หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

จัดเตรียมวัตถุดิบ

สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมพลาสติก


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ PSI-JGFG-219A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ จัดเตรียมวัตถุดิบ

3. ทบทวนครั้งที่ 1 / 2566

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

อาชีพช่างขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ในกระบวนการขึ้นรูปสุญญากาศ


1 8142 ผู้ควบคุมเครื่องจักรผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก

6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
ผู้ที่ผ่านหน่วยสมรรถนะนี้จะสามารถเตรียมวัตถุดิบให้ตรงตามใบสั่งผลิตและตรวจสอบวัตถุดิบสำหรับขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการสุญญากาศได้

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
อุตสาหกรรมพลาสติก 

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
N/A

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
04121 เตรียมวัตถุดิบใหตรงตามใบสั่งผลิต 1. บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมวัตถุดิบและใบสั่งผลิต 04121.01 197753
04121 เตรียมวัตถุดิบใหตรงตามใบสั่งผลิต 2. เลือกวัตถุดิบที่ใช้ได้อย่างถูกต้อง 04121.02 197754
04121 เตรียมวัตถุดิบใหตรงตามใบสั่งผลิต 3. บอกรายละเอียดใบสั่งการผลิตได้อย่างถูกต้อง 04121.03 197755
04122 ตรวจสอบวัตถุดิบสําหรับขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการสุญญากาศ 1. ตรวจสอบคุณลักษณะเบื้องต้นของวัตถุดิบ (ชนิด ความหนา น้ำหนัก สี) ต้องตรงตามใบสั่งผลิต 04122.01 197756
04122 ตรวจสอบวัตถุดิบสําหรับขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการสุญญากาศ 2. ตรวจสอบปริมาณที่เพียงพอของวัตถุดิบตามจำนวนในใบสั่งผลิต 04122.02 197757
04122 ตรวจสอบวัตถุดิบสําหรับขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการสุญญากาศ 3. คัดแยกวัตถุดิบที่มีจุดบกพร่องตามมาตรฐานหรือข้อกำหนดการตรวจสอบได้
04122.03 197758

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)

0000 ใช้อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน 

0411 ตรวจสอบข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์


13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1) การจำแนกวัตถุดิบที่ใช้และเบิกจ่ายตามใบสั่งผลิต

2) การตรวจสอบคุณลักษณะเบื้องต้นของวัตถุดิบ (ชนิด ขนาด น้ำหนัก สี ปริมาณของวัตถุดิบ) ต้องตรงตามจำนวนในใบสั่ง 

3) การคัดแยกวัตถุดิบที่มีจุดบกพร่องตามมาตรฐานหรือข้อกำหนดการตรวจสอบ

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1) ความรู้เกี่ยวกับคําศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมวัตถุดิบ ใบสั่งผลิตและประเภทของแผ่นพลาสติก

2) ความรู้เกี่ยวกับประเภทของวัตถุดิบและคุณสมบัติของพลาสติก ความรู้ทางด้านประเภทของเทอร์โมเซตติงพลาสติก (Thermosetting plastic) และเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)

3) ความรู้เกี่ยวกับรายละเอียดใบสั่งการผลิต

4) ความรู้เกี่ยวกับพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมเครื่องขึ้นรูปพลาสติกด้วยสูญญกาศ 


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

14.1 หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) 

1) บอกคําศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมวัตถุดิบ ใบสั่งผลิตและประเภทของแผ่นพลาสติก

2) บอกวัตถุดิบและคุณสมบัติของพลาสติก ความรู้ทางด้านประเภทของเทอร์โมเซตติงพลาสติก (Thermosetting plastic) และเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)

3) อธิบายรายละเอียดใบสั่งการผลิต

4) บอกพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมเครื่องขึ้นรูปพลาสติกด้วยสูญญกาศ

5) เอกสารรับรองผลการเรียน หรือเอกสารรับรองการผ่านการอบรม เช่น ใบรับรองผลการศึกษา ใบประกาศนียบัตร ใบรับรองการฝึกอบรม เป็นต้น 

6) เอกสารรับรองการสอบผ่านมาตรฐานสมรรถนะ เช่น วุฒิบัตร ใบรับรองคุณวุฒิ เป็นต้น 

7) เอกสารการประเมินผลการสอบข้อเขียน

 

14.2 หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) 

1) แสดงการเบิกจ่ายวัตถุดิบตามรายละเอียดใบสั่งการผลิต

2) แสดงการจัดเตรียมเครื่องขึ้นรูป และอุปกรณ์สำหรับการทำงาน

3) เอกสารรับรองการสอบผ่านมาตรฐานสมรรถนะ เช่น วุฒิบัตร ใบรับรองคุณวุฒิ เป็นต้น

4) เอกสารผลการประเมินการสอบข้อเขียน และผลการบันทึกการสอบสัมภาษณ์

5) เอกสารรับรองผลการเรียน หรือเอกสารรับรองการผ่านการอบรม เช่น ใบรับรองผลการศึกษา ใบประกาศนียบัตร ใบรับรองการฝึกอบรม เป็นต้น



14.3 คำแนะนำในการประเมิน 

ประเมินเกี่ยวกับช่างขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ด้วยกระบวนการขึ้นรูปสุญญากาศโดยพิจารณาหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหลักฐานการปฏิบัติงานและหลักฐานด้านความรู้


15. ขอบเขต (Range Statement)

(ก) ขอบข่ายงานและความรับผิดชอบตามหน่วยสมรรถนะ 

เป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการผลิตภัณฑ์ด้วยกระบวนการขึ้นรูปสูญญากาศ โดยขอบข่ายในการปฏิบัติงาน ตรวจเช็คจำนวนวัตถุดิบเพื่อให้พร้อมในการผลิตจัดเตรียมวัตุดิบให้ตรงตามใบสั่งการผลิต ตรวจสอบคุณภาพและทำความสะอาดวัตถุดิบก่อนทำการผลิต ตรวจสอบคุณลักษณะเบื้องต้นของวัตถุดิบ (ชนิด ความหนา น้ำหนัก สี) ต้องตรงตามใบสั่งผลิต คัดแยกวัตถุดิบที่มีจุดบกพร่องตามมาตรฐานหรือข้อกำหนดการตรวจสอบ



(ข) เครื่องมืออุปกรณ์และวัสดุที่จำเป็น 

1) วัตถุดิบแผ่นพลาสติกชนิดสำหรับกระบวนการขึ้นรูปด้วยสุญญากาศ 

2) เครื่องขึ้นพลาสติกด้วยสูญญากาศ 

3) อุปกรณ์ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน 

4) เครื่องมือวัดละเอียด เวอร์เนียคาริปเปอร์ 



(ค) คำแนะนำ

หลักฐานที่ต้องการแสดงสมรรถนะในส่วนนี้ ต้องมีความสัมพันธ์และตอบโจทย์สมรรถนะ และเกณฑ์การปฏิบัติงานในหน่วยสมรรถนะนี้ โดยต้องแสดงถึง 

1) ความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้อง 

2) วิธีปฏิบัติงานในสถานที่ทำงาน มาตรฐาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

3) ขอบเขตด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 



โดยเจ้าหน้าที่สอบตรวจประเมินหลักฐาน โดยพิจารณาจากร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหลักฐานด้านปฏิบัติงาน และหลักฐานด้านความรู้



(ง) คำอธิบายรายละเอียด 

แผ่นเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) คือ พลาสติกที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามอุณหภูมิ เนื่องจากมีโครงสร้างโมเลกุลแบบโซ่ตรงเป็นสายยาว และมีการเชื่อมต่อระหว่างโซ่พอลิเมอร์น้อยมาก เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัวและหลอมเหลวเป็นของเหลวหนืด แต่หากอุณหภูมิลดลงจะกลับไปแข็งตัวตามเดิม เทอร์โมพลาสติกที่มีรูปร่างไม่แน่นอน สามารถหลอมกลับไปกลับมาได้ โดยไม่ทำให้สมบัติทางเคมีและทางกายภาพ หรือโครงสร้างของโพลิเมอร์เปลี่ยนไปมากนัก



(จ) คำศัพท์เฉพาะสำหรับหน่วยสมรรถนะนี้

“ใบสั่งการผลิต คือ ใบสั่งการผลิตที่สถานประกอบการกําหนด”


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
0000 ใช้อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

เจ้าหน้าที่สอบพิจารณาหลักฐานจากแฟ้มสะสมผลงานที่เป็นเอกสารรับรองผลงานรับรองความรู้ความสามารถที่ผ่านมาก่อนหน้า หากไม่ชัดเจนหรือมีปริมาณไม่เพียงพอให้เชื่อถือได้ให้ประเมินสมรรถนะของผู้เข้ารับการประเมินด้วยเครื่องมือประเมินความรู้ และทักษะให้ครอบคลุมเกณฑ์การปฏิบัติงานทักษะและความรู้ที่ต้องการของหน่วยสมรรถนะนี้ ได้แก่

1) ประเมินภาคความรู้ด้วยข้อสอบข้อเขียนแบบตัวตัวเลือก

2) ประเมินภาคความรู้และความสามารถด้วยแบบการสัมภาษณ์เชิงเทคนิค

3) ประเมินภาคความรู้และความสามารถจากประสบการณ์ด้วยแฟ้มสะสมผลงานของผู้รับการประเมิน



ยินดีต้อนรับ