หน่วยสมรรถนะ
ใช้เทคนิคและทักษะในการต่อขนตาด้วยความเชี่ยวชาญมีความสวยงามและปลอดภัยตามหลักสุขอนามัย ตามมาตรฐานสากล
สาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวยและเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย
รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ
1. รหัสหน่วยสมรรถนะ | HDS-DSBK-249B |
2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ | ใช้เทคนิคและทักษะในการต่อขนตาด้วยความเชี่ยวชาญมีความสวยงามและปลอดภัยตามหลักสุขอนามัย ตามมาตรฐานสากล |
3. ทบทวนครั้งที่ | 1 / 2567 |
4. สร้างใหม่ | ปรับปรุง |
5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification) | |
ISCO 5142 ช่างเสริมสวยและผูปฏิบัติงานที่เกี่ยวของ |
6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency) | |
หน่วยสมรรถนะนี้ครอบคลุมการใช้เทคนิคและทักษะในการต่อขนตาด้วยความเชี่ยวชาญมีความสวยงามและปลอดภัยตามหลักสุขอนามัยตามมาตรฐานสากล ใช้ทักษะในการต่อขนตาด้วยความชำนาญและคำนึงถึงความสะอาด ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์การต่อขนตาได้อย่างถูกต้อง รู้จักความแตกต่างของอุปกรณ์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับปรับแต่งเส้นขนตาให้มีความสวยงามเหมาะสมกับใบหน้าและบุคลิกภาพของผู้รับบริการ ตกแต่งความหนา ความงอนของเส้นขนตาได้เหมาะสมกับเส้นขนตาจริงได้อย่างเหมาะสมตามเทคนิคแต่ละเทคนิคได้อย่างสวยงาม สะอาดและปลอดภัย |
7. สำหรับระดับคุณวุฒิ |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
8. กลุ่มอาชีพ (Sector) | |
อาชีพช่างเสริมสวย |
9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี) | |
N/A |
10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี) | |
พระราชบัญญัติกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ.2560 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข หลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย พ.ศ.2562 คำแนะนำคณะกรรมการสาธารณสุข ข้อบัญญัติท้องถิ่น หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประกอบกิจการ พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. |
11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria) |
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) | เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) | รหัส PC (ตามเล่มมาตรฐาน) |
รหัส PC (จากระบบ) |
---|---|---|---|
1120301 | 1. ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์การต่อขนตาได้อย่างถูกต้อง
รู้จักความแตกต่างของอุปกรณ์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับเทคนิคการทำงาน
ใช้คีมหนีบขนตาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม |
1120301.01 | 216202 |
1120301 | 2. ใช้ทักษะกระบวนการต่อขนตาอย่างปลอดภัย
ถูกสุขอนามัย ใช้เทคนิคที่เชี่ยวชาญในการต่อขนตา Classic and Volume แบบต่าง ๆ |
1120301.02 | 216203 |
1120302 ปรับแต่งเส้นขนตาให้มีความสวยงามเหมาะสมกับใบหน้าและบุคลิกภาพของผู้รับบริการ |
1. ตกแต่งความงอนที่เหมาะสมกับการดีไซน์และแก้ไขทรงตาได้อย่างถูกต้อง |
1120302.01 | 216204 |
1120302 ปรับแต่งเส้นขนตาให้มีความสวยงามเหมาะสมกับใบหน้าและบุคลิกภาพของผู้รับบริการ |
2. ตกแต่งความหนาของเส้นขนตาได้เหมาะสมกับเส้นขนตาจริงได้อย่างเหมาะสมตามเทคนิคแต่ละเทคนิคได้อย่างสวยงาม
สะอาดและปลอดภัย |
1120302.02 | 216205 |
12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge) | |
N/A |
13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) | |
(ก) ความต้องการด้านทักษะ ทักษะการต่อขนตาให้เสมือนขนตาธรรมชาติ สามารถต่อได้เข้ากับขนตาจริง โดยไม่ทำให้ขนตาจริงเสียหายหลุดร่วง (ข) ความต้องการด้านความรู้
|
14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide) | |
(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) 1. เอกสารผลการสอบข้อเขียน ปรนัย 4 ตัวเลือก 2. เอกสารประเมินผลการสัมภาษณ์ 3. เอกสารประเมินผลสังเกตการปฏิบัติงาน (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) 1. เอกสารผลการสอบข้อเขียน ปรนัย 4 ตัวเลือก 2. เอกสารประเมินผลการสัมภาษณ์ 3. เอกสารประเมินผลสังเกตการปฏิบัติงาน (ค) คำแนะนำในการประเมิน พิจารณาจากร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหลักฐานด้านปฏิบัติงาน และหลักฐานด้านความรู้ (ง) วิธีการประเมิน ประเมินความรู้และทักษะโดยการสอบข้อเขียน ปรนัย 4 ตัวเลือก การสัมภาษณ์ และสาธิตการปฏิบัติงาน |
15. ขอบเขต (Range Statement) | |
ต่อขนตา ปรับแต่งเส้นขนตา ตกแต่งความงอนและความหนาของขนตา
ผู้รับการประเมินต้องสามารถใช้เครื่องมือและอุปกรณ์การต่อขนตาได้อย่างถูกต้อง รู้จักความแตกต่างของอุปกรณ์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับเทคนิคการทำงาน ใช้คีมหนีบขนตาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เข้าใจกระบวนการต่อขนตาอย่างปลอดภัย ใช้เทคนิคที่เชี่ยวชาญในการต่อขนตา ทั้งแบบ Classic และแบบ Volume แบบต่าง ๆ ใช้ความงอนที่เหมาะสมกับการดีไซน์และแก้ไขทรงตาได้อย่างถูกต้อง ตกแต่งความหนาของเส้นขนตาได้เหมาะสมกับเส้นขนตาจริงได้อย่างเหมาะสมตามเทคนิคแต่ละเทคนิคได้อย่างสวยงาม สะอาดและปลอดภัย สามารถใช้เทคนิคการต่อขนตาที่ถูกต้อง
หากพบอาการดังกล่าวเบื้องต้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
สไตล์ที่ 1 ต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น สำหรับคนตาเล็ก ขนตาสั้นทิ่มลง สไตล์ที่ 2 ต่อขนตาแบบวอลลุ่ม สำหรับสาวตากลมโต สไตล์ที่ 3 ต่อขนตาเส้นต่อเส้นเน้นหางตา สำหรับตาทรงอัลมอนด์ สไตล์ที่ 4 ต่อขนตาสร้างมิติด้วยขนตาสีๆ สำหรับสาวตาเล็กและยาว
วิธีการต่อแบบพื้นฐานที่นิยมใช้กัน 3 แบบ ดังนี้ ต่อแบบเส้นต่อเส้น เป็นวิธีการต่อขนตาถาวรที่ดูเป็นธรรมชาติ เพราะใช้ขนไฟเบอร์ 1 เส้น ต่อชิดกับเส้นขนตาจริง 1 เส้น หรือแบบที่เรียกว่า 1 : 1 ทำให้ได้แพขนตาไม่หนาฟูเกินไป เหมือนมีขนตาเยอะอยู่แล้ว ต่อแบบเส้นต่อช่อ เป็นวิธีการต่อขนตาถาวรที่ทำให้ขนตาดูหวานฟุ้ง โดย ‘ช่อ’ ขนตาที่นำมาต่อเกิดจากการนำขนไฟเบอร์ขนาด 0.05-0.07 มิลลิเมตร มาจับช่อรวมกันประมาณ 2-3 เส้น แล้วติดที่โคนขนตาสลับกับขนตาเส้นเดี่ยวและขนตาจริง เพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้ขนตา ต่อแบบช่อต่อช่อ เป็นวิธีการต่อขนตาแบบจัดเต็มให้ลุคดวงตาดูเฉี่ยว คม เป็นขอบชัดเจน โดยนำช่อขนตาที่ประกอบไปด้วยขนเส้นเดี่ยว 2-3 เส้น มาติดแทรกกับเส้นขนตาจริงทีละเส้นจนได้ดวงตาสวยสะพรึง เหมาะกับการออกงานที่ต้องแต่งหน้าจัด เอกสารการวิเคราะห์รูปทรงตาและสไตล์การออกแบบขนตาที่เหมาะสม
ภาพประกอบอ้างอิงจาก www.tipsdd.com Natural Eyes เหมาะสำหรับคนที่มีคนขนตาน้อยและสั้น แต่อยากปรับลุคให้ดวงตามีความสดใส โดยที่ไม่ดูหลอกตาจนเกินไป นิยมใช้การต่อแบบเส้นต่อเส้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้
Dolly Eyes เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีดวงตากลมโตอยู่แล้ว เพราะเมื่อต่อขนตาเสร็จแล้วจะได้บุคลิคที่ดูหวานเหมือนตาตุ๊กตา นิยมใช้เทคนิคการต่อแบบเส้นต่อช่อ และไล่ระดับความยาวและความงอน โดยช่วงกลางตาจะติดขนไฟเบอร์ที่ยาวที่สุด ส่วนด้านข้างความยาวจะลดหลั่นกันไป
Cat Eyes เวลาต่อขนตาก็จะไล่ระดับเน้นความยาวที่ช่วงหางตา ให้ลุคดูมั่นใจ โฉบเฉี่ยว เหมาะกับคนรูปตาทรงอัลมอนด์และคนที่อยากปรับให้ลุคดวงตาให้ดูปราดเปรียว อาจจะใช้เทคนิคการต่อแบบเส้นต่อช่อ แต่เน้นเส้นยาวที่ช่วงกลางถึงหางตา
Gorgeous Style เป็นสไตล์การต่อขนตาแบบอัดแน่นเต็มที่ ใช้จำนวนขนไฟเบอร์มากที่สุด ใช้เทคนิคการต่อแบบช่อต่อช่อ เหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าจัดเต็มและออกงานเป็นประจำ การปรับแต่งทรงขนตาให้มีความสวยงามสามารถทำได้หลายแบบได้แก่ ทรงขนตามาตรฐาน ได้แก่ทรงธรรมชาติ เน้นความงอน เท่ากับขนตาจริงของผู้รับบริการ ทรงขนตาโตมีความยาวสูงสุดอยู่ตรงกลางดวงตา ทรงเซ็กซี่ มีความยาวสูงสุดอยู่ตอนปลายหางตา ทรงขนตาขั้นสูง ประกอบด้วย K-Kim หรือ Sunrise สไตล์ และ Wispies สไตล์ พรนิภาสไตล์ ส่วนการแก้ไขแต่งเติมขนตา หากขนตาแหว่ง ให้เติมให้เต็ม ปรับทิศทางเส้นขนตาให้เหมาะสมและเพิ่มความหนา ส่วนขนตาหยิก การหยิกธรรมชาติ และหยิกจากสารเคมี การต่อขนตาให้วางชิดโคนขนตาให้สนิทแต่กาวจะไม่ติดทนนานเท่าขนตาปกติ การปรับความหนา ความยาว และความโค้ง ดังรูป
การปรับแต่งทรงขนตาให้มีความสวยงามสามารถทำได้หลายแบบได้แก่ ทรงขนตามาตรฐาน ได้แก่ทรงธรรมชาติ เน้นความงอน เท่ากับขนตาจริงของผู้รับบริการ ทรงขนตาโตมีความยาวสูงสุดอยู่ตรงกลางดวงตา ทรงเซ็กซี่ มีความยาวสูงสุดอยู่ตอนปลายหางตา ส่วนการแก้ไขแต่งเติมขนตา หากขนตาแหว่ง ให้เติมให้เต็ม ปรับทิศทางเส้นขนตาให้เหมาะสมและเพิ่มความหนา ส่วนขนตาหยิก การหยิกธรรมชาติ และหยิกจากสารเคมี การต่อขนตาให้วางชิดโคนขนตาให้สนิทแต่กาวจะไม่ติดทนนานเท่าขนตาปกติ
ต่อขนตา ปรับแต่งเส้นขนตา ตกแต่งความงอนและความหนาของขนตา
ผู้รับการประเมินต้องสามารถใช้เครื่องมือและอุปกรณ์การต่อขนตาได้อย่างถูกต้อง รู้จักความแตกต่างของอุปกรณ์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับเทคนิคการทำงาน ใช้คีมหนีบขนตาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เข้าใจกระบวนการต่อขนตาอย่างปลอดภัย ใช้เทคนิคที่เชี่ยวชาญในการต่อขนตา ทั้งแบบ Classic และแบบ Volume แบบต่าง ๆ ใช้ความงอนที่เหมาะสมกับการดีไซน์และแก้ไขทรงตาได้อย่างถูกต้อง ตกแต่งความหนาของเส้นขนตาได้เหมาะสมกับเส้นขนตาจริงได้อย่างเหมาะสมตามเทคนิคแต่ละเทคนิคได้อย่างสวยงาม สะอาดและปลอดภัย สามารถใช้เทคนิคการต่อขนตาที่ถูกต้อง
หากพบอาการดังกล่าวเบื้องต้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
สไตล์ที่ 1 ต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น สำหรับคนตาเล็ก ขนตาสั้นทิ่มลง สไตล์ที่ 2 ต่อขนตาแบบวอลลุ่ม สำหรับสาวตากลมโต สไตล์ที่ 3 ต่อขนตาเส้นต่อเส้นเน้นหางตา สำหรับตาทรงอัลมอนด์ สไตล์ที่ 4 ต่อขนตาสร้างมิติด้วยขนตาสีๆ สำหรับสาวตาเล็กและยาว
วิธีการต่อแบบพื้นฐานที่นิยมใช้กัน 3 แบบ ดังนี้ ต่อแบบเส้นต่อเส้น เป็นวิธีการต่อขนตาถาวรที่ดูเป็นธรรมชาติ เพราะใช้ขนไฟเบอร์ 1 เส้น ต่อชิดกับเส้นขนตาจริง 1 เส้น หรือแบบที่เรียกว่า 1 : 1 ทำให้ได้แพขนตาไม่หนาฟูเกินไป เหมือนมีขนตาเยอะอยู่แล้ว ต่อแบบเส้นต่อช่อ เป็นวิธีการต่อขนตาถาวรที่ทำให้ขนตาดูหวานฟุ้ง โดย ‘ช่อ’ ขนตาที่นำมาต่อเกิดจากการนำขนไฟเบอร์ขนาด 0.05-0.07 มิลลิเมตร มาจับช่อรวมกันประมาณ 2-3 เส้น แล้วติดที่โคนขนตาสลับกับขนตาเส้นเดี่ยวและขนตาจริง เพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้ขนตา ต่อแบบช่อต่อช่อ เป็นวิธีการต่อขนตาแบบจัดเต็มให้ลุคดวงตาดูเฉี่ยว คม เป็นขอบชัดเจน โดยนำช่อขนตาที่ประกอบไปด้วยขนเส้นเดี่ยว 2-3 เส้น มาติดแทรกกับเส้นขนตาจริงทีละเส้นจนได้ดวงตาสวยสะพรึง เหมาะกับการออกงานที่ต้องแต่งหน้าจัด เอกสารการวิเคราะห์รูปทรงตาและสไตล์การออกแบบขนตาที่เหมาะสม
ภาพประกอบอ้างอิงจาก www.tipsdd.com Natural Eyes เหมาะสำหรับคนที่มีคนขนตาน้อยและสั้น แต่อยากปรับลุคให้ดวงตามีความสดใส โดยที่ไม่ดูหลอกตาจนเกินไป นิยมใช้การต่อแบบเส้นต่อเส้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้
Dolly Eyes เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีดวงตากลมโตอยู่แล้ว เพราะเมื่อต่อขนตาเสร็จแล้วจะได้บุคลิคที่ดูหวานเหมือนตาตุ๊กตา นิยมใช้เทคนิคการต่อแบบเส้นต่อช่อ และไล่ระดับความยาวและความงอน โดยช่วงกลางตาจะติดขนไฟเบอร์ที่ยาวที่สุด ส่วนด้านข้างความยาวจะลดหลั่นกันไป
Cat Eyes เวลาต่อขนตาก็จะไล่ระดับเน้นความยาวที่ช่วงหางตา ให้ลุคดูมั่นใจ โฉบเฉี่ยว เหมาะกับคนรูปตาทรงอัลมอนด์และคนที่อยากปรับให้ลุคดวงตาให้ดูปราดเปรียว อาจจะใช้เทคนิคการต่อแบบเส้นต่อช่อ แต่เน้นเส้นยาวที่ช่วงกลางถึงหางตา
Gorgeous Style เป็นสไตล์การต่อขนตาแบบอัดแน่นเต็มที่ ใช้จำนวนขนไฟเบอร์มากที่สุด ใช้เทคนิคการต่อแบบช่อต่อช่อ เหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าจัดเต็มและออกงานเป็นประจำ การปรับแต่งทรงขนตาให้มีความสวยงามสามารถทำได้หลายแบบได้แก่ ทรงขนตามาตรฐาน ได้แก่ทรงธรรมชาติ เน้นความงอน เท่ากับขนตาจริงของผู้รับบริการ ทรงขนตาโตมีความยาวสูงสุดอยู่ตรงกลางดวงตา ทรงเซ็กซี่ มีความยาวสูงสุดอยู่ตอนปลายหางตา ทรงขนตาขั้นสูง ประกอบด้วย K-Kim หรือ Sunrise สไตล์ และ Wispies สไตล์ พรนิภาสไตล์ ส่วนการแก้ไขแต่งเติมขนตา หากขนตาแหว่ง ให้เติมให้เต็ม ปรับทิศทางเส้นขนตาให้เหมาะสมและเพิ่มความหนา ส่วนขนตาหยิก การหยิกธรรมชาติ และหยิกจากสารเคมี การต่อขนตาให้วางชิดโคนขนตาให้สนิทแต่กาวจะไม่ติดทนนานเท่าขนตาปกติ การปรับความหนา ความยาว และความโค้ง ดังรูป
การปรับแต่งทรงขนตาให้มีความสวยงามสามารถทำได้หลายแบบได้แก่ ทรงขนตามาตรฐาน ได้แก่ทรงธรรมชาติ เน้นความงอน เท่ากับขนตาจริงของผู้รับบริการ ทรงขนตาโตมีความยาวสูงสุดอยู่ตรงกลางดวงตา ทรงเซ็กซี่ มีความยาวสูงสุดอยู่ตอนปลายหางตา ส่วนการแก้ไขแต่งเติมขนตา หากขนตาแหว่ง ให้เติมให้เต็ม ปรับทิศทางเส้นขนตาให้เหมาะสมและเพิ่มความหนา ส่วนขนตาหยิก การหยิกธรรมชาติ และหยิกจากสารเคมี การต่อขนตาให้วางชิดโคนขนตาให้สนิทแต่กาวจะไม่ติดทนนานเท่าขนตาปกติ
ต่อขนตา ปรับแต่งเส้นขนตา ตกแต่งความงอนและความหนาของขนตา
ผู้รับการประเมินต้องสามารถใช้เครื่องมือและอุปกรณ์การต่อขนตาได้อย่างถูกต้อง รู้จักความแตกต่างของอุปกรณ์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับเทคนิคการทำงาน ใช้คีมหนีบขนตาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เข้าใจกระบวนการต่อขนตาอย่างปลอดภัย ใช้เทคนิคที่เชี่ยวชาญในการต่อขนตา ทั้งแบบ Classic และแบบ Volume แบบต่าง ๆ ใช้ความงอนที่เหมาะสมกับการดีไซน์และแก้ไขทรงตาได้อย่างถูกต้อง ตกแต่งความหนาของเส้นขนตาได้เหมาะสมกับเส้นขนตาจริงได้อย่างเหมาะสมตามเทคนิคแต่ละเทคนิคได้อย่างสวยงาม สะอาดและปลอดภัย สามารถใช้เทคนิคการต่อขนตาที่ถูกต้อง
หากพบอาการดังกล่าวเบื้องต้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
สไตล์ที่ 1 ต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น สำหรับคนตาเล็ก ขนตาสั้นทิ่มลง สไตล์ที่ 2 ต่อขนตาแบบวอลลุ่ม สำหรับสาวตากลมโต สไตล์ที่ 3 ต่อขนตาเส้นต่อเส้นเน้นหางตา สำหรับตาทรงอัลมอนด์ สไตล์ที่ 4 ต่อขนตาสร้างมิติด้วยขนตาสีๆ สำหรับสาวตาเล็กและยาว
วิธีการต่อแบบพื้นฐานที่นิยมใช้กัน 3 แบบ ดังนี้ ต่อแบบเส้นต่อเส้น เป็นวิธีการต่อขนตาถาวรที่ดูเป็นธรรมชาติ เพราะใช้ขนไฟเบอร์ 1 เส้น ต่อชิดกับเส้นขนตาจริง 1 เส้น หรือแบบที่เรียกว่า 1 : 1 ทำให้ได้แพขนตาไม่หนาฟูเกินไป เหมือนมีขนตาเยอะอยู่แล้ว ต่อแบบเส้นต่อช่อ เป็นวิธีการต่อขนตาถาวรที่ทำให้ขนตาดูหวานฟุ้ง โดย ‘ช่อ’ ขนตาที่นำมาต่อเกิดจากการนำขนไฟเบอร์ขนาด 0.05-0.07 มิลลิเมตร มาจับช่อรวมกันประมาณ 2-3 เส้น แล้วติดที่โคนขนตาสลับกับขนตาเส้นเดี่ยวและขนตาจริง เพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้ขนตา ต่อแบบช่อต่อช่อ เป็นวิธีการต่อขนตาแบบจัดเต็มให้ลุคดวงตาดูเฉี่ยว คม เป็นขอบชัดเจน โดยนำช่อขนตาที่ประกอบไปด้วยขนเส้นเดี่ยว 2-3 เส้น มาติดแทรกกับเส้นขนตาจริงทีละเส้นจนได้ดวงตาสวยสะพรึง เหมาะกับการออกงานที่ต้องแต่งหน้าจัด เอกสารการวิเคราะห์รูปทรงตาและสไตล์การออกแบบขนตาที่เหมาะสม
ภาพประกอบอ้างอิงจาก www.tipsdd.com Natural Eyes เหมาะสำหรับคนที่มีคนขนตาน้อยและสั้น แต่อยากปรับลุคให้ดวงตามีความสดใส โดยที่ไม่ดูหลอกตาจนเกินไป นิยมใช้การต่อแบบเส้นต่อเส้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้
Dolly Eyes เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีดวงตากลมโตอยู่แล้ว เพราะเมื่อต่อขนตาเสร็จแล้วจะได้บุคลิคที่ดูหวานเหมือนตาตุ๊กตา นิยมใช้เทคนิคการต่อแบบเส้นต่อช่อ และไล่ระดับความยาวและความงอน โดยช่วงกลางตาจะติดขนไฟเบอร์ที่ยาวที่สุด ส่วนด้านข้างความยาวจะลดหลั่นกันไป
Cat Eyes เวลาต่อขนตาก็จะไล่ระดับเน้นความยาวที่ช่วงหางตา ให้ลุคดูมั่นใจ โฉบเฉี่ยว เหมาะกับคนรูปตาทรงอัลมอนด์และคนที่อยากปรับให้ลุคดวงตาให้ดูปราดเปรียว อาจจะใช้เทคนิคการต่อแบบเส้นต่อช่อ แต่เน้นเส้นยาวที่ช่วงกลางถึงหางตา
Gorgeous Style เป็นสไตล์การต่อขนตาแบบอัดแน่นเต็มที่ ใช้จำนวนขนไฟเบอร์มากที่สุด ใช้เทคนิคการต่อแบบช่อต่อช่อ เหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าจัดเต็มและออกงานเป็นประจำ การปรับแต่งทรงขนตาให้มีความสวยงามสามารถทำได้หลายแบบได้แก่ ทรงขนตามาตรฐาน ได้แก่ทรงธรรมชาติ เน้นความงอน เท่ากับขนตาจริงของผู้รับบริการ ทรงขนตาโตมีความยาวสูงสุดอยู่ตรงกลางดวงตา ทรงเซ็กซี่ มีความยาวสูงสุดอยู่ตอนปลายหางตา ทรงขนตาขั้นสูง ประกอบด้วย K-Kim หรือ Sunrise สไตล์ และ Wispies สไตล์ พรนิภาสไตล์ ส่วนการแก้ไขแต่งเติมขนตา หากขนตาแหว่ง ให้เติมให้เต็ม ปรับทิศทางเส้นขนตาให้เหมาะสมและเพิ่มความหนา ส่วนขนตาหยิก การหยิกธรรมชาติ และหยิกจากสารเคมี การต่อขนตาให้วางชิดโคนขนตาให้สนิทแต่กาวจะไม่ติดทนนานเท่าขนตาปกติ การปรับความหนา ความยาว และความโค้ง ดังรูป
การปรับแต่งทรงขนตาให้มีความสวยงามสามารถทำได้หลายแบบได้แก่ ทรงขนตามาตรฐาน ได้แก่ทรงธรรมชาติ เน้นความงอน เท่ากับขนตาจริงของผู้รับบริการ ทรงขนตาโตมีความยาวสูงสุดอยู่ตรงกลางดวงตา ทรงเซ็กซี่ มีความยาวสูงสุดอยู่ตอนปลายหางตา ส่วนการแก้ไขแต่งเติมขนตา หากขนตาแหว่ง ให้เติมให้เต็ม ปรับทิศทางเส้นขนตาให้เหมาะสมและเพิ่มความหนา ส่วนขนตาหยิก การหยิกธรรมชาติ และหยิกจากสารเคมี การต่อขนตาให้วางชิดโคนขนตาให้สนิทแต่กาวจะไม่ติดทนนานเท่าขนตาปกติ
|
16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure) | |
18.1 เครื่องมือประเมิน (ใช้ทักษะในการต่อขนตาด้วยความชำนาญและคำนึงถึงความสะอาด) 1) แบบทดสอบข้อเขียน ปรนัย 4 ตัวเลือก 2) แบบประเมินผลการสัมภาษณ์ 3) แบบประเมินผลสังเกตการปฏิบัติงาน 18.2 เครื่องมือประเมิน (ปรับแต่งเส้นขนตาให้มีความสวยงามเหมาะสมกับใบหน้าและบุคลิกภาพของผู้รับบริการ) 1) แบบทดสอบข้อเขียน ปรนัย 4 ตัวเลือก 2) แบบประเมินผลการสัมภาษณ์ 3) แบบประเมินผลสังเกตการปฏิบัติงาน |