หน่วยสมรรถนะ
เตรียมพื้นที่หรือเรือนเพาะชำสำหรับเพาะเมล็ดต้นตอทุเรียนและต้นกล้าพันธุ์ทุเรียน
สาขาวิชาชีพเกษตรกรรม
รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ
1. รหัสหน่วยสมรรถนะ | ARC-NEAZ-1066A |
2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ | เตรียมพื้นที่หรือเรือนเพาะชำสำหรับเพาะเมล็ดต้นตอทุเรียนและต้นกล้าพันธุ์ทุเรียน |
3. ทบทวนครั้งที่ | 1 / 2567 |
4. สร้างใหม่ |
![]() |
ปรับปรุง |
![]() |
5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification) | |
รหัสอาชีพ 6113 : ผู้ปฏิบัติงานด้านการเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับ การเพาะชำพันธุ์ไม้และการเพาะเห็ด (ISCO, 2008) 1 6113 ผู้ปฏิบัติงานด้านการปลูกพืชสวน ไม้ดอกไม้ประดับ และพืชในเรือนเพาะชำ |
6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency) | |
หน่วยนี้เกี่ยวข้องกับเตรียมพื้นที่หรือเรือนเพาะชำสำหรับเพาะเมล็ดต้นตอทุเรียนและต้นกล้าพันธุ์ทุเรียน ประกอบด้วยการออกแบบ การวางผังพื้นที่เรือนเพาะชำทุเรียน ระบบน้ำ การจัดการระบบการให้น้ำ การให้ปุ๋ย ตลอดจนการจัดการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของต้นกล้าพันธุ์ทุเรียน อีกทั้งความสะดวกและปลอดภัยในการปฏิบัติงานผู้ที่มีสมรรถนะของหน่วยสมรรถนะนี้จะต้องออกแบบ วางผังพื้นที่เรือนเพาะชำ โดยคำนึงถึงต้นทุนและการใช้พื้นที่และทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า แหล่งน้ำและคุณภาพน้ำที่ใช้ จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของกล้าพันธุ์ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรือนเพาะชำ ควบคุมการสร้างเรือนเพาะชำให้ภายในเรือนเพาะชำระบายน้ำได้ดี และการดูแลโรงเรือนโดยควบคุมสภาพแวดล้อม การจัดการแสง การตรวจสอบและบำรุงรักษารวมทั้งการรักษาความสะอาดทั้งภายในและภายนอกเรือนเพาะชำ |
7. สำหรับระดับคุณวุฒิ |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
8. กลุ่มอาชีพ (Sector) | |
ผู้ปฏิบัติงานเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ ผู้ผลิตต้นกล้าพันธุ์ทุเรียน ผู้ปลูกทุเรียน |
9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี) | |
รหัสอาชีพ 6113 : ผู้ปฏิบัติงานด้านการเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับ การเพาะชำพันธุ์ไม้และการเพาะเห็ด (ISCO, 2008) |
10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี) | |
มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) ของกรมวิชาการเกษตร |
11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria) |
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) | เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) | รหัส PC (ตามเล่มมาตรฐาน) |
รหัส PC (จากระบบ) |
---|---|---|---|
A131 ออกแบบวางแผนผังพื้นที่เรือนเพาะชำ |
วางแผนการออกแบบพื้นที่ |
A131.01 | 216305 |
A131 ออกแบบวางแผนผังพื้นที่เรือนเพาะชำ |
ดำเนินการออกแบบและวางแผนผังพื้นที่เรือนเพาะชำให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ |
A131.02 | 216306 |
A132 ควบคุมการสร้างเรือนเพาะชำต้นกล้าทุเรียน |
ควบคุมการสร้างเรือนเพาะชำให้ให้เป็นไปตามแบบที่กำหนด |
A132.01 | 216307 |
A132 ควบคุมการสร้างเรือนเพาะชำต้นกล้าทุเรียน |
ตรวจสอบเรือนเพาะชำให้ตรงตามแบบที่มีความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน |
A132.02 | 216308 |
A133 ดูแลเรือนเพาะชำต้นกล้าทุเรียน |
ระบุขั้นตอนการดูแลเรือนเพาะชำได้ |
A133.01 | 216309 |
A133 ดูแลเรือนเพาะชำต้นกล้าทุเรียน |
ตรวจสอบและบำรุงรักษาเรือนเพาะชำให้พร้อมใช้ |
A133.02 | 216310 |
12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge) | |
|
13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) | |
(ก) ความต้องการด้านทักษะ
(ข) ความต้องการด้านความรู้ 1) มีความรู้ เรื่อง การบริหารจัดการน้ำ 2) มีความรู้ เรื่อง การบริหารจัดการพื้นที่ |
14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide) | |
เกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) 1) หลักฐาน/หนังสือรับรองการทำงาน หรือการผ่านงานที่ออกโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้ 2) แฟ้มสะสมงาน (Portfolio) (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) 1) หลักฐานคุณวุฒิการศึกษา 2) หลักฐานการผ่านการอบรม หรือการประชุมเชิงปฏิบัติการ 3) ผลการทดสอบสัมภาษณ์/ปฏิบัติ (ค) คำแนะนำในการประเมิน 1) ผู้ประเมินจะดำเนินการตรวจประเมินจากหลักฐาน เช่น แผนการปลูก ภาพถ่ายการวางระบบต่างๆ ภายในแปลงปลูก เป็นต้น พร้อมทั้งคำอธิบายหลักการหรือเหตุผลประกอบ 2) หลักฐานที่ต้องการเพื่อแสดงถึงหน่วยสมรรถนะนี้ ต้องมีความสัมพันธ์กับข้อกำหนดของหน่วยสมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงานในหน่วยสมรรถนะนี้ โดยหลักฐานในที่นี้ต้องแสดงถึง
(ง) วิธีการประเมิน - สอบสัมภาษณ์ - แฟ้มสะสมงาน (Portfolio) |
15. ขอบเขต (Range Statement) | |
ในการผลิตต้นกล้าพันธุ์ทุเรียนจำเป็นต้องมีการทำเรือนเพาะชำ เพื่อที่จะช่วยดูแลรักษากล้าพันธุ์ ให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงผลกระทบจากฝน อากาศ หรือแสงแดด เพราะสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้กล้าพันธุ์เกิดความเสียหาย หรือหยุดการเจริญเติบโต การมีเรือนเพาะชำ จะทำให้การจัดการดูแลรักษาง่าย และ มีระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น
พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเรือนเพาะชำ 1. อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ และมีปริมาณที่เพียงพอทั้งปี 2. พื้นที่ควรสูงกว่าระดับน้ำของแม่น้ำหรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติอื่นๆ เพื่อจะทำให้น้ำไม่ท่วม 3. พื้นที่สร้างเรือนเพาะชำควรมีการระบายน้ำได้ดี 4. ปรับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกล้าพันธุ์ เช่น ให้น้ำมากขึ้นในกรณีที่อุณหภูมิสูง เพิ่มเวลาในการให้น้ำ และมีเครื่องวัดความชื้นสัมพัทธ์และปริมาณแสงแดดที่เพียงพอ 5. ตรวจสอบคุณภาพน้ำของแหล่งน้ำที่ก่อนจะนำมาใช้อย่างสม่ำเสมอ การทดสอบคุณภาพน้ำ
เรือนเพาะชำกล้าพันธุ์ที่ดีควรมีการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของกล้าพันธุ์และดูแลต้นกล้าให้ปราศจากสภาวะความเครียดและสภาพอากาศที่รุนแรง อีกทั้งควรเป็นสถานที่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ดูแลเรือนเพาะชำด้วย ขนาดของเรือนเพาะชำขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ ซึ่งจะเป็นต้วกำหนดจำนวนกล้าพันธุ์ที่สามารถผลิตได้ในแต่ละปี หรือจำนวนกล้าพันธุ์ที่ต้องผลิตให้ได้จะเป็นตัวกำหนดขนาดของเรือนเพาะชำ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างเรือนเพาะชำ 1. วัสดุที่ใช้ทำเรือนเพาะชำ อาจใช้วัสดุได้หลายอย่างเช่น เสาปูน เสาเหล็ก เสาไม้ไผ่ ขึ้นกับต้นทุนการทำเรือนเพาะชำ 2. วัสดุในการทำหลังคาวัสดุในการพรางแสง โดยทั่วไปจะนิยมใช้สแลนสีดำ 50-70% หรือตาข่ายกรองแสงในการคลุมหลังคา เพราะมีน้ำหนักเบา ใช้งานและติดตั้งง่าย การกำหนดความสูงขึ้นกับเสาที่ใช้ ความสูงที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ลดความร้อนได้มากขึ้น ปกติใช้ เสาสูง ประมาณ 3-6 เมตร จากพื้นดิน ขึ้นกับขนาดความสูงต้นแม่พันธุ์และการใช้งาน การทำโครงสร้างหลังคาจะทำเป็นทรงโค้ง หรือสามเหลี่ยม แล้วขึงตาข่ายกรองแสงให้ตึงที่สุด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและความคงทนให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเวลาที่มีลมแรงและฝนตก จะช่วยป้องกันการกระพือและอุ้มน้ำได้ 3. ปรับพื้นภายในเรือนเพาะชำให้ระบายน้ำได้ดี อาจโรยด้วยหินเกล็ด หินคลุก ไม่ให้พื้นแฉะ
การดูแลเรือนเพาะชำเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้กล้าพันธุ์เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้น 1.ควบคุมสภาพแวดล้อม ตรวจสอบและปรับปรุงระบบรดน้ำและระบบระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ 2.การจัดการแสง ให้แสงสว่างเพียงพอตามความต้องการของกล้าพันธุ์ ควบคุมระดับแสงโดยใช้ร่องแสง กางสแลนหรือวิธีการอื่น ๆ ตามความเหมาะสม 3.การตรวจสอบและบำรุงรักษาโครงสร้างที่เสียหาย รวมทั้งการรักษาความสะอาดทั้งภายในและภายนอกเรือนเพาะชำ |
16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure) | |
|