หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

จ่ายสารเคมีประปาชุมชน

สาขาวิชาชีพธุรกิจสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะ


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ PUM-WOM-2-013ZA

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ จ่ายสารเคมีประปาชุมชน

3. ทบทวนครั้งที่ - / -

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

3132 ช่างเทคนิคควบคุมเครื่องจักรโรงงานบำบัดน้ำ



6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
ผู้ที่ผ่านสมรรถนะนี้จะสามารถคำนวณหาปริมาณการใช้ และการปรับจ่ายสารเคมีที่เหมาะสมในการฆ่าเชื้อโรคเพื่อให้ได้ปริมาณน้ำประปา และคุณภาพน้ำประปา (น้ำสะอาดตามมาตรฐาน WHO) ที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคตามที่มาตรฐานกำหนด และระบบฆ่าเชื้อโรคทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
เจ้าหน้าที่ควบคุมระบบผลิตน้ำประปา

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
ไม่ระบุ

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
มาตรฐานคุณภาพน้ำ (เงื่อนไขในการเติมคลอรีน) องค์การอนามัยโลก WHO

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
02213.01 เตรียมสารเคมี 1. ใช้ผลการตรวจสอบน้ำดิบกับตารางการเติมสารเพิ่มหาค่าความเข้มข้นของสารเคมีในการผลิตน้ำดิบได้อย่างถูกต้อง 02213.01.01 63399
02213.01 เตรียมสารเคมี 2. ผสมสารละลายให้ได้ตามปริมาณและสัดส่วนกำหนดได้อย่างถูกต้องตามคู่มือการปฏิบัติงาน 02213.01.02 63400
02213.01 เตรียมสารเคมี 3. บรรจุสารละลายให้เครื่องจ่ายสารเคมีตามข้อกำหนดได้อย่างถูกต้องตามคู่มือการปฏิบัติงาน 02213.01.03 63401
02213.02 ปรับอัตราการจ่ายสารเคมี 1. ตรวจความพร้อมเครื่องจ่ายสารเคมีได้อย่างถูกต้องตามคู่มือการปฏิบัติงาน 02213.02.01 63402
02213.02 ปรับอัตราการจ่ายสารเคมี 2. ตั้งค่าเครื่องจ่ายสารเคมีได้อย่างถูกต้องตามคู่มือการปฏิบัติงาน 02213.02.02 63403
02213.02 ปรับอัตราการจ่ายสารเคมี 3. จ่ายสารเคมีทั้งชนิด และปริมาณได้อย่างถูกต้องตามคู่มือการปฏิบัติงาน 02213.02.03 63404

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)

ไม่ระบุ


13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1) ทักษะการถสังเกตเห็นความผิดปกติของระบบฆ่าเชื้อโรคและอุปกรณ์เบื้องต้น ทางกายภาพได้ (การมองเห็น การได้ยินเสียง)

2) ทักษะการคำนวณ/คาดการณ์ และการวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

3) ทักษะการใช้งานระบบฆ่าเชื้อโรค และเครื่องมือวัดเบื้องต้น

 

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1) ความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวกับคลอรีนและการใช้สารเคมี

2) ความรู้การใช้งานระบบฆ่าเชื้อโรค และเครื่องมือวัดเบื้องต้น พื้นฐานช่าง

3) ความรู้ด้านความปลอดภัยในการใช้สารเคมี เครื่องมือ และอุปกรณ์

 


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) อาทิ

1) ใบรับรองการปฏิบัติงานจากสถานประกอบการ

2) แบบบันทึกรายการจากการสังเกต

(ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) อาทิ

1) ใบรับรองการเข้ารับการฝึกอบรม

2) ใบรับรองการผ่านการประเมิน

3) ใบประกาศนียบัตรวุฒิการศึกษา

(ค) คำแนะนำในการประเมิน

1) ผู้ประเมินตรวจประเมินเกี่ยวกับการจ่ายสารเคมีสำหรับฆ่าเชื้อโรค โดยพิจารณาจากร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหลักฐานการปฏิบัติงาน และหลักฐานความรู้

(ง) วิธีการประเมิน

1) พิจารณาตามหลักฐานการปฏิบัติงาน

2) พิจารณาตามหลักฐานความรู้


15. ขอบเขต (Range Statement)

1) สารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรค ได้แก่ คลอรีนไดออกไซด์ (Chlorine Dioxide) คลอรีนน้ำ (Sodium Hypochlorite) โซเดียมไฮโปคลอไรท (Sodium Hypochlorite) และคลอรีนแก๊ส (Chlorine Gas) เป็นต้น

1.1) ค่า pH ในน้ำกับค่า Residual Chlorine

1.    ค่า pH ในน้ำน้อยกว่า 1 Residual Chlorine อยู่ในรูป Cl2

2.    ค่า pH ในน้ำระหว่าง 1 – 3.5 Residual Chlorine อยู่ใน รูป Cl2 และ HOCl

3.    ค่า pH ในน้ำระหว่าง 3.5 – 5.5 Residual Chlorine อยู่ในรูป HOCl ทั้งหมด

4.    ค่า pH ในน้ำระหว่าง 5.5 – 9.0 Residual Chlorine อยู่ในรูป HOCl และ OCl-

5.    ค่า pH ในน้ำมากกว่า 9.0 Residual Chlorine อยู่ในรูป OCl- ทั้งหมด

1.2) เงื่อนไขในการเติมคลอรีน (ตามมาตรฐาน WHO)

1.    Free Residual Chlorine ไม่น้อยกว่า 0.5 mg/L

2.    Contact time 30 นาที

3.    pH น้อยกว่า 8

4.    Water Turbidity น้อยกว่า 1 NTU

1.3) ข้อกำหนดคลอรีนคงเหลือในระบบจ่ายน้ำ

1.    Normal Circumstance : Free Residual Cl2 0.2 - 0.5 mg/L

2.    Outbreak: Free Residual Cl2 ต้องมากกว่า 0.5 mg/L  

2) เครื่องจ่ายสารเคมี มีหน้าที่สำหรับสูบจ่ายสารเคมี เข้าสู่ระบบการผลิตประปาหรือการปรับปรุงคุณภาพน้ำ ในสถานีผลิตน้ำประปา ได้แก่ เครื่องจ่ายสารเคมีชนิดไดอะแฟรม (Diaphragm Dosing Pump) เครื่องจ่ายสารเคมีชนิดลูกสูบ (Piston Dosing Pump) เครื่องจ่ายสารเคมีชนิดสกรู (Screw Dosing Pump) และเครื่องจ่ายสารเคมีแบบหอยโข่ง (Centrifugal pump) เป็นต้น

3) คู่มือการปฏิบัติงาน หมายถึง คู่มือที่ใช้ประกอบในการปฏิบัติงานในสถานประกอบการนั้นๆ โดยการปฏิบัติงานในที่นี้หมายถึงการปฏิบัติงานการจ่ายสารเคมีสำหรับฆ่าเชื้อโรค ซึ่งคู่มือการปฏิบัติงาน ได้แก่ คู่มือกระบวนการหลักด้านกระบวนการผลิตน้ำประปา การประปาส่วนภูมิภาค ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2558 และคู่มือการควบคุมการผลิตน้ำประปาผิวดิน สำนักบริหารจัดการน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ เป็นต้น

4) ปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานตามหน่วยงาน เช่น มาตรฐาน ISO 9001:2000 ด้านการผลิตน้ำประปาจาก สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมน้ำบริโภค มอก. 257-2549 มาตรฐานคุณภาพน้ำประปาของการประปานครหลวงและการประปาส่วนภูมิภาคตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก WHO หรือมาตรฐานผู้ผลิต เป็นต้น

5) ปฏิบัติงานตามข้อกำหนดความปลอดภัยตามคู่มือการบริหารจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ของกองตรวจความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) หรือสถานประกอบการกำหนด เป็นต้น


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
ไม่ระบุ

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
ไม่ระบุ

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

(ก) เครื่องมือประเมินการคำนวณปริมาณสารเคมีสำหรับฆ่าเชื้อโรค

1) แบบฟอร์มประเมินผลการสังเกตการณ์

2) แบบฟอร์มประเมินผลการสาธิตการปฏิบัติงาน

3) แบบฟอร์มประเมินผลการสัมภาษณ์

4) ผลข้อสอบข้อเขียน

(ข) เครื่องมือประเมินการปรับอัตราการจ่ายสารเคมีสำหรับฆ่าเชื้อโรค

1) แบบฟอร์มประเมินผลการสังเกตการณ์

2) แบบฟอร์มประเมินผลการสาธิตการปฏิบัติงาน

3) แบบฟอร์มประเมินผลการสัมภาษณ์

(ค) เครื่องมือประเมินการเขียนรายงานผลการจ่ายสารเคมีสำหรับฆ่าเชื้อโรค

1) แบบฟอร์มประเมินผลการสังเกตการณ์

2) แบบฟอร์มประเมินผลการสาธิตการปฏิบัติงาน

3) แบบฟอร์มประเมินผลการสัมภาษณ์

4) ผลข้อสอบข้อเขียน



ยินดีต้อนรับ