หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

ประดิษฐ์ ดัดแปลง แก้ไข ตกแต่ง กายอุปกรณ์เสริม

สาขาวิชาชีพวิศวกรรมชีวการแพทย์


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ MET-MXZM-423A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ ประดิษฐ์ ดัดแปลง แก้ไข ตกแต่ง กายอุปกรณ์เสริม

3. ทบทวนครั้งที่ 1 / 2567

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

อาชีพช่างกายอุปกรณ์, ISCO 3214 เจ้าหน้าที่เทคนิคด้านอุปกรณ์การแพทย์เทียม



6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
บุคคลมีความรู้ ทักษะ และความสามารถในการรับคำสั่งที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์ เพื่อวางแผน กำหนดขั้นตอน และปฏิบัติงานตามขั้นตอน ในการประดิษฐ์ ดัดแปลง แก้ไข กายอุปกรณ์เสริม สามารถอธิบายวิธีการใช้งานและวิธีบำรุงรักษากายอุปกรณ์เสริมแก่คนพิการภายใต้การกำกับดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้สั่งการรักษา และ/หรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
สาขาวิชาชีพวิศวกรรมชีวการแพทย์ สาขาการผลิตเครื่องมือแพทย์ อาชีพช่างกายอุปกรณ์ 

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
N/A

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
201PO02.1

การเตรียมความพร้อมในการประดิษฐ์ กายอุปกรณ์เสริม

1.1 วางแผนเลือกวิธีการประดิษฐ์ หรือดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริมตามที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้วินิจฉัยสั่งการรักษาหรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์

201PO02.1.01 218046
201PO02.1

การเตรียมความพร้อมในการประดิษฐ์ กายอุปกรณ์เสริม

1.2 เตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ให้พร้อมใช้งาน เพื่อประดิษฐ์ หรือดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริม

201PO02.1.02 218047
201PO02.2

กรณี ประดิษฐ์ กายอุปกรณ์เสริม อาทิ ข้อเท้า ข้อเข่า

2.1 สร้างแบบแม่พิมพ์ และสร้างหุ่น Positive Model ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์

201PO02.2.01 218048
201PO02.2

กรณี ประดิษฐ์ กายอุปกรณ์เสริม อาทิ ข้อเท้า ข้อเข่า

2.2 สร้างชิ้นส่วนกายอุปกรณ์เสริมจากหุ่น Positive Model 

201PO02.2.02 218049
201PO02.2

กรณี ประดิษฐ์ กายอุปกรณ์เสริม อาทิ ข้อเท้า ข้อเข่า

2.3 ประกอบชิ้นส่วนกายอุปกรณ์เสริมให้ครบถ้วน

201PO02.2.03 218050
201PO02.3

กรณี ดัดแปลง กายอุปกรณ์เสริมอาทิ อุปกรณ์เสริมสันหลัง

3.1 เลือกกายอุปกรณ์เสริมตามที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้วินิจฉัยสั่งการรักษา

201PO02.3.01 218051
201PO02.3

กรณี ดัดแปลง กายอุปกรณ์เสริมอาทิ อุปกรณ์เสริมสันหลัง

3.2 ดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริมให้เหมาะสมตามพยาธิสภาพ

201PO02.3.02 218052
201PO02.4

ทดสอบ แก้ไข ปรับแต่ง และส่งมอบผลงานกายอุปกรณ์เสริม

4.1 ทดสอบกายอุปกรณ์เสริมและ ตรวจสอบการใช้งาน แก้ไขภายใต้การกำกับดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์

201PO02.4.01 218053
201PO02.4

ทดสอบ แก้ไข ปรับแต่ง และส่งมอบผลงานกายอุปกรณ์เสริม

4.2 ปรับแต่งกายอุปกรณ์เสริมให้เหมาะสมกับคนไข้ร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์

201PO02.4.02 218054
201PO02.4

ทดสอบ แก้ไข ปรับแต่ง และส่งมอบผลงานกายอุปกรณ์เสริม

4.3 ส่งมอบกายอุปกรณ์เสริมให้คนไข้ร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์

201PO02.4.03 218055

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)
N/A

13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1.    สามารถ กำหนดขั้นตอน วางแผนการประดิษฐ์ ตกแต่ง ดัดแปลง กายอุปกรณ์เสริม

2.    สามารถเลือกใช้เครื่องมืออุปกรณ์ได้ตามลักษณะงาน ในงานประดิษฐ์ ตกแต่ง ดัดแปลง 

กายอุปกรณ์เสริม 

3.    สามารถเลือกใช้วัสดุ ในงานประดิษฐ์ ตกแต่ง ดัดแปลง กายอุปกรณ์เสริมได้ตามหลักวิชาการ

4.    สามารถถอดรูปสร้างแม่แบบจากส่วนของร่างกายที่เกี่ยวข้องได้ได้ตามหลักวิชาการ

5.    สามารถสร้างและตกแต่งหุ่น ส่วนของร่างกายที่เกี่ยวข้องจากแม่แบบให้เข้ากับผู้ป่วยตามหลักวิชาการ

6.    สามารถสร้างชิ้นส่วนกายอุปกรณ์เสริมจากหุ่นได้ตามหลักวิชาการ

7.    สามารถประกอบและจัดแนวกายอุปกรณ์เสริมได้ตามหลักวิชาการ

8.    สามารถปรับแก้หรือดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริมให้เข้ากับผู้ป่วยตามหลักวิชาการ

9.    ทักษะด้านการสื่อสารภาษาไทยและภาษาต่างประเทศเพื่อการทำงาน

10.    ทักษะด้านการทำงานเป็นทีม สนับสนุนและประสานงานเพื่อผลสำเร็จของงาน

11.    ทักษะด้านการคิด วิเคราะห์ แก้ไขปัญหา และตัดสินใจเพื่อผลสำเร็จของงาน

12.    ทักษะด้านดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

13.    ทักษะด้านความรับผิดชอบในหน้าที่ และจริยธรรมในการปฏิบัติงานอาชีพ

 

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1.    ความรู้ด้านชิ้นส่วน องค์ประกอบของกายอุปกรณ์เสริม 

2.    ความรู้ด้านขั้นตอนการประดิษฐ์กายอุปกรณ์เสริม

3.    ความรู้ด้านกายวิภาค และชีวกลศาสตร์ประยุกต์

4.    ความรู้ด้านการใช้เครื่องมือ เครื่องจักร เครื่องมือกล วัสดุ อุปกรณ์ในการประดิษฐ์ ตกแต่ง ดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริม

5.    ความรู้ด้านการประยุกต์ใช้ผลที่ได้จากการวัดขนาด-มิติของผู้ป่วย

6.    ความรู้ด้านการสร้างแม่แบบ Negative Model และสร้างหุ่น Positive Model จากแม่แบบและตกแต่งหุ่น 

7.    ความรู้ด้านทฤษฎีการสร้างชิ้นงานกายอุปกรณ์เสริมแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับคนไข้ ในกรณีประดิษฐ์กายอุปกรณ์เสริม

8.    ความรู้ด้านทฤษฎีการดัดแปลงชิ้นงานกายอุปกรณ์เสริมแต่ละชนิดให้เหมาะกับคนไข้ ในเป็นกรณีดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริมสำเร็จรูป

9.    ความรู้เรื่องการประกอบชิ้นส่วนกายอุปกรณ์เสริม 

10.    ความรู้ด้านการทดสอบกายอุปกรณ์เสริม 

11.    ความรู้ด้านการวิเคราะห์การใช้งาน และการปรับแก้ให้เหมาะสมเข้ากับผู้ป่วยตามหลักวิชาการ  

12.    ความรู้ด้านการตกแต่งกายอุปกรณ์เสริมให้เหมาะสมเข้ากับผู้ป่วยตามหลักวิชาการ

13.    ความรู้เรื่องวิธีใช้งานและบำรุงรักษากายอุปกรณ์เสริมตามหลักวิชาการ 

 


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

      หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดเป็นข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก)    หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

      1.    แสดงผลงานที่เป็นชิ้นงานกายอุปกรณ์เสริม

      2.    แสดงการเขียนหรืออธิบายแผนกำหนดขั้นตอน การประดิษฐ์ ตกแต่ง ดัดแปลง กายอุปกรณ์เสริม

      3.    แสดงการระบุหรือระบุการเลือกใช้เครื่องมืออุปกรณ์ได้ตามลักษณะงาน ในงานประดิษฐ์ ตกแต่ง ดัดแปลง กายอุปกรณ์เสริม 

      4.    แสดงการเลือกใช้วัสดุ ในงานประดิษฐ์ ตกแต่ง ดัดแปลง กายอุปกรณ์เสริมได้ตามหลักวิชาการ

      5.    แสดงการถอดรูปสร้างแม่แบบจากส่วนของร่างกายที่เกี่ยวข้องได้ได้ตามหลักวิชาการ

      6.    แสดงการสร้างและตกแต่งหุ่น ส่วนของร่างกายที่เกี่ยวข้องจากแม่แบบให้เข้ากับผู้ป่วยตามหลักวิชาการ

      7.    แสดงการสร้างชิ้นส่วนกายอุปกรณ์เสริมจากหุ่นได้ตามหลักวิชาการ

      8.    แสดงการประกอบและจัดแนวกายอุปกรณ์เสริมได้ตามหลักวิชาการ

      9.    แสดงการปรับแก้หรือดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริมให้เข้ากับผู้ป่วยตามหลักวิชาการ

      10.    ใบรับรองผลจากแบบประเมินผลการสาธิตการปฏิบัติงาน

      11.    แฟ้มสะสมผลงาน ที่เป็นเอกสารรับรองผลงานและความรู้ความสามารถที่ผ่านมา

(ข)    หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) 

      1.    ระบุหรืออธิบายชนิด ประเภท และหน้าที่ของชิ้นส่วน องค์ประกอบของกายอุปกรณ์เสริม 

      2.    ระบุหรืออธิบายขั้นตอนการประดิษฐ์กายอุปกรณ์เสริมถูกต้องตามหลักวิชาการ

      3.    อธิบายหลักกายวิภาค และชีวกลศาสตร์ประยุกต์ สำหรับงานกายอุปกรณ์

      4.    ระบุหรืออธิบายชนิด ประเภท และหลักการใช้การเครื่องมือ เครื่องจักร เครื่องมือกล วัสดุ อุปกรณ์ในการประดิษฐ์ ตกแต่ง ดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริม

      5.    อธิบายหลักการประยุกต์ใช้ผลที่ได้จากการวัดขนาด-มิติของผู้ป่วย

      6.    อธิบายขั้นตอนการสร้างแม่แบบ Negative Model และสร้างหุ่น Positive model จากแม่แบบและตกแต่งหุ่น ตามหลักวิชาการ

      7.    อธิบายทฤษฎีการสร้างชิ้นงานกายอุปกรณ์เสริมแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับคนไข้ ในกรณีประดิษฐ์กายอุปกรณ์เสริม

      8.    อธิบายทฤษฎีการดัดแปลงชิ้นงานกายอุปกรณ์เสริมแต่ละชนิดให้เหมาะกับคนไข้ ในเป็นกรณีดัดแปลงกายอุปกรณ์เสริมสำเร็จรูป

      9.    อธิบายหรือกำหนดขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนกายอุปกรณ์เสริม 

      10.    อธิบายหลักการหรือวิธีการทดสอบกายอุปกรณ์เสริม 

      11.    อธิบายหลักการหรือทฤษฎีการวิเคราะห์การใช้งาน และการปรับแก้กายอุปกรณ์เสริมให้เหมาะสมเข้ากับผู้ป่วยตามหลักวิชาการ  

      12.    อธิบายหลักการหรือวิธีการตกแต่งกายอุปกรณ์เสริมให้เหมาะสมเข้ากับผู้ป่วยตามหลักวิชาการ

      13.    อธิบายวิธีใช้งานและบำรุงรักษากายอุปกรณ์เสริมตามหลักวิชาการ

      14.    วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร หรือใบรับรองผลการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกายอุปกรณ์

      15.    ใบรับรองผลจากการประเมินความรู้จากแบบทดสอบข้อเขียนหรือการสัมภาษณ์

(ค)    คำแนะนำในการประเมิน

       เจ้าหน้าที่สอบ ตรวจประเมินหลักฐานโดยพิจารณาจากร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหลักฐานด้านการปฏิบัติงานและหลักฐานด้านความรู้ ที่ครอบคลุมเกณฑ์การปฏิบัติงาน ทักษะและความรู้ที่ต้องการของหน่วยสมรรถนะนี้ 

วิธีการประเมิน

      1)    แฟ้มสะสมผลงาน

      2)    แบบทดสอบข้อเขียน 

      3)    แบบทดสอบการสาธิตการปฏิบัติงาน 

      4)    การสัมภาษณ์เชิงเทคนิค จากผลงานในแฟ้มสะสมผลงานของผู้รับการประเมิน (หากจำเป็น)

 


15. ขอบเขต (Range Statement)

      ขอบเขตการปฏิบัติงานของช่างกายอุปกรณ์ ต้องปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งแพทย์และปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นผู้ช่วยนักกายอุปกรณ์หรือปฏิบัติงานภายใต้การกำกับดูแล ตามคำแนะนำของช่างกายอุปกรณ์ที่มีใบประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์

     การปฏิบัติงานเป็นการประดิษฐ์ แก้ไข กายอุปกรณ์เสริมที่มีกลไกการทำงานพื้นฐานทั่วไป ไม่มีความซับซ้อน สามารถตัดสินใจ แก้ปัญหางานด้วยหลักวิชาการและหลักปฏิบัติที่ดีหรือภายใต้การแนะนำจากผู้มีประสบการณ์สูงกว่า

(ก)    คำแนะนำ 

      การประเมินนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสมรรถนะการประดิษฐ์ ดัดแปลง แก้ไขกายอุปกรณ์เสริม โดยใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีร่วมกันได้แก่ การสังเกตการปฏิบัติงาน การสอบข้อเขียน และการแสดงแฟ้มสะสมผลงาน

(ข)    คำอธิบายรายละเอียด

      1.    กำหนดขั้นตอน หมายถึง ขั้นตอนการผลิตกายอุปกรณ์เสริมตั้งแต่การวางแผน การเตรียมและเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร การถอดแบบ สร้างแม่แบบ การสร้างหุ่น การประกอบชิ้นส่วน การทดสอบกายอุปกรณ์เสริม และการตกแต่งให้สวยงาม

      2.    เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ หมายถึง เครื่องมือที่ใช้ในการผลิตกายอุปกรณ์เสริม เครื่องมือวัด เครื่องมือกลและเครื่องจักรกลที่ใช้ในการผลิตกายอุปกรณ์เสริม  

      3.    ขั้นตอนการประดิษฐ์ หมายถึง ขั้นตอนการสร้างและตกแต่งหุ่นจากแม่พิมพ์ แล้วสร้างชิ้นส่วนและประกอบชิ้นส่วนกายอุปกรณ์เสริมให้เหมาะสมกับพยาธิสภาพตามคำสั่งผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือนักกายอุปกรณ์

      4.    ขั้นตอนการดัดแปลง หมายถึง ขั้นตอนการนำกายอุปกรณ์เสริมสำเร็จรูปมาดัดแปลง ตกแต่ง แก้ไขให้เหมาะสมกับพยาธิสภาพตามคำสั่งผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือนักกายอุปกรณ์  

      5.    ตรวจสอบการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมายถึง การตรวจสอบชิ้นงานกายอุปกรณ์เสริมให้สอดคล้องกับรูปแบบทางทฤษฎีของกายอุปกรณ์เสริมชนิดนั้น

      6.    สถานประกอบการ หมายถึง โรงพยาบาลของรัฐและเอกชน หรือสถานที่ซึ่งผู้ประกอบการ ใช้ประกอบกิจการเป็นประจำ และให้หมายความรวมถึง สถานที่ซึ่งใช้เป็นที่ผลิตหรือเก็บสินค้าเป็นประจำด้วย

(ค) รายการเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องมือกล เครื่องจักรกล ที่จำเป็นต่อหน่วยสมรรถนะนี้

      1.    หุ่นตอแขนหรือตอขา

      2.    เครื่องดูดสุญญากาศพร้อมอุปกรณ์

      3.    ตู้อบให้ความร้อนหรือเตาอบวัสดุ

      4.    เครื่องมือวัด อาทิ บรรทัดเหล็ก เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ สายวัด ลูกดิ่ง

      5.    เครื่องมือกล อาทิ เลื่อยไฟฟ้า เครื่องเจาะตั้งโต๊ะ เครื่องขัดเพลาแหลม

      6.    อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล

      7.    โต๊ะปฏิบัติงานกายอุปกรณ์

      8.    อุปกรณ์จัดแนว

      9.    วัสดุสำหรับทำ Positive Model และ Negative Model (สำหรับเทคนิคเฝือนปูนหรือเทคนิคแบบทราย)

      10.    วัสดุสำหรับทำชิ้นงานกายอุปกรณ์ 

       หมายเหตุ : ในการประเมินทักษะและความสามารถในการปฏิบัติงาน สามารถใช้เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องมือกล เครื่องจักรกล อื่นเพิ่มเติมหรือทดแทนกันได้นอกเหนือจากที่กำหนด เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์การปฏิบัติงานตามหน่วยสมรรถนะนี้ 

 


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

      เจ้าหน้าที่สอบพิจารณาหลักฐานจากแฟ้มสะสมผลงานที่เป็นเอกสารรับรองผลงาน รับรองความรู้ความสามารถที่ผ่านมาก่อนหน้า หากไม่ชัดเจนหรือมีปริมาณเพียงพอให้เชื่อถือได้ ให้ประเมินสมรรถนะของผู้เข้ารับการประเมินด้วยเครื่องมือประเมินความรู้และทักษะ ให้ครอบคลุมเกณฑ์การปฏิบัติงาน ทักษะและความรู้ที่ต้องการของหน่วยสมรรถนะนี้ ได้แก่

      1)    แบบทดสอบข้อเขียน 

      2)    แบบทดสอบการสาธิตการปฏิบัติงาน 

      3)    การสัมภาษณ์เชิงเทคนิค จากผลงานในแฟ้มสะสมผลงานของผู้รับการประเมิน (หากจำเป็น)

 



ยินดีต้อนรับ