|
(ก) คำแนะนำ
ขอบเขต (Range Statement) อธิบายถึงการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยสมรรถนะนี้ระบุองค์ประกอบ ในการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทั่วไปให้มีความเหมาะสม โดยต้องดำเนินงานเป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ มาตรฐาน แผนการดำเนินงาน และนโยบายของเจ้าของสวนยางและผู้ประกอบการ ซึ่งต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
(ข) คำอธิบายรายละเอียด
1) (1/2S d/3) หมายถึง ระบบกรีดยางหน้าปกติ สัญลักษณ์ 1/2S = กรีดครึ่งลำต้น , d/3 = กรีดทุก 3 วัน วิธีนี้ให้ผลต่อครั้งกรีดดีมาก ความสิ้นเปลืองเปลือกต่อปีน้อยมาก ต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งน้อยมาก
2) (1/2S d/2) หมายถึง ระบบกรีดยางหน้าปกติ สัญลักษณ์ 1/2S = กรีดครึ่งลำต้น , d/2 = กรีดทุก 2 วัน (วันเว้นวัน) วิธีนี้ให้ผลผลิตต่อครั้งกรีดดี ความสิ้นเปลืองเปลือกต่อปีน้อย ต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งน้อย
3) (1/3S d/2+ET 2.5%) หมายถึง ระบบกรีดยางหน้าปกติ สัญลักษณ์ 1/3S = กรีดหนึ่งในสามลำต้น , d/2 = กรีดทุก 2 วัน (วันเว้นวัน), ET 2.5% (Ethephon) = การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางความเข้มข้น 2.5% วิธีนี้ให้ผลผลิตต่อครั้งกรีดดี ความสิ้นเปลืองเปลือกต่อปีน้อยมาก ต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งปานกลาง
4) (1/3S ä d/2+ET 2.5%) หมายถึง ระบบกรีดยางหน้าสูง สัญลักษณ์ 1/3S = กรีดหนึ่งในสามลำต้น , ä = ทิศทางการกรีดขึ้น , d/2 = กรีดทุก 2 วัน (วันเว้นวัน), ET2.5% (Ethephon) = การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางความเข้มข้น 2.5% วิธีนี้เปิดกรีดเหนือรอยกรีดหน้าล่าง 10 เซนติเมตร ให้ทำมุม 45 องศากับแนวระดับ เปลี่ยนหน้ากรีดให้เวียนทวนเข็มนาฬิกาหรือไปทางด้านขวาเมื่อหันหน้าเข้าหาต้นยาง
5) (1/3S d/2+ET 2.5%) หมายถึง ระบบกรีดยางหน้าสูง สัญลักษณ์ 1/3S = กรีดหนึ่งในสามลำต้น โดยการกรีดลง , d/2 = กรีดทุก 2 วัน (วันเว้นวัน), ET 25% (Ethephon) = การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางความเข้มข้น 2.5% ใช้บันไดเปิดกรีดที่ความสูง 200-250 เซนติเมตรจากพื้นดิน ให้ทำมุม 30-35 องศากับแนวระดับ กรีดลงเมื่อกรีดเข้าใกล้เปลือกของหน้ากรีดปกติผลผลิตจะลดลง เปลี่ยนหน้ากรีดให้เวียนตามเข็มนาฬิกาหรือเวียนไปทางด้านซ้ายเมื่อหันหน้าเข้าหาต้นยาง
6) (1/3S ä d/2+ET 2.5%) หมายถึง ระบบกรีดยางก่อนโค่น สัญลักษณ์ 1/3S = กรีดหนึ่งในสามลำต้น , ä = ทิศทางการกรีดขึ้น , d/2 = กรีดทุก 2 วัน (วันเว้นวัน), ET 25% (Ethephon) = การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางความเข้มข้น 2.5% เปิดรอยกรีดเหนือรอยกรีดด้านล่าง 10 เซนติเมตร ให้รอยกรีดทำมุม 45 องศากับแนวระดับ เปลี่ยนหน้ากรีดทุกปี สามารถกรีดได้นาน 3-6 ปี
7) (2x1/4S ä d/1 (t,t)+ET 2.5%) หมายถึง ระบบกรีดยางก่อนโค่น สัญลักษณ์ 2x1/4S = กรีดหนึ่งในสี่ของลำต้น 2 รอย อยู่ตรงกันข้าม , ä = ทิศทางการกรีดขึ้น , d/1 = กรีดทุกวัน วันละรอย , (t,t) = กรีด 2 รอย สลับหน้ากรีดทุกวัน , ET 2.5% (Ethephon) = การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางความเข้มข้น 2.5% เหมาะกับชาวสวนที่นิยมกรีดทุกวัน สามารถกรีดได้นาน 2 ปี
8) (1/2S ä d/2 +ET 2.5%) หมายถึง ระบบกรีดยางก่อนโค่น สัญลักษณ์ 1/2S = กรีดครึ่งลำต้น, ä = ทิศทางการกรีดขึ้น , d/2 = กรีดทุก 2 วัน (วันเว้นวัน), ET 25% (Ethephon) = การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางความเข้มข้น 2.5% เหมาะกับชาวสวนที่สลับแปลงกรีดและควรเปลี่ยนหน้ากรีดทุก 2 เดือน สามารถกรีดได้นาน 2 ปี
9) (2x1/2S ä d/1 (t,t)+ET 2.5 %) หมายถึง ระบบกรีดยางก่อนโค่น สัญลักษณ์ 2x1/2S = กรีดครึ่งลำต้น 2 รอย อยู่ตรงกันข้าม , ä = ทิศทางการกรีดขึ้น , d/1 = กรีดทุกวัน วันละรอย , (t,t) = กรีด 2 รอย สลับหน้ากรีดทุกวัน , ET 25% (Ethephon) = การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางความเข้มข้น 2.5% สามารถกรีดได้นาน 1 ปี เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นควรเปิดกรีดรอยที่สอง(ฝั่งตรงกันข้าม)ให้สูงกว่ารอยที่หนึ่ง 75 เซนติเมตร เมื่อถึงเดือนสุดท้ายก่อนโค่นให้กรีดทั้งสองรอยพร้อมกัน
10) เปลือกของต้นยางพารา หมายถึง ส่วนที่อยู่บริเวณนอกสุด แบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ เปลือกแข็งและเปลือกอ่อน โดยเปลือกอ่อนจะมีท่อน้ำยางมากกว่าเปลือกแข็งซึ่งท่อน้ำยางเหล่านี้จะไหลเวียนจากขวามาซ้ายและจำนวนท่อน้ำยางจะแตกต่างกัน
11) เยื่อเจริญของต้นยางพารา หมายถึง ส่วนที่อยู่ระหว่างเปลือกกับเนื้อไม้ เป็นส่วนที่สร้างเนื้อไม้และสร้างเปลือกงอกใหม่ขึ้นมาแทนที่เปลือกที่ถูกกรีด การกรีดแต่ละครั้งจึงไม่ควรทำลายเยื่อเจริญ
12) เนื้อไม้ของต้นยางพารา หมายถึง แกนกลางสำหรับยึดลำต้น แต่ไม่มีท่อน้ำยางอยู่เลย
13) เทคนิคการกรีดยาง ได้แก่ (1) กรีดเวียนจากซ้ายบนลงมาขวาล่าง เพื่อให้ตัดท่อน้ำยางให้มากที่สุด เนื่องจากท่อน้ำยางเรียงตัวเอียงประมาณ 3 องศา เวียนจากขวามาซ้าย (2) กรีดทำมุม 30-35 องศากับแนวระดับเพื่ออาศัยแรงโน้มถ่วงในการไหลของน้ำยาง หากมุมกรีดต่ำกว่า 30 องศาจะทำให้น้ำยางไหลออกนอกรอยกรีดจึงเก็บน้ำยางได้ไม่เต็มที่ (3) ไม่กรีดลึกจนถึงเยื่อเจริญ ควรกรีดให้ห่างจากเยื่อเจริญ ประมาณ 1 มิลลิเมตร ความหนาของเปลือกยางที่กรีดหากบางเกินไปก็ได้น้ำยางน้อย แต่ถ้าหนาเกินไปจนถึงเยื่อเจริญจะทำให้เกิดบาดแผลซึ่งจะทำให้น้ำยางลดลงเมื่อกรีดเปลือกที่ 2 หรือไม่สามารถกรีดได้อีก (4) กรีดด้วยวิธีกระตุกข้อมือจะทำให้มีดเฉือนเปลือกยางด้วยความเร็วอย่างฉับพลันและด้วยมีดที่คมอยู่เสมอจะทำให้รอยเฉือนคมและเกิดรอยแผลน้อย และกรีดไปข้างหน้าไม่กรีดถอยหลังซ้ำรอยกรีดเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันของท่อน้ำยาง ทำให้ได้น้ำยางมากกว่าการกรีดด้วยวิธีลากด้วยท่อนแขน (5) การตรวจสอบหลังกรีดยาง เช่น ตรวจถ้วยและเอาสิ่งเจือปนออก ตรวจสอบว่าน้ำยางไหลลงถ้วยหรือไม่
14) การจัดการเวลาในการกรีดยาง ประกอบด้วย (1) ควรกรีดยางในเวลา 03.00 - 05.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศเย็น น้ำยางไม่แข็งตัวอุดตันท่อน้ำยาง ส่งผลให้น้ำยางไหลได้นาน ทำให้ได้น้ำยางมากแต่ปัจจุบันเวลากรีดยางอาจแตกต่างกันไปเพราะขึ้นอยู่กับข้อจำกัดในพื้นที่ เช่น สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีกระตุ้นการไหลของน้ำยางทำให้สามารถกรีดยางในเวลากลางวันได้ (2) หยุดกรีดในช่วงยางผลัดใบจนกว่าใบที่ผลิใหม่จะแก่พอ เพราะการสร้างน้ำยาง (ซึ่งมาจากน้ำตาลและแป้ง) ต้องอาศัยการสังเคราะห์แสงจากใบที่สมบูรณ์ (3) กรีดชดเชย โดยกรีดซ้ำแปลงกรีดเดิมในวันถัดไป เพื่อทดแทนจำนวนวันกรีดที่สูญเสียไป แต่ไม่ควรกรีดซ้ำติดต่อกันเกิน 2 วัน (4) กรีดสาย คือ กรีดหลังจากเวลาปกติ ในกรณีที่ฝนตกหน้ากรีดยางเปียกชื้น (5) ไม่ควรกรีดยางทุกวัน เพราะมีผลเสียคือ ผลผลิตจะลดลง ต้นยางชะงักการเจริญเติบโต เป็นโรคเปลือกแห้งได้ง่าย เปลือกหมดเร็วและเปลือกงอกใหม่หนาไม่พอที่จะกรีดซ้ำได้
15) อุปกรณ์ในการกรีดยาง หมายถึง มีดกรีดยาง ตะเกียง กระเป๋าใส่มีดกรีดยางและเศษยาง หินลับมีดแบบละเอียด รองเท้าบูท ยากันยุง เป็นต้น
|