หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

พัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์เทอร์โมฟอร์มมิ่งอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน

สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมการผลิตแม่พิมพ์


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ MLD-NCSV-590A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ พัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์เทอร์โมฟอร์มมิ่งอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน

3. ทบทวนครั้งที่ 2 / 2567

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

รหัส ISCO – อาชีพช่างออกแบบแม่พิมพ์เทอร์โมฟอร์มมิ่ง 

        3115 ช่างเทคนิควิศวกรรมเครื่องกล 

        3119.20 ช่างเทคนิควิศวกรรมควบคุม 

        3119.40 ช่างเทคนิควิศวกรรมการผลิต

 



6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
      ผู้ที่ผ่านหน่วยสมรรถนะนี้ สามารถพัฒนากระบวนการในการออกแบบแม่พิมพ์เทอร์โมฟอร์มมิ่ง ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับรายละเอียดระหว่างขั้นตอนต่างๆ โดยอาศัยข้อมูลจากที่เคยได้ดำเนินการทั้งหมด แล้วนำมาใช้ในการออกแบบครั้งต่อๆ ไปที่จะจัดทำขึ้น เป้าหมายเพื่อการลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ และความน่าเชื่อถือ ด้วยนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
      อุตสาหกรรมการผลิตแม่พิมพ์

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
N/A

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
101P53.1

เตรียมข้อมูลที่เป็นองค์ประกอบต่างๆ เพื่อการพัฒนาปรับปรุง

1.1 ศึกษาข้อมูล Mold Layout  ของแม่พิมพ์

10153.1.01 220609
101P53.1

เตรียมข้อมูลที่เป็นองค์ประกอบต่างๆ เพื่อการพัฒนาปรับปรุง

1.2 ศึกษาโครงสร้างของแม่พิมพ์และการใช้วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ

10153.1.02 220610
101P53.1

เตรียมข้อมูลที่เป็นองค์ประกอบต่างๆ เพื่อการพัฒนาปรับปรุง

1.3 ศึกษาปัญหาในกระบวนการออกแบบที่มีผลต่อ QCD

10153.1.03 220611
101P53.2

วางแผนการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

2.1 กำหนดหัวข้อ และเป้าหมายในการพัฒนา

10153.2.01 220612
101P53.2

วางแผนการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

2.2 วางแผนพัฒนาขั้นตอนการออกแบบ

10153.2.02 220613
101P53.2

วางแผนการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

2.3 จัดทำระบบฐานข้อมูล

10153.2.03 220614
101P53.3

ปฏิบัติการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

3.1 ดำเนินการพัฒนาตามหัวข้อและเป้าหมายที่กำหนด

10153.3.01 220615
101P53.3

ปฏิบัติการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

3.2 ติดตามรวบรวมข้อมูลจากการพัฒนา

10153.3.02 220616
101P53.4

สรุปประเมินผลการพัฒนากระบวนการออกแบบ

4.1 วิเคราะห์ผลการพัฒนา

10153.4.01 220617
101P53.4

สรุปประเมินผลการพัฒนากระบวนการออกแบบ

4.2 สรุปผลการพัฒนา และทำเป็นมาตรฐานรวมทั้งการรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูลในการออกแบบต่อๆ ไป

10153.4.02 220618

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)
N/A

13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1.   สามารถกำหนดหัวข้อและเป้าหมายในการพัฒนา

2.   สามารถวางแผนพัฒนาขั้นตอนการออกแบบ

3.   สามารถจัดทำระบบฐานข้อมูล

4.   สามารถพัฒนาในขั้นตอนย่อยของการออกแบบแม่พิมพ์

5.   สามารถรายงานผลการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

6.   สามารถดำเนินการพัฒนาตามหัวข้อและเป้าหมายที่กำหนด

7.   สามารถติดตามรวบรวมข้อมูลจากการพัฒนา

8.   สามารถวิเคราะห์ผลการพัฒนา

9.   สามารถสรุปผลการพัฒนาและทำเป็นมาตรฐานรวมทั้งการรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูลในการออกแบบต่อๆ ไป

 

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1.   ความรู้เกี่ยวกับข้อมูล Mold Layout ของแม่พิมพ์

2.   ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของแม่พิมพ์และการใช้วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ

3.   ความรู้เกี่ยวกับปัญหาในกระบวนการออกแบบที่มีผลต่อ QCD

4.   ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำระบบฐานข้อมูล

5.   ความรู้ในการพัฒนาในขั้นตอนย่อยของการออกแบบแม่พิมพ์

6.   ความรู้ในการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

7.   ความรู้ในการดำเนินการพัฒนาตามหัวข้อและเป้าหมายที่กำหนด

8.   ความรู้ในการวิเคราะห์ผลการพัฒนา

9.   ความรู้ในการการพัฒนาและทำเป็นมาตรฐานรวมทั้งการรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูลในการออกแบบต่อๆ ไป

 


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

      หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดเป็นข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria)และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and

Knowledge)

(ก)    หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

      1.  แสดงกำหนดหัวข้อและเป้าหมายในการพัฒนา

      2.  แสดงวางแผนพัฒนาขั้นตอนการออกแบบ

      3.  แสดงการจัดทำระบบฐานข้อมูล

      4.  แสดงการพัฒนาในขั้นตอนย่อยของการออกแบบแม่พิมพ์

      5.  แสดงการรายงานผลการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

      6.  แสดงการดำเนินการพัฒนาตามหัวข้อและเป้าหมายที่กำหนด

      7.  แสดงการติดตามรวบรวมข้อมูลจากการพัฒนา

      8.  แสดงการวิเคราะห์ผลการพัฒนา

      9.  แสดงการสรุปผลการพัฒนาและทำเป็นมาตรฐานรวมทั้งการรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูล

      10.  แบบบันทึกรายการผลจากการสังเกตการปฏิบัติงาน

(ข)    หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)

      1.  อธิบายข้อมูล Mold Layout ของแม่พิมพ์

      2.  อธิบายโครงสร้างของแม่พิมพ์และการใช้วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ

      3.  ระบุวิธีแก้ไขปัญหาในกระบวนการออกแบบที่มีผลต่อ QCD

      4.  อธิบายหรือระบุวิธีจัดทำระบบฐานข้อมูล

      5.  อธิบายหรือระบุวิธีการพัฒนาในขั้นตอนย่อยของการออกแบบแม่พิมพ์

      6.  อธิบายหรือระบุวิธีการพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์

      7.  อธิบายหรือระบุวิธีการดำเนินการพัฒนาตามหัวข้อและเป้าหมายที่กำหนด

      8.  อธิบายหรือระบุวิธีการวิเคราะห์ผลการพัฒนา

      9.  อธิบายหรือระบุวิธีการพัฒนาและทำเป็นมาตรฐานรวมทั้งการรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูล

      10.  แบบบันทึกผลการสัมภาษณ์ 

 (ค) คำแนะนำในการประเมิน

      ผู้ประเมินตรวจประเมินเกี่ยวกับการพัฒนา วางแผน ควบคุมกระบวนการออกแบบแม่พิมพ์เทอร์โมฟอร์มมิ่ง โดยพิจารณาจากร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหลักฐานด้านการปฏิบัติงาน  และหลักฐานด้านความรู้

(ง) วิธีการประเมิน

      1. การสอบสัมภาษณ์

      2. การสังเกตการปฏิบัติงาน

 


15. ขอบเขต (Range Statement)

(ก)    คำแนะนำ

      1.  ผู้เข้ารับการประเมินต้องมีความเข้าใจในรายละเอียดเกี่ยวกับชนิด/ประเภทของแม่พิมพ์เทอร์โมฟอร์มมิ่ง

      2.  ผู้เข้ารับการประเมินต้องเข้าใจในข้อกำหนดต่างๆ ที่จะยึดถือเป็นกรอบในการออกแบบแม่พิมพ์แต่ละรายการ

      3.  ผู้เข้ารับการประเมินต้องสามารถทำการออกแบบแม่พิมพ์ได้ และมีประสบการณ์มากถึงขั้นที่จะทำการประเมินการปฏิบัติงานของช่างออกแบบแม่พิมพ์ได้

      4.  ผู้เข้ารับการประเมินต้องสามารถสรุปรายงาน และนำเสนอผลการดำเนินงานได้

      5.  ผู้เข้ารับการประเมินต้องมีคุณสมบัติของการเป็นนักพัฒนาที่ดี

(ข)    คำอธิบายรายละเอียด

      พัฒนากระบวนการในการออกแบบแม่พิมพ์เทอร์โมฟอร์มมิ่งแบบใช้ระบบสุญญากาศ และที่มีความซับซ้อน โดยอาศัยข้อมูลจากที่เคยได้ดำเนินการทั้งหมด นำมาใช้ในการออกแบบครั้งต่อไป เพื่อลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ และความน่าเชื่อถือ โดยนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ

 


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

      เจ้าหน้าที่สอบประเมินสมรรถนะของผู้เข้ารับการประเมินด้วยเครื่องมือประเมินความรู้และทักษะ ให้ครอบคลุมเกณฑ์การปฏิบัติงาน ทักษะและความรู้ที่ต้องการของหน่วยสมรรถนะ ได้แก่

      1. แบบฟอร์มบันทึกการสัมภาษณ์

      2. แบบทดสอบการสังเกตการปฏิบัติงาน

      ดูรายละเอียดจากคู่มือการประเมิน

 



ยินดีต้อนรับ