หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

เก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน

สาขาวิชาชีพเกษตรกรรม


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ ARC-XUUG-1077A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ เก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน

3. ทบทวนครั้งที่ 1 / 2567

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

รหัสอาชีพ 6112 : ผู้ปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล (ISCO, 2008)


1 6112 ผู้ปฏิบัติงานด้านการปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล

6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
หน่วยสมรรถนะนี้เกี่ยวข้องกับการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และมีมาตรฐาน ผู้ที่มีสมรรถนะของหน่วยสมรรถนะนี้จะต้องนับอายุผลหลังดอกบาน พินิจลักษณะผลแก่ ทางกายภาพ วิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้งตามหลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ เตรียมพื้นที่พักผลผลิต เตรียมอุปกรณ์เก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวตามหลักมาตรฐาน และวางแผนการตลาด

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
ผู้ปฏิบัติงานเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ ผู้ปลูกทุเรียน

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
รหัสอาชีพ 6112 : ผู้ปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล (ISCO, 2008)

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
- พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518- ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร - พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 - พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47          - หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ มกษ. 9070-2566

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
A261

นับอายุผล หลังดอกบาน พินิจลักษณะผลแก่ทางกายภาพ 

นับอายุหลังดอกบานหรือหลังติดผลได้ถูกต้อง

A261.01 216401
A261

นับอายุผล หลังดอกบาน พินิจลักษณะผลแก่ทางกายภาพ 

ประเมินดัชนีความแก่ผลทุเรียนได้ถูกต้อง

A261.02 216402
A261

นับอายุผล หลังดอกบาน พินิจลักษณะผลแก่ทางกายภาพ 

สุ่มตัวอย่างมาตรวจสอบน้ำหนักแห้งได้ถูกต้อง

A261.03 216403
A262

ประเมินชั้นคุณภาพของผลทุเรียน 

แยกชั้นคุณภาพทุเรียน


A262.01 216404
A262

ประเมินชั้นคุณภาพของผลทุเรียน 

ประเมินรูปทรงทุเรียน

A262.02 216405
A262

ประเมินชั้นคุณภาพของผลทุเรียน 

ประเมินขนาดทุเรียน

A262.03 216406
A262

ประเมินชั้นคุณภาพของผลทุเรียน 

ตรวจสอบตำหนิของผลทุเรียน

A262.04 216407
A262

ประเมินชั้นคุณภาพของผลทุเรียน 

จำแนกขนาดผลทุเรียนที่ถูกต้องตามมาตรฐานได้

A262.05 216408
A263

วิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้ง ตามหลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ

สุ่มตัวอย่างเพื่อทำการวิเคราะห์

A263.01 216409
A263

วิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้ง ตามหลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ

ดำเนินการวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้ง

A263.02 216410
A263

วิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้ง ตามหลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ

สรุปและบันทึกผลการวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน 

A263.03 216411
A264

เตรียมอุปกรณ์เก็บเกี่ยวและพื้นที่พักผลผลิต

เลือกพื้นที่พักผลผลิตที่เหมาะสม

A264.01 216412
A264

เตรียมอุปกรณ์เก็บเกี่ยวและพื้นที่พักผลผลิต

เลือกภาชนะที่เหมาะสมต่อการใส่ผลผลิต

A264.02 216413
A264

เตรียมอุปกรณ์เก็บเกี่ยวและพื้นที่พักผลผลิต

เตรียมอุปกรณ์เก็บเกี่ยว

A264.03 216414
A265

เก็บเกี่ยวตามหลักมาตรฐาน GAP

ดำเนินการเก็บเกี่ยวตามหลักมาตรฐาน GAP

A265.01 216415
A265

เก็บเกี่ยวตามหลักมาตรฐาน GAP

บันทึกผลการเก็บเกี่ยว

A265.02 216416
A266

เตรียมการตลาดล่วงหน้า

ตรวจสอบปริมาณความต้องการของผู้ซื้อ/ตลาด


A266.01 216417
A266

เตรียมการตลาดล่วงหน้า

สื่อสารความพร้อมในการมีผลผลิตพร้อมส่งมอบ

A266.02 216418
A266

เตรียมการตลาดล่วงหน้า

วางแผนการส่งมอบและการจำหน่ายทุเรียน 

A266.03 216419

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)



    1. มีทักษะในการเก็บเกี่ยวตามาตรฐาน

    2. มีทักษะในการเตรียมพื้นที่พักผลผลิต

    3. มีทักษะในการเตรียมอุปกรณ์เก็บเกี่ยว




13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ


  1. มีทักษะในการประเมินดัชนีความแก่ผลทุเรียน

  2. มีทักษะในการพินิจลักษณะผลแก่ ทางกายภาพ

  3. มีทักษะในการวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้งตาม

  4. มีทักษะการจดบันทึก

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1)  มีความรู้ในหลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุมกษ. 9070-2566



2)  มีความรู้ในมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง ทุเรียน (มกษ. 3-2567)



3) มีความรู้การเก็บเกี่ยวตามหลักมาตรฐาน GAP


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) ทักษะและความรู้ที่ต้องการ



(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)



1)  หลักฐาน/หนังสือรับรองการทำงาน หรือการผ่านงานที่ออกโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้



2)  แฟ้มสะสมงาน



(ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)



1)  หลักฐานคุณวุฒิการศึกษา



2)  หลักฐานการผ่านการอบรม หรือการประชุมเชิงปฏิบัติการ



3)  ผลการสอบข้อเขียน



4)  ผลการทดสอบสัมภาษณ์/ปฏิบัติ



(ค) คำแนะนำในการประเมิน



                       1) เจ้าหน้าที่สอบตรวจประเมินหลักฐาน โดยพิจารณาจากร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหลักฐานด้านปฏิบัติงาน และหลักฐานด้านความรู้



                   2) หลักฐานที่ต้องการเพื่อแสดงถึงหน่วยสมรรถนะนี้ ต้องมีความสัมพันธ์กับข้อกำหนดของหน่วยสมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงานในหน่วยสมรรถนะนี้ โดยหลักฐานในที่นี้ต้องแสดงถึง








      • ความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้อง

      • วิธีการปฏิบัติงานในแปลง กฎหมาย กฎเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

      • ขอบเขตด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง







(ง) วิธีการประเมิน



- สอบข้อเขียน



- สอบสัมภาษณ์


15. ขอบเขต (Range Statement)

  1. ดัชนีความแก่ผลทุเรียน



สำหรับดัชนีความแก่หรือดัชนีการเก็บเกี่ยวของทุเรียนนั้น สามารถพิจารณาได้จากการสังเกตเปลือกแห้ง ขั้วแข็ง ปลายหนามแห้ง ร่องห่าง เปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้ง การดูความแก่จากลักษณะภายนอกอาจคลาดเคลื่อนได้ ตามสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ สภาพพื้นที่ ภูมิประเทศ สภาพดิน การปฏิบัติ

ดูแลรักษา



สำหรับหลักเกณฑ์ที่เป็นแนวทางในการปฏิบัติที่สามารถทำได้ผลจริงควรเป็น ดังนี้



1. การนับอายุหลังดอกบานหรือหลังติดผล ปกติดอกทุเรียนแต่ละดอกจะใช้เวลาในการบานเพียงคืนเดียวแต่เนื่องจากในแต่ละตันแม้ว่าจะมีการตัดแต่งดอกบางส่วนทิ้งไปแล้วก็ตามก็อาจมีดอกเหลืออยู่อีกหลายหมื่นดอก ดังนั้น ช่วงเวลาของการบานอาจนานเป็นสัปดาห์ อีกทั้งบางต้นมีดอก 2-3 รุ่น ซึ่งปกติชาวสวนควรไว้ดอกแค่ไม่เกิน 2 รุ่น การนับอายุของผลทุเรียนจึงอาจนับจากวันที่ดอกโรยหมดต้นหรือจากวันที่ดอกส่วนใหญ่บานก็ได้ ซึ่งอาจมีอายุการแก่ของผลทุเรียนแต่ละพันธุ์จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ คือ พันธุ์เบา เช่น กระดุมทอง พวงมณี ประมาณ 90 วัน พันธุ์กลาง เช่น กลุ่มชะนี ก้านยาว จะใช้เวลาประมาณ 100 วัน ส่วนกลุ่มพันธุ์หนัก เช่น หมอนทอง ทองย้อย จะใช้เวลาประมาณ 120-130 วัน พันธุ์หมอนทองจะมีช่วงเวลาการแก่ที่กว้างกว่าอีกหลายพันธุ์ทำให้สามารถมีช่วงการเก็บเกี่ยวที่กว้างจาก 100-130 วัน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในเชิงการตลาดมากกว่า



2. การสุ่มตัวอย่างผลทุเรียนมาตรวจสอบความแก่ แม้ว่าเราจะทราบพอเป็นเกณฑ์

ง่าย ๆ ไว้แล้วว่า ผลทุเรียนแต่ละพันธุ์จะมีอายุกี่วันหลังดอกบานหรือหลังติดผล แต่เนื่องจากทุเรียนแต่ละต้นมีจำนวนดอกเป็นหมื่นเป็นแสนดอก กรณีที่ไม่มีการตัดแต่งดอกทิ้งบ้าง เช่น ต้นทุเรียนที่มีอายุระดับ
20-30 ปี มีความสูงเกินกว่า 15 เมตร ค่อนข้างแน่นอนว่าเจ้าของสวนมักจะปล่อยให้การติดผลเป็นไปตามธรรมชาติ ดังนั้น เมื่อเอาเข้าจริงๆ เราจะใช้การนับอายุจำนวนวันหลังติดผลอย่างเดียวอาจผิดพลาดได้ เนื่องจากดอกทุเรียนในต้นนั้นอาจใช้เวลาในการบานนานเป็นสัปดาห์ เราจึงไม่ทราบว่าผลทุเรียนที่อยู่บนต้นนั้นดอกบานจริง ๆ วันไหน (บานวันแรกหรือวันสุดท้าย) ประกอบกับการดูแลรักษาให้ปุ๋ยให้น้ำ ปริมาณฝน และการจัดการอื่น ๆ ก็อาจมีผลต่ออายุการแก่ของผล ฉะนั้น เพื่อความแน่นอนจึงควรมีการสุ่มตัดผลทุเรียนที่อายุครบวันที่น่าจะแก่เก็บเกี่ยวได้มาตรวจสอบเปอร์เซ็นต์แป้งในเนื้อให้ได้ตรงกับมาตรฐานที่ทางกรมวิชาการเกษตรกำหนดไว้ เช่น เนื้อทุเรียนหมอนทองที่แก่เก็บเกี่ยวได้ต้องมีแป้งไม่น้อยกว่า 32% เป็นต้น โดยการสุ่มตัวอย่างจะเลือกผลที่มองจากลักษณะภายนอกว่าแก่มากที่สุดและน่าจะอ่อนมากที่สุดมาเป็นตัวแทนของทุเรียนในรุ่นนั้น ๆ มาวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน




  1. มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง ทุเรียน (มกษ. 3-2567)



1. ขอบข่าย



มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ให้ข้อกำหนดด้านคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับทุเรียน (durian) ตามนิยามผลิตผลข้อ 2.1 ที่มีการจัดเตรียมและบรรจุหีบห่อ เมื่อนำข้อกำหนดไปใช้ในขั้นตอนหลังการบรรจุหีบห่อ ผลิตผลอาจมีลักษณะ ดังต่อไปนี้:



1) สูญเสียความสดและความเต่งเล็กน้อย



                            2) มีความเสียหายอันเนื่องมาจากการพัฒนาของผลและมีแนวโน้มที่จะเสื่อมคุณภาพเล็กน้อย



                       2. นิยามผลิตผล



                             มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ ใช้กับผลทุเรียนพันธุ์ที่ผลิตเป็นการค้า ซึ่งได้มาจากพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Durio spp. อยู่ในวงศ์ Bombacaceae เพื่อจำหน่ายในรูปผลิตผลสดแก่ผู้บริโภค ไม่รวมทุเรียนที่ใช้แปรรูปในอุตสาหกรรม



      3. นิยาม ความหมายของคที่ใช้ในมาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ มีดังต่อไปนี้



                           3.1 แกน (hard pulp) หมายถึง เนื้อทุเรียนสุกบางส่วนที่มีลักษณะแข็ง และอาจมีสีอ่อนกว่าปกติ



                          3.2 เต่าเผา (tip burn) หมายถึง ปลายเนื้อทุเรียนบางส่วนที่หุ้มเมล็ดมีสีน้ำตาล หรือน้ำตาลไหม้



                         3.3 ไส้ซึม (water core หรือ wet core) หมายถึง ไส้กลางของผลฉ่ำน้ำ ถ้าอาการรุนแรงจะลามไปถึงเนื้อทุเรียนได้



                         3.4 พูสมบูรณ์ หรือพูเต็ม (complete fertile lobe) หมายถึง ลักษณะของพูทุเรียนที่มีเนื้อเต็มพูตลอดความยาวของผล



                        3.5 พูไม่สมบูรณ์ หรือพูไม่เต็ม (incomplete -fertile lobe) หมายถึง ลักษณะของพูทุเรียนที่มีเนื้อ ไม่เต็มตลอดความยาวของผล



                       3.6 พูลีบ (non-fertile lobe) หมายถึง ลักษณะของพูทุเรียนที่ไม่มีเนื้อหรือไม่มีเมล็ด



4. คุณภาพ    



4.1 ข้อกำหนดขั้นต่ำ



4.1.1 ทุเรียนทุกชั้นคุณภาพต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะมีข้อกำหนดเฉพาะของแต่ละชั้นคุณภาพและเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้มีได้ตามที่ระบุไว้



             1) เป็นทุเรียนทั้งผล และมีขั้วผล



             2) สภาพดี ไม่เน่า (rotting) หรือเสื่อมสภาพ (deterioration) ที่ทำให้ไม่เหมาะต่อการบริโภค



             3) สะอาด ไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดๆ ที่มองเห็นได้ เท่าที่จะเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ



            4) ไม่มีศัตรูพืชเท่าที่จะเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ



            5) ไม่มีความเสียหายจากศัตรูพืชเท่าที่จะเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ



           6) ไม่มีความชื้นที่ผิดปกติจากภายนอก ทั้งนี้ ไม่รวมถึงหยดน้าที่เกิดหลังจากนาทุเรียน ออกจากห้องเย็น



           7) ไม่มีกลิ่นหรือรสชาติแปลกปลอม



           8) ไม่มีความเสียหายเนื่องจากอุณหภูมิต่าหรืออุณหภูมิสูง



          9) ไม่มีรอยแตกที่เปลือก



          10) เมื่อผลทุเรียนสุก ไม่มีความผิดปกติของเนื้อ ได้แก่ แกน เต่าเผา ไส้ซึม ถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันต้องไม่เกิน 5% ของส่วนที่บริโภคได้



          11) ทุเรียนต้องมีพัฒนาการและมีสภาพที่:



                     ก) ทนต่อการจัดการและขนส่ง



                     ข) อยู่ในสภาพที่ยอมรับได้เมื่อถึงปลายทาง



4.1.2 ข้อกำหนดความอ่อน - แก่



ทุเรียนต้องแก่ได้ที่อยู่ในระยะการพัฒนาในระดับที่เหมาะสมตามเกณฑ์กำหนดของลักษณะพันธุ์ และพื้นที่ที่ปลูก



4.2 การแบ่งชั้นคุณภาพ ผลทุเรียนตามมาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ แบ่งเป็น 3 ชั้นคุณภาพ ดังนี้



4.2.1 ชั้นพิเศษ (Extra class) ทุเรียนในชั้นนี้ต้องมีคุณภาพดีที่สุด ลักษณะตรงตามพันธุ์ มีจำนวนพูสมบูรณ์ไม่น้อยกว่า 4 พู มีลักษณะหนามสมบูรณ์ ไม่มีตำหนิ หากมีตำหนิต้องเป็นตำหนิที่มองเห็นไม่ชัดเจน และไม่มีผลกระทบต่อรูปลักษณ์ทั่วไป คุณภาพของทุเรียน คุณภาพระหว่างการเก็บรักษา และการจัดเรียงเสนอในหีบห่อ



4.2.2 ชั้นหนึ่ง (Class I) ทุเรียนในชั้นนี้ต้องมีคุณภาพดี ลักษณะตรงตามพันธุ์ ทั้งนี้ อาจมีตำหนิได้เล็กน้อย หากตำหนิดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อรูปลักษณ์ทั่วไป คุณภาพของทุเรียน คุณภาพระหว่างการเก็บรักษา และการจัดเรียงเสนอในหีบห่อ ตำหนิที่ยอมให้มีได้ มีดังนี้



           1) ตำหนิเล็กน้อยด้านรูปทรง โดยจำนวนพูสมบูรณ์ไม่น้อยกว่า 3 พู และพูไม่สมบูรณ์อีก 1 พู และไม่ทำให้รูปทรงผลทุเรียนเสียไป



           2) ตำหนิเล็กน้อยด้านสีผิวของผลทุเรียน



           3) ตำหนิเล็กน้อยที่ผิว ซึ่งเกิดจากกระบวนการก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวหรือการขนส่ง เช่น รอยแผลเป็นตื้นๆ และหนามหักหรือช้า โดยขนาดของตำหนิที่ผิวโดยรวมต้อง

ไม่เกิน 10% ของพื้นที่ผิวผล



4.2.3 ชั้นสอง (Class II) ทุเรียนในชั้นนี้รวมทุเรียนที่มีคุณภาพไม่เข้าชั้นที่สูงกว่า แต่มีคุณภาพตามข้อกำหนดขั้นต่ำ ที่กำหนดในข้อ 3.1 ทุเรียนในชั้นนี้มีตำหนิได้ หากยังคงลักษณะที่สาคัญในเรื่องคุณภาพ ของทุเรียน คุณภาพระหว่างการเก็บรักษา และการจัดเรียงเสนอในหีบห่อ ทั้งนี้ ตำหนิที่ยอมให้มีได้ มีดังนี้



             1) ตำหนิด้านรูปทรง โดยจำนวนพูสมบูรณ์ไม่น้อยกว่า 2 พู และพูไม่สมบูรณ์อีก 1 พู และไม่ทำให้รูปทรงทุเรียนเสียไป



             2) ตำหนิด้านสีผิวของผลทุเรียน



             3) ตำหนิเล็กน้อยที่ผิว ซึ่งเกิดจากกระบวนการก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวหรือการขนส่ง เช่น รอยแผลเป็นตื้นๆ และหนามหักหรือช้า โดยขนาดของตำหนิที่ผิวโดยรวมต้อง

ไม่เกิน 10% ของพื้นที่ผิวผล



5. การจัดขนาด



5.1 การจัดขนาดของทุเรียน พิจารณาจากน้ำหนักต่อผล ตารางต่อไปนี้เป็นแนวทางและอาจใช้เป็นทางเลือก (optional basis)



ตารางที่ 1 การจัดขนาดของทุเรียนโดยพิจารณาจากน้ำหนักต่อผล

































รหัสขนาด



น้ำหนักต่อผล (กิโลกรัม)



1



> 4



2



> 3-4



3



> 2-3



4



> 1-2



5



0.5-1




 



5.2 ผลทุเรียนที่เป็นพันธุ์ทางการค้าทั่วไปต้องมีน้ำหนักต่อผล ดังนี้



            1) พันธุ์หมอนทอง ไม่น้อยกว่า 1.2 kg และไม่มากกว่า 6 kg



            2) พันธุ์ชะนี ไม่น้อยกว่า 1.5 kg และไม่มากกว่า 5 kg



            3) พันธุ์กระดุมทอง ไม่น้อยกว่า 1.0 kg และไม่มากกว่า 5 kg



            4) พันธุ์ก้านยาว ไม่น้อยกว่า 1.2 kg และไม่มากกว่า 5 kg



            5) พันธุ์พวงมณี ไม่น้อยกว่า 0.8 kg



            6) พันธุ์หลงลับแล ไม่น้อยกว่า 1.0 kg



            7) พันธุ์นวลทองจันทร์ ไม่น้อยกว่า 1.5 kg และไม่มากกว่า 4.5 kg



            8) พันธุ์นกหยิบ ไม่น้อยกว่า 1.5 kg และไม่มากกว่า 5 kg



            9) พันธุ์สาลิกา ไม่น้อยกว่า 1.0 kg และไม่มากกว่า 4 kg



            10) พันธุ์อื่นๆ ที่เป็นพันธุ์ทางการค้า ไม่น้อยกว่า 0.5 kg



6. เกณฑ์ความคลาดเคลื่อน เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนเรื่องคุณภาพและขนาดที่ยอมให้มีได้ในแต่ละหีบห่อหรือรุ่นที่ส่งมอบ สำหรับทุเรียนที่ไม่เป็นไปตามคุณภาพและขนาดที่ระบุไว้ มีดังนี้



                              6.1 เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนเรื่องคุณภาพ



                                      6.1.1 ชั้นพิเศษ (Extra class) ความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 10% โดยจำนวนหรือน้ำหนักของทุเรียนที่มีคุณภาพไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของชั้นพิเศษ (ข้อ 4.2.1) แต่เป็นไปตามคุณภาพของชั้นหนึ่ง (ข้อ 4.2.2) หรือคุณภาพ ยังอยู่ในเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของคุณภาพชั้นหนึ่ง (ข้อ 6.1.2) ทั้งนี้ ไม่ยอมให้มีความคลาดเคลื่อนของจำนวนพู



                                      6.1.2 ชั้นหนึ่ง (Class I) ความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 10% โดยจำนวนหรือน้ำหนักของทุเรียนที่มีคุณภาพไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของชั้นหนึ่ง (ข้อ 4.2.2) แต่เป็นไปตามคุณภาพของชั้นสอง (ข้อ 4.2.3) หรือคุณภาพ ยังอยู่ในเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของคุณภาพชั้นสอง (ข้อ 6.1.3) ทั้งนี้ ไม่ยอมให้มีความคลาดเคลื่อนของจำนวนพู



                                      6.1.3 ชั้นสอง (Class II) ความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 10% โดยจำนวนหรือน้ำหนักของทุเรียนที่มีคุณภาพไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของชั้นสอง (ข้อ 4.2.3) หรือตามข้อกำหนดขั้นต่ำ (ข้อ 4.1) แต่ต้องไม่เน่า หรือเสื่อมสภาพ ที่ทำให้ไม่เหมาะต่อการบริโภค และทุเรียนต้องแก่ได้ที่อยู่ในระยะการพัฒนาในระดับที่เหมาะสมตามเกณฑ์กำหนดของลักษณะพันธุ์ และพื้นที่ที่ปลูก



                                        6.2 เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนเรื่องขนาด กรณีมีการจัดขนาด ทุเรียนที่มีขนาดไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของการจัดขนาด (ข้อ 5) ปนมาได้ ไม่เกิน 10% โดยจำนวนหรือน้ำหนักของทุเรียน



7. การจัดเรียงเสนอ



7.1 ความสม่ำเสมอ



ทุเรียนที่บรรจุในแต่ละหีบห่อต้องมีความสม่ำเสมอ และบรรจุเฉพาะทุเรียนที่มีพันธุ์ ถิ่นกำเนิด และคุณภาพเดียวกัน รวมทั้งต้องมีความสม่ำเสมอในเรื่องของขนาดด้วยถ้ามีการจัดขนาด กรณีที่มองเห็นทุเรียนจากภายนอกหีบห่อ ส่วนที่มองเห็นต้องเป็นตัวแทนของผลิตผลทั้งหมด



7.2 การบรรจุหีบห่อ



7.2.1 ต้องบรรจุทุเรียนในลักษณะที่สามารถป้องกันผลทุเรียนไม่ให้เกิดความเสียหาย วัสดุที่ใช้ภายใน หีบห่อต้องใหม่ สะอาด และมีคุณภาพที่จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งภายนอกและภายในผลิตผล หากมีการใช้กระดาษหรือตราประทับที่มีข้อมูลทางการค้าต้องใช้หมึกพิมพ์หรือกาวที่ไม่เป็นพิษ การบรรจุทุเรียนในแต่ละภาชนะบรรจุควรปฏิบัติตาม มกษ. 9059 เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับการบรรจุหีบห่อและการขนส่งผักและผลไม้สด ข้อ 3.1 (การบรรจุหีบห่อเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตผลระหว่างการขนส่งและการจำหน่าย) และ ข้อ 3.2 (วิธีปฏิบัติในการลดอุณหภูมิเบื้องต้น)



7.2.2 ภาชนะบรรจุต้องมีคุณภาพ ถูกสุขลักษณะ ระบายอากาศได้ และทนทานต่อการปฏิบัติ (handling) ต่อผลิตผล การขนส่ง และเก็บรักษาทุเรียนไว้ได้



7.2.3 หีบห่อต้องไม่มีสิ่งแปลกปลอมและกลิ่นแปลกปลอม



8. การแสดงฉลาก



การแสดงฉลากให้เป็นไปตาม ข้อ 3 (ข้อกำหนดการแสดงฉลากสินค้าเกษตร) ของมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การแสดงฉลากสินค้าเกษตร (มกษ. 9060) และมีรายละเอียดข้อกำหนดการแสดงฉลากสำหรับหีบห่อสาหรับผู้บริโภค และภาชนะบรรจุที่ไม่ได้จำหน่ายโดยตรงต่อผู้บริโภค ดังนี้



8.1 หีบห่อสำหรับผู้บริโภค อย่างน้อยต้องมีรายการดังนี้



1) ชื่อสามัญของผลิตผล และชื่อพันธุ์ ชนิด หรือชื่อทางการค้า



2) ชั้นคุณภาพ (ถ้ามี)



3) ขนาด หรือ รหัสขนาด (ถ้ามี)



4) น้ำหนักสุทธิ ให้ใช้ระบบเมตริก



5) ชื่อและที่อยู่ ของผู้ผลิต หรือผู้บรรจุ หรือผู้กระจายสินค้า หรือผู้นำเข้า หรือผู้ส่งออก หรือผู้จำหน่ายสินค้า



6) ประเทศถิ่นกำเนิด ยกเว้นกรณีปลูกเพื่อจำหน่ายในประเทศ อาจแสดงเขตที่ปลูกหรือประเทศ ภูมิภาคหรือชื่อท้องถิ่นของสถานที่เพิ่มเติม



7) การระบุรุ่นแสดงรหัสสัญลักษณ์หรือรูปแบบใดๆ ที่บ่งชี้รุ่นการผลิต ทั้งนี้ อาจใช้การแสดงวันที่แทน การระบุรุ่นก็ได้



                                          8) วัน เดือน ปี ที่บรรจุ หรือที่เก็บเกี่ยว



8.2 ภาชนะบรรจุที่ไม่ได้จำหน่ายโดยตรงต่อผู้บริโภค                  



                                ให้แสดงรายการบนฉลาก ดังนี้ ยกเว้นรายการที่มีเครื่องหมาย * กำกับ สามารถแสดงในเอกสารกากับหรือใช้วิธีอื่นได้



1) ชื่อสามัญของผลิตผล และชื่อพันธุ์ ชนิด หรือชื่อทางการค้า



2) ชั้นคุณภาพ (ถ้ามี)*



3) ขนาด หรือ รหัสขนาด (ถ้ามี)*



4) น้ำหนักสุทธิ ให้ใช้ระบบเมตริก



                                         5) ชื่อและที่อยู่ ของผู้ผลิต หรือผู้บรรจุ หรือผู้กระจายสินค้า หรือผู้นำเข้า หรือผู้ส่งออก หรือผู้จำหน่ายสินค้า



                                         6) ประเทศถิ่นกำเนิด ยกเว้นกรณีปลูกเพื่อจาหน่ายในประเทศ อาจแสดงเขตที่ปลูกหรือประเทศ ภูมิภาคหรือชื่อท้องถิ่นของสถานที่เพิ่มเติม



                                         7) การระบุรุ่น แสดงรหัสสัญลักษณ์หรือรูปแบบใดๆ ที่บ่งชี้รุ่นการผลิต ทั้งนี้ อาจใช้การแสดงวันที่แทน การระบุรุ่นก็ได้



                                         8) วัน เดือน ปี ที่บรรจุ หรือที่เก็บเกี่ยว



9. วัตถุเจือปนอาหาร



            ไม่อนุญาตให้ใช้วัตถุเจือปนอาหาร



10. สารปนเปื้อน



                   ปริมาณสารปนเปื้อนให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่อง มาตรฐานอาหาร ที่มีสารปนเปื้อน และข้อกำหนดในมาตรฐานสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้อง



11. สารพิษตกค้าง



                 ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้าง และ มกษ. 9002 มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง สารพิษตกค้าง: ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด และ มกษ. 9003 มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง สารพิษตกค้าง: ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่ปนเปื้อนจากสาเหตุที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้



12. สุขลักษณะ การผลิตและการปฏิบัติต่อทุเรียน ต้องปฏิบัติอย่างถูกสุขลักษณะอย่างถูกต้อง โดย ทุเรียน ต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้



                       1) มกษ. 9001 มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร หรือได้รับการรับรองตาม มกษ. 9001 หรือมาตรฐานที่เทียบเท่า



                   2) กรณีทุเรียนที่มีการบรรจุในโรงคัดบรรจุ ต้องได้รับการรับรองตาม มกษ. 9035 มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงคัดบรรจุผักและผลไม้สด หรือ มกษ. 9047 มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงรวบรวมผักและผลไม้สด หรือมาตรฐานที่เทียบเท่า



13. วิธีวิเคราะห์และชักตัวอย่าง



                  13.1 วิธีวิเคราะห์ ให้ใช้ตามตารางที่ 2 ดังนี้



ตารางที่ 2 วิธีวิเคราะห์








































































ข้อกำหนด



วิธีวิเคราะห์



หลักการ



1. คุณภาพตามข้อกำหนดขั้นต่ำ (ข้อ 4.1.1)



ตรวจพินิจ และใช้ประสาทสัมผัส



 



-



2. ความอ่อน-แก่ของผลทุเรียน (ข้อ 4.1.2)



ให้ใช้วิธีวิเคราะห์ตามภาคผนวก ข



 



-



- ตรวจพินิจลักษณะภายนอกของผลทุเรียนแก่ ตามภาคผนวก ข.1



-



- ตรวจพินิจลักษณะภายในของผลทุเรียนแก่ ตามภาคผนวก ข.2  



-



 



- ตรวจวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้ง



(dry matter content)



การวิเคราะห์โดยน้ำหนัก



(Gravimetry)



3. ตำหนิด้านรูปทรง (ข้อ 4.2)



ตรวจพินิจ



-



4. ตำหนิด้านสีผิว (ข้อ 4.2)



ตรวจพินิจ



-



5. ตำหนิที่ผิว (ข้อ 4.2)



ตรวจพินิจ และวัดขนาดตำหนิเทียบกับพื้นที่ผิวโดยรวมของผลทุเรียน



 



6. ขนาด (ข้อ 5)



ชั่งน้ำหนัก



การวิเคราะห์โดยน้ำหนัก



(Gravimetry)



7. การจัดเรียงเสนอ (ข้อ 7)



ตรวจพินิจ และใช้ประสาทสัมผัส



 



8. การแสดงฉลาก (ข้อ 8)



ตรวจพินิจ



 



9. น้ำหนักสุทธิที่บรรจุแต่ละหีบห่อ (ข้อ 8.1 รายการ 4) และ 8.2 รายการ 4))



ชั่งน้ำหนัก



 



การวิเคราะห์โดยน้ำหนัก



(Gravimetry)




                              วิธีชักตัวอย่าง 



                                      ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดของมาตรฐานสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้อง




  1. การวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้ง ตาม มกษ. 9070-2566



วิธีตรวจสอบผลทุเรียนแก่



.1 ตรวจพินิจลักษณะภายนอกของผลทุเรียนแก่ ผลทุเรียนที่แก่ต้องมีลักษณะ ดังนี้



                   1) ขั้วผลแข็งและสีเข้มกว่าปกติ เมื่อสัมผัสผิวขั้วผลจะรู้สึกสากมือ บริเวณรอยต่อระหว่างขั้วผลกับก้านผลซึ่งเรียกว่าปลิงมีลักษณะบวมใหญ่ขึ้น



                   2) ปลายหนามแห้งมีสีน้ำตาล ร่องโคนหนามห่าง เมื่อบีบปลายหนามเข้าหากันจะรู้สึกว่ามีความยืดหยุ่นมาก



                   3) สังเกตเห็นรอยร่องโคนหนามทุเรียนเป็นแนวยาวสีน้ำตาลบริเวณกลางพูได้ชัดขึ้น ยกเว้นพันธุ์ก้านยาว



            4) สีเปลือกจะเปลี่ยนจากสีเขียวสดเป็นสีเขียวปนน้ำตาลหรือสีเขียวแกมเทา



ก.2 การวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน



ก.2.1 วิธีวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนโดยใช้ตู้อบลมร้อนให้ปฏิบัติ ดังนี้



             1) นำตัวอย่างผลทุเรียนมาผ่าตามแนวขวาง โดยให้มีความหนาชิ้นละ 2.5 cm และสุ่มชิ้นที่หั่นจากเฉพาะส่วนกลางผล ตัดเอาเนื้อจากทุกพูมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 1 mm x 1 mm x 5 mm คลุกเคล้าให้เข้ากัน สุ่มชั่งเนื้อทุเรียนใส่ภาชนะประมาณ 10 g ต่อผล



                    2) เกลี่ยเนื้อทุเรียนในภาชนะให้มีความหนาสม่ำเสมอกัน นำไปอบแห้งโดยใชตู้อบลมร้อนที่อุณหภูมิ 70C เป็นเวลาอย่างน้อย 48 hr จนกระทั่งน้ำหนักตัวอย่างคงที่



              3) คำนวณหาเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งจากสูตรคำนวณ ดังนี้



 





เมื่อ     DM      คือ      น้ำหนักเนื้อแห้ง (dry matter) เป็นเปอร์เซ็นต์



m1      คือ     นํ้าหนักก่อนอบ เป็น g



m2      คือ      นํ้าหนักหลังอบ เป็น g



ก.2.2 วิธีวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนโดยใช้ตู้อบไมโครเวฟ สามารถใช้เป็นวิธีทางเลือกได้ (alternative method) โดยให้ปฏิบัติ ดังนี้



             1) นำตัวอย่างผลทุเรียนมาผ่าตามแนวขวาง โดยให้มีความหนาชิ้นละ 2.5 cm และสุ่มชิ้นที่หั่นจากเฉพาะส่วนกลางผล ตัดเอาเนื้อจากทุกพูมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 mm x 1 mm x 5 mm หรือใช้เครื่องบด คลุกเคล้าให้เข้ากัน สุ่มชั่งเนื้อทุเรียนใส่ภาชนะประมาณ 10 g ต่อผล (กรณีใช้จานกระดาษเป็นภาชนะให้นำไปอบเพื่อไล่ความชื้นโดยใช้ตู้อบไมโครเวฟก่อน จนกว่าน้ำหนักจานกระดาษคงที่ กรณีใช้จานแก้วไม่ต้องอบเพื่อไล่ความชื้น)



                2) เกลี่ยเนื้อทุเรียนในภาชนะให้มีความหนาสม่ำเสมอกัน นำไปอบแห้งโดยใช้ตู้อบไมโครเวฟที่ระดับความร้อนต่ำ (low level) นานครั้งละ 2 min ถึง 3 min (กำลังไฟที่ใช้ ของตู้อบไมโครเวฟที่ระดับความร้อนต่ำอาจแตกต่างกันขึ้นกับรุ่นของตู้อบไมโครเวฟและบริษัทผู้ผลิตซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากคู่มือการใช้ งานของตู้อบไมโครเวฟโดยระยะเวลาในการอบจะขึ้นอยู่กับกำลังไฟที่ใช้ด้วย)



                  3) อบและชั่งน้ำหนักจนกระทั่งน้ำหนักตัวอย่างคงที่ ทั้งนี้ เนื้อทุเรียนต้องไม่ไหม้



                  4) คำนวณหาเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งจากสูตรคำนวณในข้อ ก.2.1



         ก.3 เกณฑ์กำหนดน้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน เกณฑ์กำหนดน้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนที่แก่สำหรับแต่ละพันธุ์ มีดังนี้



1) หมอนทอง: มีน้ำหนักเนื้อแห้งไม่น้อยกว่า 32%



2) ชะนี: มีน้ำหนักเนื้อแห้งไม่น้อยกว่า 30%



3) กระดุมทอง: มีน้ำหนักเนื้อแห้งไม่น้อยกว่า 27%



4) พวงมณี: มีน้ำหนักเนื้อแห้งไม่น้อยกว่า 30%



เกณฑ์กำหนดน้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนพันธุ์อื่นๆ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ ก.3 ให้เป็นไปตามเกณฑ์กำหนดน้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนตาม มกษ. 3 มาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่อง ทุเรียน




  1. มาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 9001-2556 การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร



4.1 ขอบข่าย  มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ ครอบคลุมข้อกําหนดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับการผลิตพืช เพื่อเก็บเกี่ยวผลิตผลสำหรับใช้เป็นอาหาร เช่น พืชผัก ไม้ผล พืชไร่ พืชเครื่องเทศ พืชสมุนไพร ทุกขั้นตอนของการผลิตในระดับฟาร์มและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งมีการบรรจุ และ/หรือรวบรวม ผลิตผลเพื่อจําหน่าย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ผลิตผลที่ปลอดภัย มีคุณภาพเหมาะสมในการบริโภค โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ปฏิบัติงาน



4.2 นิยาม ความหมายของคําที่ใช้ในมาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ มีดังต่อไปนี้



4.2.1 วัตถุหรือสิ่งที่เป็นอันตราย (hazardous substances) หมายถึง วัตถุหรือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเป็น เคมีภัณฑ์ เชื้อจุลินทรีย์ สารพิษจากจุลินทรีย์ ที่อาจทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์สิน หรือ สิ่งแวดล้อม



4.2.2 วัตถุอันตรายทางการเกษตร (pesticides) หมายถึง วัตถุอันตรายที่ใช้ในทางเกษตรตามประกาศ กระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายที่ออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบ



4.2.3 สารพิษตกค้าง (pesticides residue) หมายถึง สารตกค้างใดในสินค้าที่เกิดจากการใช้วัตถุอันตราย ทางการเกษตร และให้หมายความรวมถึงกลุ่มอนุพันธ์ของวัตถุอันตรายทางการเกษตรนั้น ได้แก่ สารที่เกิด จากกระบวนการเปลี่ยนแปลง (conversion) สารที่เกิดจากกระบวนการสร้างและสลาย (metabolites)  สารที่เกิดจากเกิดจากการทำปฏิกิริยา (reaction) หรือสิ่งปลอมปนในวัตถุอันตรายทางการเกษตรที่มีความ เป็นพิษ



4.2.4 ศัตรูพืช (pests) หมายถึง สิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นอันตรายแก่พืชที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ได้แก่ โรคพืช แมลง สัตว์ และวัชพืช 



4.2.5 ปุ๋ย (fertilizers) หมายถึง สารอินทรีย์ อินทรีย์สังเคราะห์ อนินทรีย์ หรือจุลินทรีย์ ไม่ว่าจะเกิดขึ้น โดยธรรมชาติหรือทำขึ้นก็ตาม สำหรับใช้เป็นธาตุอาหารพืชได้ไม่ว่าโดยวิธีใด หรือทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลงทางเคมี กายภาพ หรือชีวภาพในดิน เพื่อบํารุงความเติบโตแก่พืช



4.2.6 สุขลักษณะ (hygiene) หมายถึง สภาวะและมาตรการต่างๆ ที่จําเป็นที่จะทำให้มั่นใจในความ ปลอดภัยของสินค้าเกษตรในทุกขั้นตอนการผลิตและเหมาะสมต่อการบริโภค



4.2.7 การตามสอบ (traceability) หมายถึง ความสามารถในการติดตามที่มาที่ไปของสินค้าเกษตรผ่าน ขั้นตอนหนึ่งหรือหลายขั้นตอนที่ดำเนินการในระดับฟาร์ม



4.3 ข้อกำหนด ข้อกําหนดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสหรับพืชอาหารในส่วนนี้ขอกล่าวเฉพาะ ข้อ 5 การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว มีข้อกำหนด 14 ข้อ ดังนี้



      4.3.1 ต้องเก็บเกี่ยวผลิตผลที่มีอายุเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม โดยผลิตผลมี คุณภาพตามความต้องการของตลาด หรือตามข้อกําหนดของคู่ค้า



      4.3.2 การเก็บเกี่ยวต้องปฏิบัติอย่างถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันการ ปนเปื้อนที่มีผลต่อความปลอดภัยในการบริโภค



      4.3.3 คัดแยกผลิตผลที่ไม่ได้คุณภาพออก หากมีการคัดแยกชั้นคุณภาพและ ขนาดก่อนจําหน่าย ให้คัดแยกชั้นคุณภาพและขนาดของผลิตผลตาม ข้อกําหนดในมาตรฐานสินค้าเกษตรที่กำาหนดสำหรับผลิตผลแต่ละชนิด หรือตามข้อกําหนดของคู่ค้า



      4.3.4 ใช้เครื่องมือหรือวิธีการเฉพาะเพื่อป้องกันการช้ำหรือเป็นรอยตําหนิ ของผลิตผลเนื่องจากการเก็บเกี่ยว



      4.3.5 ป้องกันการปนเปื้อนจากวัตถุหรือสิ่งที่เป็นอันตรายสู่ผลิตผลที่มีการคัดเลือกหรือบรรจุในแปลงปลูกแล้ว และไม่วางผลิตผลที่เก็บเกี่ยว แล้วสัมผัสกับพื้นดินโดยตรง



      4.3.6 แยกภาชนะบรรจุของเสียและวัตถุอันตรายทางการเกษตรอย่างชัดเจน จากภาชนะบรรจุในการเก็บเกี่ยวและการขนย้าย เพื่อป้องกันการปนเปื้อน



      4.3.7 อุปกรณ์ ภาชนะบรรจุ และวัสดุที่สัมผัสกับผลิตผลโดยตรง ต้องทำจากวัสดุที่ไม่ทำให้เกิดการปนเปื้อน 



      4.3.8 ดูแลรักษาอุปกรณ์และภาชนะบรรจุให้สะอาด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสู่ผลิตผล และตรวจสอบให้มีสภาพพร้อมใช้งาน



      4.3.9 จัดให้มีสถานที่เก็บรักษาอุปกรณ์ ภาชนะบรรจุ และวัสดุ ให้เป็นสัดส่วน โดยแยกออกจากวัตถุอันตรายทางการเกษตรหรือสารเคมีอื่น ๆ ปุ๋ย และสารปรับปรุงดิน และให้มีการป้องกันการปนเปื้อนจากสัตว์พาหะนําโรค



      4.3.10 จัดแยกผลิตผลด้อยคุณภาพกับผลิตผลที่มีคุณภาพ รวมถึงมีแผนการใช้ประโยชน์จากผลิตผลที่ด้อยคุณภาพ และตรวจสอบการคละ ปนของผลิตผลที่ด้อยคุณภาพ 



      4.3.11 สถานที่ที่ใช้ในการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว ต้องมีโครงสร้างที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากการปนเปื้อนในผลิตผล



      4.3.12 หากพบความเสี่ยงในการปนเปื้อนอันตรายทางกายภาพจาก อุปกรณ์และเครื่องมือ ให้มีมาตรการป้องกัน



      4.3.13 ป้องกันสัตว์เลี้ยงไม่ให้อยู่ในบริเวณปฏิบัติงาน โดยเฉพาะสถานที่ เก็บเกี่ยว คัดบรรจุ และเก็บรักษา หากมีความเสี่ยงในการเป็นพาหะนํา โรค ให้มีมาตรการป้องกัน



      4.3.14 หากมีการใช้เหยื่อหรือกับดักเพื่อกําจัดสัตว์พาหะนําเชื้อ  ต้องจัดวางในบริเวณที่ไม่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสู่ผลิตผล ภาชนะ บรรจุ และวัสดุ รวมถึงให้มีการบันทึกข้อมูล



(ข้อมูลจาก: มาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 9001-2556 การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร โดย สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.))


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

  1. ประเมินจากแบบสอบข้อเขียน

  2. ประเมินโดยการสัมภาษณ์ตาม

  3. ประเมินจากหลักฐานอื่นๆ เช่น หนังสือรับรอง เอกสารรับรองการผ่านการอบรม หนังสือรับรองการทำงาน/ผ่านงาน โดยต้องดำเนินการควบคู่กับการสัมภาษณ์



ยินดีต้อนรับ