความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายในสถานที่ปฏิบัติงาน อาจรวมถึง
•    จากตัวแทนจำหน่ายหรือองค์กร หรือหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
•     จากบุคคลหรือองค์กรเครือข่ายต่าง ๆ 
•     จากการลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
•     จากสมาคม/สมาพันธ์อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
•     จากการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ

กิจกรรมการประเมินความเสี่ยง อาจรวมถึง
•     การติดต่อประสานงานกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น ๆ 
•    การจัดทำการวิจัยและอ่านผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
•      การทดสอบ/ทดลอง
•     การตรวจเยี่ยมชมหน่วยงานอื่น ๆ 
•     การปรึกษาหารือกับพนักงานและผู้บริหาร
•     การใช้บริการจากที่ปรึกษาภายนอก
•     การพิจารณาถึงลำดับความสำคัญของมาตรการควบคุมต่าง ๆ ที่มีอยู่

บันทึกแนวความคิดที่เกิดขึ้นในระหว่างการประชุม รวมถึง
•     การจดบันทึกรายงานผลการประชุม
•     การแจกจ่ายรายงานบันทึกผลการประชุม
•     การเก็บรักษาเอกสารบันทึกรายงานผลการประชุมเพื่อใช้ในการอ้างอิงต่อไป

การให้คำปรึกษาที่มีประโยชน์และมีประสิทธิผล ควรรวมถึง
•     การแบ่งปันข้อมูล
•     การเปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิดเห็น
•     การนำเอาความคิดเห็นของพนักงานมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจ
•     พนักงานที่แสดงความคิดเห็นจะต้องมีความเป็นอิสระจากอิทธิพลหรือความกดดันของผู้บริหาร

การยึดถือหลักการให้ความปลอดภัยโดยรวมมากกว่าการสร้างความปลอดภัยส่วนบุคคล หมายถึง
•    การที่นายจ้างให้ความสำคัญในการจัดทำระบบรักษาความปลอดภัยและป้องกันความเสี่ยงในขณะปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นการรับประกันความปลอดภัยของพนักงานหรือลูกจ้างในขณะปฏิบัติงาน มากกว่าการวางใจในตัวพนักงานแต่ละคน หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึง ความปลอดภัยในการปฏิบัติงานควรขึ้นอยู่กับระบบการทำงานมากกว่าตัวบุคคล

การจัดลำดับและความสำคัญของความเสี่ยงระดับต่าง ๆ ควรพิจารณาถึง
•    ผลที่ตามมาหลังจากเกิดอุบัติเหตุ
•    ผลที่เกิดขึ้นในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ
•    โอกาสหรือความน่าจะเป็นในการเกิดอุบัติเหตุ

กระบวนการควบคุมความเสี่ยงและสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขอนามัย ความมั่นคงและความปลอดภัย อาจเกี่ยวข้องกับ

  •     การระบุสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด และการดำเนินการเพื่อป้องกันผลกระทบด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น 
  •     การวิเคราะห์สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเพื่อระบุถึงสาเหตุ และแนวทางการดำเนินการ เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
  •     การประเมินความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อป้องกันการเกิดสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
  •     การบันทึกผลการดำเนินการแก้ไขและป้องกัน
  •     การทบทวนประสิทธิผลของการดำเนินการแก้ไขและป้องกัน

การวางแผนเพื่อนำกิจกรรมควบคุมมาใช้ปฏิบัติ อาจรวมถึง
•     การอนุมัติงบประมาณในการซื้อหรือทำการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ถูกระบุว่ามีความเสี่ยง
•     การมอบหมายความรับผิดชอบในการดำเนินการต่าง ๆ
•     การจัดทำแผนงานและระยะเวลาในการดำเนินการ
•     การจัดการอบรมให้แก่พนักงาน
•     การสร้างความคุ้นเคยหรือความเคยชินให้แก่พนักงาน
•    การทดลองการใช้งานหรือการทดลองดำเนินการ

การริเริ่มกิจกรรมควบคุม อาจครอบคลุมถึง
•     การดำเนินการมาตรการแก้ไขชั่วคราว
•     การดำเนินการตามมาตรการแบบค่อยเป็นค่อยไป
•     การนำเอาเครื่องมือ อุปกรณ์ ใหม่ ๆ ออกมาใช้อย่างช้า ไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงแบบทันทีทันใด
•     การดำเนินการตามแผนที่วางไว้
•     การดำเนินการตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และข้อกำหนดภายในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การติดตามประเมินกิจกรรมควบคุม อาจครอบคลุมถึง
•     การได้รับข้อเสนอแนะจากพนักงาน ลูกค้า หรือบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม
•     การใช้ผู้สังเกตการณ์
•     การตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ที่ถูกมอบหมายให้ดำเนินงานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย
•     การวิเคราะห์ผลจากบันทึกและเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
•     เพื่อให้มั่นใจว่า มาตรการใหม่ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องสุขอนามัยหรือป้องกันความเสี่ยงไม่ก่อให้เกิดปัญหาใหม่
การแก้ไขข้อผิดพลาด อาจครอบคลุมถึง
•     การจัดอบรมพิเศษเพิ่มเติม
•     การหยุดใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ดังกล่าวหรือหยุดดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าว
•     ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงหรือสิ่งที่เป็นอันตรายใหม่
•     จัดทำหรือคิดหาทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยกว่าเดิม
•     การปรึกษาหารือกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องเพื่อระบุถึงปัญหาและวิธีการแก้ไขปัญหา
วิธีการแจ้งการบาดเจ็บ ความเจ็บป่วยและเหตุการณ์ต่าง ๆ อาจครอบคลุมถึง
•     การแจ้งภายในและภายนอกองค์กร
•     การแจ้งด้วยการบอกกล่าวด้วยวาจา
•     การแจ้งด้วยการเขียน
•     การระบุถึงความจำเป็นหรือสิ่งที่จำเป็นต้องมีการรายงาน

การสอบสวนการบาดเจ็บ ความเจ็บป่วยและเหตุการณ์ต่าง ๆ อาจครอบคลุมถึง
•     การกั้นเขตอาณาบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ
•     การบันทึกภาพถ่าย
•     การสัมภาษณ์บุคคลหรือพยานที่เกี่ยวข้อง
•     การประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
•     การปรับปรุงแก้ไขบันทึกต่าง ๆ

การระบุสาเหตุของการบาดเจ็บ ความเจ็บป่วยและเหตุการณ์ต่าง ๆ อาจเกี่ยวข้องกับ
•     การวิเคราะห์จากเอกสารหรือบันทึกต่าง ๆ ในที่ทำงาน
•     การวิเคราะห์จากพยาน
•     การวิเคราะห์จากบริบทหรือสภาพแวดล้อม
•     การตรวจสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์
•     การปรึกษากับที่ปรึกษาภายนอกองค์กรหรือผู้เชี่ยวชาญ
•     ทำการสรุปจากหลักฐานต่าง ๆ

ประโยชน์ของการสอบสวนและการระบุสาเหตุของการบาดเจ็บ
•    การบันทึกอุบัติเหตุอย่างละเอียดจะช่วยให้สังเกตเห็นการกระทำหรือสภาพที่ไม่ปลอดภัยที่ต้องมีการดำเนินการแก้ไข การจดบันทึกอุบัติเหตุทำให้ทราบว่าพนักงานฝ่ายใดมักจะเกิดอุบัติเหตุอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุควรตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างถี่ถ้วนทันที และรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร โดยในใบรายงานต้องประกอบด้วย ชื่อที่อยู่ของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เวลาสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ อธิบายสภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น สาเหตุที่มองเห็นได้จะป้องกันอย่างไร ธรรมชาติของการบาดเจ็บ  การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเวลาการปฏิบัติงานที่เสียไป
การประเมินประสิทธิผลของระบบที่ใช้ ควรจะครอบคลุมถึง
•     การประเมินระดับความร่วมมือและปฏิบัติตามบันทึกและเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
•     การเปรียบเทียบระดับความเสี่ยงในปัจจุบันเทียบกับระดับความเสี่ยงก่อนหน้าที่จะมีการดำเนินการเปลี่ยนแปลง
•     การรวบรวมข้อมูลจากพนักงานและผู้บริหาร

การประเมินการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และข้อกำหนดภายในองค์กร อาจครอบคลุมถึง
•     การพิจารณาถึงการเปลี่ยนหรือแก้ไขกฎหมาย รหัส หรือความต้องการภายนอกองค์กรอื่น ๆ 
•     การพิจารณาถึงบันทึกภายในองค์กรและความต้องการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการภายในองค์กร 
 


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

กระบวนการและวิธีการประเมินให้ดูในคู่มือการประเมิน


ยินดีต้อนรับ