หน่วยสมรรถนะ
ประเมินความต้องการธาตุอาหารและสาร
สาขาวิชาชีพเกษตรกรรม
รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ
1. รหัสหน่วยสมรรถนะ | ARC-PVHO-1057A |
2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ | ประเมินความต้องการธาตุอาหารและสาร |
3. ทบทวนครั้งที่ | / |
4. สร้างใหม่ |
![]() |
ปรับปรุง |
![]() |
5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification) | |
N/A
1 8341 ผู้ควบคุมเครื่องจักรโรงงานชนิดเคลื่อนที่ได้ที่ใช้ในด้านการเกษตรและป่าไม้ |
6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency) | |
ผู้ที่มีสมรรถนะประเมินความต้องการธาตุอาหารและสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ต้องมีทักษะและความรู้ในการประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืช ลักษณะอาการขาดธาตุอาหารของพืช และการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ได้อย่างเหมาะสมตรงตามระยะการเจริญเติบโตของพืช |
7. สำหรับระดับคุณวุฒิ |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
8. กลุ่มอาชีพ (Sector) | |
ผู้ให้บริการโดรนทางการเกษตร (Drone services for agriculture provider) |
9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี) | |
N/A |
10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี) | |
10.1 พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 มาตรา 24 10.2 หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับ หรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมจากภายนอก พ.ศ. 255810.3 ประกาศ กสทช. เรื่องเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ สำหรับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำหรับใช้งานเป็นการทั่วไป10.4 พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 256210.5 (ร่าง) ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกที่มีน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัม (ที่ใช้ในปัจจุบัน)10.6 จรรยาบรรณสำหรับผู้ค้าวัตถุอันตรายทางการเกษตรและการใช้สารกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย10.7 มาตรการควบคุม ตรวจสอบ กำกับ ดูแล วัตถุอันตราย ปุ๋ย และพันธุ์พืช |
11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria) |
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) | เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) | รหัส PC (ตามเล่มมาตรฐาน) |
รหัส PC (จากระบบ) |
---|---|---|---|
A161 ประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชตามระยะการเจริญเติบโตได้ถูกต้องตามข้อกำหนด |
1. อธิบายความต้องการธาตุอาหารของพืชตามระยะการเจริญเติบโต |
A161.01 | 215612 |
A161 ประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชตามระยะการเจริญเติบโตได้ถูกต้องตามข้อกำหนด |
2.
เลือกสูตรปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโตของพืช |
A161.02 | 215613 |
A161 ประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชตามระยะการเจริญเติบโตได้ถูกต้องตามข้อกำหนด |
3. เลือกรูปแบบของปุ๋ยที่ใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของพืช |
A161.03 | 215614 |
A162 ประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออกได้ถูกต้องตามข้อกำหนด |
1.
อธิบายความต้องการธาตุอาหารของพืชตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก |
A162.01 | 215615 |
A162 ประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออกได้ถูกต้องตามข้อกำหนด |
2.
เลือกสูตรปุ๋ยตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก |
A162.02 | 215616 |
A162 ประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออกได้ถูกต้องตามข้อกำหนด |
3. เลือกรูปแบบของปุ๋ยที่ใช้ตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก |
A162.03 | 215617 |
A163 ประเมินความต้องการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชได้ถูกต้องตามข้อกำหนด |
1.
อธิบายหลักการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืชตามระยะการเจริญเติบโตของพืช |
A163.01 | 215618 |
A163 ประเมินความต้องการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชได้ถูกต้องตามข้อกำหนด |
2. เลือกใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืชได้ตรงตามระยะการเจริญเติบโต |
A163.02 | 215619 |
12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge) | |
1. มีทักษะในการฟัง พูด อ่าน เขียน 2. มีความรู้ในเรื่องความต้องการธาตุอาหารของพืช 3. มีความรู้เรื่องลักษณะอาการขาดธาตุอาหารของพืช 4. มีความรูเรื่องสารควบคุมการเจริญเติบโตพืช |
13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) | |
(ก) ความต้องการด้านทักษะ 1. สามารถประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชได้ 2. สามารถประเมินลักษณะอาการขาดธาตุอาหารของพืชได้ 3. สามารถประเมินความต้องการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืชได้ (ข) ความต้องการด้านความรู้ 1. ความรู้พื้นฐานทางด้านภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 2. ความรู้ในการเลือกใช้วัถตุทางการเกษตรได้อย่างปลอดภัย 3. ความรู้ในการเลือกใช้สูตรปุ๋ยได้ตรงตามความต้องการของพืชในแต่ละระยะการเจริญเติบโต 4. ความรู้ในการเลือกใช้สารควมคุมการเจริญเติบโตพืชได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้ |
14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide) | |
(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) อาทิ ผลจากการสอบสัมภาษณ์ ผลจากการประเมินสาธิตการปฏิบัติงาน (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) ผลการสอบข้อเขียน (ค) คำแนะนำในการประเมิน N/A (ง) วิธีการประเมิน สอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ ประเมินสาธิตการปฏิบัติงาน |
15. ขอบเขต (Range Statement) | |
(ก) คำแนะนำ
เรื่องการประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชตามระยะการเจริญเติบโต ผู้เข้ารับการประเมินมีทักษะและองค์ความรู้ในการอธิบายความต้องการธาตุอาหารของพืชตามระยะการเจริญเติบโต โดยการยกตัวอย่างชนิดของพืช และเลือกสูตรปุ๋ยได้ตรงตามระยะการเจริญเติบโตของพืช รวมถึงการเลือกรูปแบบของปุ๋ยที่ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับการปฏิบัติงานของโดรนเพื่อการเกษตร
เรื่องการประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืชตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก ผู้เข้ารับการประเมินมีทักษะและองค์ความรู้ในการอธิบายความต้องการธาตุอาหารของพืชตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก โดยการยกตัวอย่างพืช พร้อมลักษณะอาการขาดธาตุที่เกิดขึ้นกับพืชชนิดนั้น ๆ และเลือกสูตรปุ๋ยตามอาการขาดธาตุที่พืชแสดงออก รวมถึงการเลือกรูปแบบของปุ๋ยที่ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับการปฏิบัติงานของโดรนเพื่อการเกษตร
เรื่องการประเมินความต้องการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืช ผู้เข้ารับการประเมินมีทักษะและองค์ความรู้ในการอธิบายหลักการใช้สารตามแต่ละระยะการเจริญเติบโตของพืช โดยการยกตัวอย่างพืช พร้อมอธิบายถึงเหตุผลในการใช้สารกับพืชชนิดนั้น ๆ ว่าใช้เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของพืชในส่วนใดและอยู่ในระยะใดของการเจริญเติบโตของพืช (ข) คำอธิบายรายละเอียด
การอธิบายความต้องการธาตุอาหารของพืชตามระยะการเจริญเติบโต ความต้องการธาตุอาหารพืชตามระยะการเจริญเติบโต คือการที่พืชมีความต้องการแตกต่างกันตามช่วงเวลาของการเจริญเติบโตซึ่งมักจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก ได้แก่ ระยะการเจริญเติบโต และระยะก่อนติดดอกออกผล ในแต่ละระยะการเจริญเติบโตนี้พืชมักมีความต้องการธาตุอาหารที่แตกต่างกันออกไปรวมถึงชนิดและอายุของพืช ซึ่งธาตุอาหารมีการส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชดังนี้ ธาตุอาหารหลัก
ธาตุอาหารรอง
ทั้งนี้ปริมาณธาตุอาหารที่พืชต้องการ ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช สภาพดิน สภาพอากาศ และวิธีการจัดการ เกษตรกรควรวิเคราะห์ดินก่อนปลูก เพื่อทราบปริมาณธาตุอาหารในดิน จึงเลือกใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของพืชในแต่ละระยะการเจริญเติบโต และนอกจากธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองแล้ว พืชยังต้องการธาตุอาหารเสริม (micronutrients) อีก 7 ชนิด ได้แก่ เหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส โมลิบดีนัม คลอรีน และโบรอน ธาตุอาหารเหล่านี้ พืชต้องการในปริมาณน้อย แต่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช การเลือกสูตรปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโตของพืช พืชมีความต้องการธาตุอาหารหรือปุ๋ยที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาของการเจริญเติบโตซึ่งมักจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก ได้แก่ ระยะการเจริญเติบโต และระยะก่อนติดดอกออกผล ในแต่ละระยะการเจริญเติบโตพืชมักมีความต้องการธาตุอาหารที่แตกต่างกันออกไปซึ่งต้องคำนึงถึงชนิดและอายุของพืช ยกตัวอย่างชนิดของพืช ได้แก่ ข้าว ในระยะแตกกอ หรือการใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ข้าวมีความต้องการธาตุอาหารหลัก ซึ่งสูตรปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมได้แก่ 46-0-0 อัตรา 10 กก. ต่อไร่ ร่วมกับ 18-22-0 อัตรา 7 กก. ต่อไร่ และ 0-0-60 อัตรา 5 กก. ต่อไร่ การเลือกรูปแบบของปุ๋ยที่ใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของพืช รูปแบบของปุ๋ยได้แก่ ปุ๋ยเม็ด และปุ๋ยน้ำ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้ปุ๋ยในแต่ละรูปแบบ ปุ๋ยเม็ดส่วนมากจะให้ในกลุ่มของธาตุอาหารหลัก ปุ๋ยน้ำส่วนมากจะให้ในกลุ่มของธาตุอาหารรอง การอธิบายความต้องการธาตุอาหารของพืชตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก การขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก สามารถวิเคราะห์ได้จากอาการขาดธาตุอาหารที่แสดงออกบนส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น สีซีดทั้งใบหรือบางส่วน การเปลี่ยนแปลงของสีโดยใบอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง ม่วง หรือน้ำตาล รูปร่างผิดปกติ ยกตัวอย่างอาการขาดธาตุอาหารที่พืชมักพบเป็นส่วนมาก ได้แก่ อาการขาดธาตุอาหารหลัก
อาการขาดธาตุอาหารรอง
การเลือกสูตรปุ๋ยตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก พืชมีความต้องการธาตุอาหารหรือปุ๋ยที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาของการเจริญเติบโตซึ่งมักจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก ได้แก่ ระยะการเจริญเติบโต และระยะก่อนติดดอกออกผล ในแต่ละระยะการเจริญเติบโต พืชอาจแสดงอาการขาดธาตุอาหาร จึงเลือกสูตรปุ๋ยที่ตรงกับอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก และใส่ในปริมาณที่คำแนะนำสำหรับพืชแต่ละชนิดรวมถึงระยะการเจริญเติบโต การเลือกรูปแบบของปุ๋ยที่ใช้ตามอาการขาดธาตุอาหารที่พืชแสดงออก รูปแบบของปุ๋ยได้แก่ ปุ๋ยเม็ด และปุ๋ยน้ำ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้ปุ๋ยในแต่ละรูปแบบ ปุ๋ยเม็ดส่วนมากจะให้ในกลุ่มของธาตุอาหารหลัก ปุ๋ยน้ำส่วนมากจะให้ในกลุ่มของธาตุอาหารรอง ในกรณีที่พืชแสดงอาการขาดธาตุอาหารในกลุ่มของธาตุอาหารหลักอาจเปลี่ยนมาใช้ในรูปของน้ำแล้วทำการฉีดพ่นเข้าทางปากใบของพืช
การอธิบายหลักการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืชตามระยะการเจริญเติบโตพืช หลักการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืช ต้องทราบบทบาทหน้าที่ของสารควบคุมการเจริญเติบโตพืชแต่ละกลุ่มที่ต้องการนำมาใช้กับพืช ซึ่งต้องเลือกชนิดสารให้ถูกต้องตามคุณสมบัติของสารนั้น ๆ กรณีต้องการใช้สารที่ไม่เคยใช้มาก่อน แนะนำให้การทดลองใช้และจดบันทึกในอัตราส่วนที่ฉีดพ่นเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสารที่ใช้ เพราะหากใช้สารที่ความเข้มข้นมากเกินไปจะเกิดอันตรายกับพืชได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญในการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืชคือต้องเตรียมสารในอัตราที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ความเข้มข้นตามที่ฉลากแนะนำ ซึ่งจำเป็นต้องทราบวิธีการคำนวณหาอัตราการใช้สารที่ถูกต้องของสารออกฤทธิ์ (active indredient หรือ a.i.) ที่ระบุอยู่บนฉลากบรรจุภัณฑ์ ในการใช้สารสำหรับโดรนทางการเกษตรจะเน้นไปที่การพ่นทางใบ ปริมาณการแนะนำให้ใช้สารมักจะระบุความเข้มข้นของสารเป็นเปอร์เซนต์ หรือ ppm (มิลลิกรัมต่อลิตร) ตัวอย่างสารควบคุมการเจริญเติบโตพืช
การเลือกใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืชได้ตรงตามระยะการเจริญเติบโต สารควบคุมการเจริญเติบโตพืช (plant growth regulators; PGRs) จัดเป็นสารสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนพืช (plant hormones) โดยทั่วไปมักเรียกสารควบคุมการเจริญเติบโตพืชว่า “ฮอร์โมน” ซึ่งการเลือกใช้สารล้วนขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช โดยบทบาทหน้าที่ของฮอร์โมนพืชจะเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตพืชทุกขั้นตอนตั้งแต่การงอก การพัฒนาการของพืช การติดดอกออกผล การพัฒนาของผล การสุก ตัวอย่างความต้องการ PGR ในแต่ละระยะการเจริญเติบโต ได้แก่
- ออกซิน (Auxin): กระตุ้นการเจริญเติบโตของลำต้น ราก แตกตา - จิบเบอเรลลิน (Gibberellin): กระตุ้นการยืดตัวของข้อ ปล้อง ใบ ลำต้น - ไซโทไคนิน (Cytokinin): กระตุ้นการแบ่งเซลล์ การเจริญเติบโตของใบ ลำต้น ราก
- จิบเบอเรลลิน (Gibberellin): กระตุ้นการออกดอก เร่งการติดผล - ไซโทไคนิน (Cytokinin): กระตุ้นการแบ่งเซลล์ในดอก เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย - เอทิลีน (Ethylene): กระตุ้นการบานของดอกไม้ ส่งเสริมการติดผล
- จิบเบอเรลลิน (Gibberellin): เร่งการขยายขนาดของผล - เอทิลีน (Ethylene): กระตุ้นการแก่ของผล เร่งการเก็บเกี่ยว
- เอทิลีน (Ethylene): กระตุ้นการแก่ของใบ ลำต้น ส่งเสริมการเก็บเกี่ยว |
16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure) | |
รายละเอียดกระบวนการ เครื่องมือและเกณฑ์การประเมินอยู่ในคู่มือการประเมินสมรรถนะ ซึ่งมีเครื่องมือประเมินได้แก่ 1. ประเมินจากการสอบข้อเขียน 2. ประเมินความสามารถในการทำงานจากการสัมภาษณ์ 3. ประเมินจากสาธิตการปฏิบัติงาน |