หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

ดูแลรักษาต้นทุเรียน ระยะให้ผลผลิต (4 ปี ขึ้นไป)

สาขาวิชาชีพเกษตรกรรม


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ ARC-DQJR-1076A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ ดูแลรักษาต้นทุเรียน ระยะให้ผลผลิต (4 ปี ขึ้นไป)

3. ทบทวนครั้งที่ 1 / 2567

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

รหัสอาชีพ 6112 : ผู้ปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล (ISCO, 2008)


1 6112 ผู้ปฏิบัติงานด้านการปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล

6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
หน่วยสมรรถนะนี้เกี่ยวข้องกับการบำรุงและดูแลรักษาต้นทุเรียนระยะให้ผลผลิต (4 ปี ขึ้นไป) การจัดการน้ำ ธาตุอาหาร ศัตรูพืช ตัดแต่งกิ่ง ดอก ผล การผสมเกสร โยงกิ่ง โยงผล ห่อผล การปฏิบัติ ก่อน ระหว่าง การออกดอกและผล และการบำรุงต้นหลังการเก็บเกี่ยว ผู้ที่มีสมรรถนะของหน่วยสมรรถนะนี้จะต้องบำรุงและดูแลรักษา ระยะให้ผลผลิต (4 ปี ขึ้นไป) สามารถควบคุมกระบวนการการจัดการน้ำ ใส่ปุ๋ย ป้องกันกำจัดศัตรูพืช ตัดแต่งกิ่ง ดอก ผล ผสมเกสร โยงกิ่ง โยงผล ห่อผล

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
ผู้ปฏิบัติงานเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ ผู้ปลูกทุเรียน

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
รหัสอาชีพ 6112 : ผู้ปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล (ISCO, 2008)

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) กรมวิชาการเกษตร พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
A251

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางใบและต้น

ควบคุมกระบวนการจัดการน้ำ การใส่ปุ๋ย การป้องกันกำจัดศัตรูพืช ช่วงเจริญเติบโตทางใบและต้น

A251.01 216386
A251

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางใบและต้น

บำรุงต้นหลังการเก็บเกี่ยว

A251.02 216387
A251

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางใบและต้น

จัดการระยะสร้างใบชุดที่ 1 ชุดที่ 2 หรือ ชุดที่ 3 

A251.03 216388
A252

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางดอก

ควบคุมกระบวนการการจัดการน้ำ การใส่ปุ๋ย การป้องกันกำจัดศัตรูพืช ช่วงเจริญเติบโตทางดอก

A252.01 216389
A252

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางดอก

จัดการระยะช่วงชักนำการออกดอก ระยะดอก และระยะดอกบาน

A252.02 216390
A252

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางดอก

กำหนดเป้าหมายปริมาณการผลิตทุเรียน

A252.03 216391
A252

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางดอก

ตรวจสอบคุณภาพการผลิตให้เป็นไปตามเป้าหมาย

A252.04 216392
A253

ผสมเกสรที่เหมาะสมตามช่วงเวลา

เตรียมอุปกรณ์ในการผสมเกสรให้พร้อม

A253.01 216393
A253

ผสมเกสรที่เหมาะสมตามช่วงเวลา

ผสมเกสรด้วยวิธีที่ถูกต้องในช่วงเวลาที่กำหนด

A253.02 216394
A254

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางผล 

บำรุงและดูแลรักษาระยะหางแย้ไข่นกกระทา (15 วันหลังดอกบาน)

A254.01 216395
A254

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางผล 

บำรุงและดูแลรักษาระยะกระป๋องนม  (40-45 วันหลังดอกบาน)

A254.02 216396
A254

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางผล 

บำรุงและดูแลรักษาระยะเบ่งพู (45-60 วันหลังดอกบาน)

A254.03 216397
A254

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางผล 

บำรุงและดูแลรักษาระยะขยายพู (สร้างเนื้อ) (60-90 วันหลังดอกบาน)

A254.04 216398
A254

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางผล 

บำรุงและดูแลรักษาระยะสะสมแป้ง (90-105 วันหลังดอกบาน)

A254.05 216399
A254

ดูแลรักษาช่วงการเจริญเติบโตทางผล 

บำรุงและดูแลรักษาระเริ่มแก่พร้อมเก็บเกี่ยว (105-120 วันหลังดอกบาน)

A254.06 216400

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)

1) ลักษณะประจำพันธุ์ของทุเรียน อายุการเก็บเกี่ยว



2) การสืบค้นข้อมูล


13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ


  1. ทักษะเกี่ยวกับการบริหารจัดการจัดการน้ำ ธาตุอาหาร และการป้องกันกำจัดศัตรูพืช

  2. ทักษะเกี่ยวกับการตัดแต่งกิ่ง ดอก ผล การผสมเกสร โยงกิ่ง โยงผล ห่อผล

  3. ทักษะการจดบันทึก

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1)  มีความรู้ เรื่องการบริหารจัดการน้ำ



2)  มีความรู้ เรื่อง การวางแผนและกำหนดเป้าหมายการผลิต


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) ทักษะและความรู้ที่ต้องการ



(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)



1)  หลักฐาน/หนังสือรับรองการทำงาน หรือการผ่านงานที่ออกโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้



2)  แฟ้มสะสมงาน (Portfolio)



(ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)



1)  หลักฐานคุณวุฒิการศึกษา



2)  หลักฐานการผ่านการอบรม หรือการประชุมเชิงปฏิบัติการ



3)  ผลการสอบข้อเขียน



4)  ผลการทดสอบสัมภาษณ์/ปฏิบัติ



(ค) คำแนะนำในการประเมิน



1)  ผู้ประเมินจะดำเนินการตรวจประเมินจากหลักฐาน เช่น แผนการปลูก ภาพถ่ายการวางระบบต่างๆ ภายในแปลงปลูก เป็นต้น พร้อมทั้งคำอธิบายหลักการหรือเหตุผลประกอบ



2) หลักฐานที่ต้องการเพื่อแสดงถึงหน่วยสมรรถนะนี้ ต้องมีความสัมพันธ์กับข้อกำหนดของหน่วยสมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงานในหน่วยสมรรถนะนี้ โดยหลักฐานในที่นี้ต้องแสดงถึง








      • ความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้อง

      • วิธีการปฏิบัติงานในแปลง กฎหมาย กฎเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

      • ขอบเขตด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง







(ง) วิธีการประเมิน



     - การสอบสัมภาษณ์



     - แฟ้มสะสมงาน (Portfolio)


15. ขอบเขต (Range Statement)

ูแลต้นทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้วเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะสามารถทำให้ต้นทุเรียนออกดอกติดผลได้มากขึ้น ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี การเตรียมต้นทุเรียนให้พร้อมที่จะออกดอกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยการทำให้มีใบแก่พร้อมกันทั้งต้น เพื่อให้มีการสร้างอาหารให้กับลำต้นได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีการสะสมอาหาร ในลำต้นเพียงพอต่อการออกดอก และเมื่อมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีความชื้นต่ำ อากาศเย็นลงเล็กน้อย มีช่วงแล้งที่เหมาะสมต่อการกระตุ้นให้เกิดการออกดอกได้ ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมและดำเนินการภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตทันที



1. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะเตรียมการหลังการเก็บเกี่ยว



 แนวทางการปฏิบัติ  



1.1 ตัดแต่งกิ่ง



-  ตัดแต่งกิ่งแห้ง กิ่งหัก กิ่งที่เป็นโรค กิ่งกระโดง เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง แสงแดดส่องได้อย่างทั่วถึง และง่ายต่อการพ่นสารป้องกันและกำจัดโรคและแมลง



-  ควบคุมความสูงของต้นให้อยู่ในระดับความสูง 6-8 เมตร



1.2. เก็บเชือกโยงต้นทุเรียนที่ไม่ได้ใช้แล้ว



1.3. ตรวจสอบความพร้อมของระบบน้ำในสวนให้พร้อมใช้งานสำหรับฤดูกาลผลิตต่อไป



2. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะสร้างใบชุดที่ 1 และ 2 ระยะแตกใบอ่อน ระยะใบเพสลาด



แนวทางการปฏิบัติ



2.1. ควรตัดหญ้าก่อนหว่านปุ๋ยทางดิน โดยหว่านปุ๋ยเพื่อสร้างใบชุดที่ 1 และ 2 ซึ่งจะแตกใบอ่อน



ชุดแรกหลังจากให้ปุ๋ยไปแล้วประมาณ 21-28 วัน



2.2. ควรมีการให้สารป้องกันโรคและแมลงในระยะที่มีการแตกใบอ่อน



2.3. ควรมีการให้ปุ๋ยทางใบเพิ่มเติมในระยะใบคลี่/ใบเพสลาด



3. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะสร้างใบชุดที่ 3 ระยะแตกใบอ่อน ระยะใบเพสลาด



 แนวทางการปฏิบัติ



3.1. ควรตัดหญ้าก่อนหว่านปุ๋ยทางดิน



3.2. หว่านปุ๋ยทางดินเพื่อสร้างใบชุดที่ 3 คือ ใบอ่อนชุดสุดท้ายก่อนออกดอกประมาณ 30-45 วัน



3.3. ควรมีการให้สารป้องกันโรคและแมลงในระยะที่มีการแตกใบอ่อน



3.4. ควรมีการให้ปุ๋ยทางใบเพิ่มเติมในระยะใบคลี่/ใบเพสลาด



 ข้อแนะนำ ชุดใบที่ 3 ควรมีใบที่สมบูรณ์ ใบหนาแต่มีขนาดเล็กกว่าใบที่ 1 และใบที่ 2 เพื่อให้ง่าย



ออกดก และเมื่อได้ใบชุดสุดท้ายแล้วควรมีการพ่นปุ๋ยเพื่อสะสมอาหารอย่างน้อย 3-5 ครั้ง



เพื่อสะสมอาหารให้เพียงพอต่อการออกดอก



การใส่ปุ๋ย  ปุ๋ยเคมี อัตรา 2-3 กิโลกรัม/ต้น



          การให้น้ำ ปริมาณน้ำ 150 ลิตร/ต้น/วัน



การตัดแต่งกิ่ง ควรตัดกิ่งแขนงบริเวณท้องกิ่งเพื่อเตรียมความพร้อมต้นก่อนการออกดอก



การพ่นอาหาร เสริม/ป้องกันโรคและแมลง



4. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะชักนำการออกดอก



 แนวทางการปฏิบัติ



4.1. ควรตัดแต่งกิ่งแขนงภายในทรงพุ่มออกให้หมดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการออกดอก



4.2. ควรหยุดให้น้ำเพื่อให้ต้นทุเรียนได้รับการกระทบแล้งต่อเนื่อง 10-14 วัน



4.3. ควรกำจัดวัชพืช เศษหญ้า เศษใบไม้ใต้ทรงพุ่มเพื่อให้เกิดการถ่ายเทอากาศบริเวณใต้ทรงพุ่ม



4.4. เมื่อต้นทุเรียนกระทบแล้งจะเข้าสู่สภาวะเครียด สังเกตจากปลายกิ่งใบตกช่วง 10.00 น.และ



14.30 น. ต้องให้น้ำเพื่อกระตุ้นการออกดอก โดยให้น้ำประมาณ 1 ชั่วโมง/ครั้ง แล้วงดน้ำต่ออีก 4 วัน สังเกตใต้ ท้องกิ่งว่ามีการติดตาดอกหรือไม่ หากมีการแตกตาดอก ให้น้ำครั้งละน้อยๆ แต่ให้อย่างสม่ำเสมอ



การให้น้ำ   งดน้ำ 10-14 วัน เมื่อสังเกตว่าทุเรียนได้รับสภาวะเครียด ให้น้ำ 300-400 ลิตร

เป็น เวลา 1 ชั่วโมง แล้วงดน้ำต่อ 4-5 วัน เพื่อสังเกตการออกดอกใต้ท้องกิ่ง



การพ่นอาหาร เสริม/ป้องกันโรคและแมลง



5. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะดอก



 แนวทางการปฏิบัติ



5.1. หลังจากดอกทุเรียนเข้าสู่ระยะเหยียดตีนหนู ค่อยๆเพิ่มปริมาณน้ำขึ้นทีละน้อย ถ้าให้น้ำมากจนเกินไป กลุ่มตาดอกอาจจะกลายเป็นกิ่งแขนงได้



5.2. ระยะกระดุมมะเขือพวงจนถึงดอกบาน ควรฉีดพ่นสารป้องกันโรคและแมลง (เพลี้ยไฟ หนอน



เจาะดอก) อย่างน้อย 2 ครั้ง



5.3. ก่อนดอกบาน 4-7 วัน ควรลดปริมาณการให้น้ำเพื่อทำให้เกสรดอกตัวเมียมีความเหนียว เตรียมพร้อมรับการผสมให้มากขึ้น และยังช่วยให้ดอกทุเรียนไม่บานจนเกินไป



6. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะดอกบาน



6.1. ช่วยผสมเกสรด้วยวิธีการปัดดอก ในช่วงเวลา 19.00-21.00 น.



6.2. จดบันทึกวันดอกบาน เพื่อมากำหนดปฏิทินในการดูแลทุเรียนในแต่ละระยะและวางแผนใน



การเก็บเกี่ยว



7. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะหางแย้–ไข่นกกระทา (15 วันหลังดอกบาน)



ระยะนี้ทุเรียนจะเริ่มเข้าสู่ระยะการติดผล



7.1. ควรฉีดพ่นสารป้องกันโรคและแมลง (เพลี้ยไฟ) เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาทุเรียนหนามจีบ



7.2. ค่อยๆเพิ่มปริมาณการให้น้ำ ไม่ควรให้น้ำมากจนเกินไปจะทำให้ผลทุเรียนร่วงได้



7.3 การใส่ปุ๋ย  ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 หรือ 15-5-20 หรือแนวปฏิบัติของแต่ละสวน  ขึ้นอยู่กับค่าวิเคราะห์ดิน



8. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะกระป๋องนม  (40-45 วันหลังดอกบาน)



ระยะนี้ทุเรียนกำลังเข้าสู่การพัฒนาเปลือกและเมล็ด ควรมีแนวทางดังนี้



8.1. ตัดแต่งผลทุเรียนที่ไม่สมบูรณ์และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมออก (คงเหลือไว้ 2-3 เท่าของ จำนวนที่ต้องการไว้ผล)



8.2. ใส่ปุ๋ยบำรุงผล อาจจะใส่เพียงครั้งเดียวหรือแบ่งใส่ 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน



8.3. ฉีดพ่นอาหารเสริมและสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง (หนอนเจาะเมล็ด)



การตัดแต่งผล



ตัดแต่งผลที่มีรูปทรงบิดเบี้ยว ก้นจีบ เก็บผลที่มีลักษณะหนามสวย ขั้วผลใหญ่



ผลเดี่ยว ควรให้มีระยะระหว่างผล 30-50 เซนติเมตร



ผลกลุ่มๆละ 2-4 ผล ห่างกันกลุ่มละ 1-2 เมตร



ควรปลิดผลทุเรียนรุ่นที่มีผลผลิตน้อยกว่าออก



9. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะเบ่งพู (45-60 วันหลังดอกบาน) ระยะนี้ทุเรียนสร้างเมล็ดเสร็จสมบูรณ์และกำลังพัฒนาเนื้ออย่างรวดเร็ว ควรมีแนวทางดังนี้



9.1. ตัดแต่งผลทุเรียนที่ไม่สมบูรณ์และในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม (เหลือไว้ตามจำนวนที่ต้องการไว้ผล)



9.2. ใส่ปุ๋ยบำรุงผล อาจจะใส่เพียงครั้งเดียวหรือแบ่งใส่ 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน



9.3. ฉีดพ่นอาหารเสริมและสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง (หนอนเจาะเมล็ด)



9.4. ควรโยงกิ่งให้มีความมั่นคง แข็งแรงสามารถรับน้ำหนักผลผลิตต่อกิ่งได้



9.5. ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ



10. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะขยายพู (สร้างเนื้อ) (60-90 วันหลังดอกบาน)



10.1. ตัดแต่งผลทุเรียนที่ไม่สมบูรณ์และในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม



10.2. ใส่ปุ๋ยบำรุงผล อาจจะใส่เพียงครั้งเดียวหรือแบ่งใส่ 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน



10.3. ฉีดพ่นอาหารเสริมและสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง (หนอนเจาะเมล็ด)



10.4. ควรโยงกิ่งให้มีความมั่นคงแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักผลผลิตต่อกิ่งได้



10.5. ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ



11. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะสะสมแป้ง (90-105 วันหลังดอกบาน)



11.1. ฉีดพ่นอาหารเสริมและสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง (หนอนเจาะเมล็ด)



11.2. ตรวจสอบการโยงกิ่งให้มีความมั่นคงแข็งแรง



11.3. ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ



12. แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดระยะ 10-12 สัปดาห์หลังดอกบาน (ระยะเริ่มสุกแก่)



12.1. ควรตัดทุเรียนที่มีความแก่ประมาณ 75% หรือวัดแป้งได้ 32%



12.2. ก่อนเก็บเกี่ยวทุเรียน 3-4 วันต้องตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ความแก่ของทุเรียน



12.3. ขณะเก็บเกี่ยว ห้ามวางทุเรียนกับพื้นดินโดยเด็ดขาด



13.แนวทางที่เหมาะสมในการกำหนดการผสมเกสรทุเรียน



การผสมเกสรทุเรียนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการติดผลของทุเรียนจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการติดผลของทุเรียนขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้



13.1 การผสมเกสรทุเรียนด้วยวิธีการปัด/เป่าดอก เมื่อเห็นดอกทุเรียนบาน (ส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ตอนเย็นเป็นต้นไป) ทำการผสมเกสร โดยปัดดอกด้วยไม้กวาด ไม้ขนไก่ หรือใช้ลมเป่า หรือดอกหญ้าขจรจบมัดรวมกัน แล้วปัดดอกทุเรียนให้เกิดการผสมของเกสรตัวผู้กับตัวเมีย ผูกป้ายบันทึก เขียนชื่อพันธุ์ วัน เดือน และ ปีที่ทำการผสมเกสร



13.2 การผสมเกสรทุเรียนด้วยวิธีการผ่าดอกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการติดผลของทุเรียนจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการติดผลของทุเรียนขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้



 



การเตรียมอุปกรณ์



อุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมเกสรทุเรียน มีดังนี้



1. พู่กัน



2. บันได



3. ถุงผ้าขาวบาง



4. กรรไกรตัดแต่งกิ่ง



5. กรรไกรเล็ก



6. ขวดหรือกระบอกพลาสติก



7. ไฟฉายหรือแสงสว่างชนิดอื่น



8. ป้ายสำหรับบันทึกชื่อพันธุ์ วัน เดือน ปี



ขั้นตอนการผสมเกสรทุเรียน



1. เวลา 09.00-12.00 น. ใช้กรรไกรเล็กตัดแต่งดอกพันธุ์แม่ให้เหลือเฉพาะดอกขาว และตัดเกสรตัวผู้ออกทิ้ง หลังจากนั้นใช้ถุงผ้าขาวบางคลุมดอกขาวพันธุ์แม่ไว้



2. เวลา 19.00-19.30 น. ทำการเก็บละอองเกสรตัวผู้ของพันธุ์พ่อ โดยใช้กรรไกรเล็กตัดเฉพาะอับละอองเกสรตัวผู้ที่แตกใส่ไว้ในขวดหรือกระบอกพลาสติก สำหรับละอองเกสรนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าซึ่งจะมีลักษณะเป็นละอองสีขาวเกาะติดอยู่กับอับละอองเกสร



3. เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป เริ่มทำการผสมเกสร โดยใช้ปลายพู่กันแตะละอองเกสรตัวผู้แล้วนำไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุ์แม่ ซึ่งดอกเกสรพันธุ์แม่นี้จะมีลักษณะดอกกลม สีเหลือง แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางไว้ตามเดิม ผูกป้ายบันทึก เขียนชื่อพันธุ์ วัน เดือน และ ปีที่ทำการผสมเกสร กิ่งทุเรียน ในแต่ละต้นมักจะมีระดับความสูงต่ำต่างกัน จึงแนะนำให้ปฏิบัติด้วยวิธีการดังนี้



วิธีผสมเกสรกิ่งที่อยู่ในระดับต่ำ



1. ตัดดอกทุเรียนที่กำลังบาน และพร้อมที่จะผสมเกสรของพันธุ์พ่อในเวลา 19.00-19.30 น. ไปทำการผสมเกสรโดยให้ส่วนของอับเกสรตัวผู้ที่มีละอองเกสรตัวผู้สีขาวไปแตะกับยอดเเกสรตัวเมียพันธุ์แม่



2. ตัดเฉพาะชุดของเกสรตัวผู้พันธุ์พ่อ โดยใช้มือจับก้านเกสรตัวผู้ ซึงที่ปลายก้านจะมีอับละอองเกสรตัวผู้เกาะอยู่ แล้วนำไปแตะกับยอดเกสรตัวเมียพันธุ์แม่



3. ตัดเฉพาะอับละอองเกสรตัวผู้ ที่มีละอองเกสรสีขาวเกาะอยู่ภายในดอกพันธุ์พ่อใส่ขวด แล้วใช้ปลายพู่กันแตะละอองเกสรตัวผู้นำไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุ์แม่



วิธีผสมเกสรกิ่งที่อยู่ในระดับสูง



1. เก็บละอองเกสรตัวผู้พันธุ์พ่อใส่ขวดผูกเชือกแล้วคล้องคอ ซึ่งเกษตรกจะต้องทำการปีนขึ้นต้นทุเรียนแลวใช้ปลายพู่กันแตะละอองเกสรตัวผู้ในขวด นำไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุ์แม่



2. ทำการเก็บละอองเกสรตัวผู้พันธุ์พ่อใส่ในกระป๋องพลาสติก แล้วใช้แปรงขนอ่อนต่อด้ามไม้ยาว ใช้ปลายแปลงแตะละอองเกสรตัวผู้ในกระป๋อง นำไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุ์แม่ วิธีนี้ไม่ต้องปีนขึ้นไปผสมเกสรบนต้นทุเรียน



ในกรณีต้นพันธุ์พ่ออยู่ใกล้กับต้นพันธุ์แม่ ไม่ว่าจะเป็นกิ่งต่ำหรือกิ่งสูง สามารถใช้แปรงขนอ่อนแตะละอองเกสรตัวผู้พันธุ์พ่อ แล้วนำไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุ์แม่ได้เลย


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

  1. ประเมินโดยการสัมภาษณ์

  2. ประเมินโดยแฟ้มสะสมงาน (Portfolio)

  3. ประเมินจากหลักฐานอื่นๆ เช่น หนังสือรับรอง เอกสารรับรองการผ่านการอบรม หนังสือรับรองการทำงาน/ผ่านงาน โดยต้องดำเนินการควบคู่กับการสัมภาษณ์



ยินดีต้อนรับ