อาชีพผู้ปฏิบัติงานด้านการปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน

ศึกษาข้อมูลพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกปาล์มน้ำมัน

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

    1) มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ และสรุปผลการประเมินพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน

    2) มีทักษะในการสังเกตเบื้องต้น แยกความแตกต่าง ตรวจสอบ ตัดสินใจ และดำเนินการประเมินพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน

    3) มีทักษะในการสื่อสาร สามารถอธิบายการประเมินพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมันให้ถูกต้อง

 

(ข) ความต้องการด้านความรู้

    1) มีความรู้ในการพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน

    2) มีความรู้ในการพิจารณาสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน

    3) มีความรู้ในการพิจารณาลักษณะโครงสร้างเนื้อดินในพื้นที่ปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน

    4) มีความรู้ในการเก็บตัวอย่างดินและตรวจสอบคุณสมบัติทางเคมีของดินเบื้องต้น เช่น ค่าความเป็นกรด-ด่าง ปริมาณอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารของพืชในดินสำหรับการปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน

 

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และทักษะ ความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

    (ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

    1) หลักฐาน/หนังสือรับรองการทำงาน ใบผ่านงาน ที่ออกโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้

    2) หลักฐาน/เอกสารการผ่านการอบรม

    (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)

    1) หนังสือรับรองคุณวุฒิทางการศึกษา

    2) หลักฐานการผ่านการอบรม หรือการประชุมเชิงปฏิบัติการ

    3) ผลการสอบข้อเขียน

    4) หลักฐานวุฒิการศึกษา

    5) ผลการทดสอบสัมภาษณ์/ปฏิบัติ

    (ค) คำแนะนำในการประเมิน

    1) การประเมินเป็นการใช้แบบสอบข้อเขียน และการสัมภาษณ์เชิงเทคนิคหรือประเมินจากการปฏิบัติงานจริงประกอบกัน โดยต้องผ่านในทุกวิธีการประเมิน

    2) ผู้เข้ารับการประเมินแสดงความจำนงในการขอรับการประเมินคุณวุฒิวิชาชีพในสาขาอาชีพและระดับชั้น ที่ประสงค์จะขอรับการประเมิน

    3) ผู้รับการประเมินจะต้องกรอกแบบยื่นคำขอรับการทดสอบสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ระบุข้อมูลประวัติของผู้รับการประเมิน และยื่นเอกสารประกอบการยื่นขอรับการทดสอบสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพผ่านช่องทางที่กำหนด

(ง) วิธีการประเมิน

    1) พิจารณาหลักฐานการปฏิบัติงาน จากการสัมภาษณ์เชิงเทคนิคหรือประเมินการจากการปฏิบัติจริง

    2) พิจารณาหลักฐานความรู้ การสอบข้อเขียน หรือหนังสือรับรองการทำงาน ใบผ่านงาน ใบผ่านการอบรม

 

ขอบเขต (Range Statement) อธิบายถึงการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยสมรรถนะนี้ ระบุองค์ประกอบในการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทั่วไปให้มีความเหมาะสม โดยต้องดำเนินงานเป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ มาตรฐาน แผนการดำเนินงาน และนโยบายของเจ้าของและผู้ประกอบการการประเมินพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

    (ก) คำแนะนำ

     N/A

(ข) คำอธิบายรายละเอียด

     1) การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกปาล์มน้ำมัน มีหลักการเลือกดังนี้

        (1) ควรเลือกพื้นที่ที่ดินมีชั้นหน้าดินลึก ความอุดมสมบูรณ์สูงถึงปานกลาง

        (2) ควรมีลักษณะดินร่วน ดินร่วนปนดินเหนียว ดินเหนียว เนื้อดินไม่ควรเป็นทรายจัด ไม่มีชั้นลูกรัง หรือชั้นดินดานสูงมากกว่า 0.50 เมตร

        (3) มีการระบายน้ำดีถึงปานกลาง น้ำไม่แช่ขังนาน มีระดับน้ำใต้ดินตื้น ความเป็นกรดเป็นด่างของดินที่ี่เหมาะสม 4-6

        (4) ความลาดเอียง 1-12 % แต่ไม่ควรเกิน 23 %

        (5) ควรอยู่ในเขตที่มีปริมาณน้ำฝนไม่น้อยกว่า 1,800 มม./ปี แต่ละเดือนควรมีฝนเฉลี่ยประมาณ 120 มม./เดือน ฝนทิ้งช่วงติดต่อกันนานไม่เกิน 3 เดือน เพราะช่วงแล้งที่ยาวนานทำให้ดอกตัวเมียลดลง ดอกตัวผู้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตลดลงในเวลา 19-22 เดือนหลังจากนั้น

        (6) มีแหล่งน้ำเพียงพอสำรองไว้ใช้ ถ้ามีการขาดน้ำมากกว่า 300 มม.ต่อปีหรือช่วงแล้งติดต่อมากกว่า 4 เดือน

        (7) พื้นที่ที่มีสภาพไม่เหมาะสมสำหรับปลูกปาล์มน้ำมัน เช่น ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ สภาพพรุ ดินค่อนข้างเค็ม พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังนาน ฯลฯ ต้องมีการจัดการแก้ไขตามสภาพปัญหาของพื้นที่นั้นๆ

        (8) เป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดประมาณ 2,000 ชั่วโมง/ปี หรือไม่ควรต่ำกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน

        (9) อุณหภูมิ 22 - 32 องศาเซลเซียส

        (10) ไม่อับลมและไม่มีลมพัดแรง

     2) ความเหมาะสมของการใช้ที่ดิน หมายถึง ที่ดินที่มีความเหมาะสมในการปลูกปาล์มน้ำมัน เช่น มีการระบายน้ำได้ดี ไม่มีน้ำท่วมขัง ไม่เป็นที่ลาดชันหรือเป็นที่ลุ่ม

     3) ความเหมาะสมของสภาพภูมิอากาศ หมายถึง ความเหมาะสมของปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิ แสง ลม ที่เหมาะสมในการปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน

     4) สมบัติทางกายภาพของดิน หมายถึง ประเภทชนิดดินต่างๆ รวมถึงโครงสร้างของดินที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมในการปลูกสร้างสวนปาล์มน้ำมัน เช่น ดินร่วน เหนียว หรือเป็นดินทราย

     5) สมบัติทางเคมีของดิน หมายถึง ค่าสมบัติทางเคมี เช่น ความเป็นกรด-ด่าง ปริมาณอินทรียวัตถุ รวมถึงปริมาณธาตุอาหารในดิน ซึ่งการจะได้มาถึงค่าดังกล่าว ซึ่งจำเป็นต้องเก็บตัวอย่างดินจากแปลงปลูกมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ

     6) การจำแนกชั้นความเหมาะสมของที่ดิน ตามหลักการของ FAO Framework (1983) แบ่งออกเป็น 4 ชั้น (Class) ดังนี้

    S1 : ชั้นที่มีความเหมาะสมสูง (Highly suitable) 

    S2 : ชั้นที่ความเหมาะสมปานกลาง (Moderately suitable)

    S3 : ชั้นที่ความเหมาะสมเล็กน้อย (Marginally suitable)

    N  : ชั้นที่ไม่มีความเหมาะสม (Not suitable)

     โดยพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันทั้งประเทศแยกตามชั้นความเหมาะสมได้ ดังนี้

    S1 : 1,569,570 ไร่

    S2 : 1,184,066 ไร่

    S3 : 1,356,975 ไร่

    N  : 380,991 ไร่

     7) สภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกปาล์มน้ำมัน ประกอบด้วย 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่

    - ปริมาณน้ำฝนและการกระจายตัวของฝน : ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมสำหรับปาล์มน้ำมันควรจะอยู่ระหว่าง 2,000-3,000 มม./ปี และมีการกระจายของฝนดี ในแต่ละเดือนต้องมีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มม.

    - ปริมาณแสงแดด : โดยปกติปาล์มน้ำมันจะต้องได้รับแสงแดดมากกว่า 5 ชั่วโมง/วัน หากปาล์มน้ำมันได้รับปริมาณแสงน้อยจะทำให้มีการสร้างอาหารน้อย ซึ่งมีผลทำให้การเจริญเติบโตลดลง และการสร้างดอกตัวเมียน้อยลง ส่งผลให้ผลผลิตลดลง

    - อุณหภูมิ : อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมันควรจะอยู่ในช่วง 22-32 องศาเซลเซียส มีปริมาณแสงแดดอย่างน้อย วันละ 5 ชั่วโมง

    - ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศ : ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพร้อนชื้น ความชื้นสัมพัทธ์จะมีผลต่อการคายน้ำ หากมีความชื้นสัมพัทธ์สูงจะมีอัตราการคายน้ำลดลง

    - ลม : ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่มีระบบรากเป็นรากฝอย ทำให้ไม่ทนทานต่อกระแสลมที่พักแรง ประกอบกับปาล์มน้ำมันมีทรงพุ่มใหญ่ทำให้ล้มได้ง่าย ความเร็วลมที่เหมาะสมไม่ควรมีความเร็วมากกว่า 

10 เมตร/วินาที

     8) สมบัติทางกายภาพของดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกปาล์มน้ำมัน ประกอบด้วย

 9) สมบัติทางเคมีของดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกปาล์มน้ำมัน ประกอบด้วย

หมายเหตุ : mg/kg = ppm และ cmol/kg = meq/100g.

1) แบบทดสอบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก

2) แบบประเมินจากปฏิบัติจากการสัมภาษณ์

3) แบบการสังเกตจากการปฏิบัติงาน

4) รายละเอียดเครื่องมือประเมินและเกณฑ์การประเมินอยู่ใน คู่มือการประเมินสมรรถนะ