หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

จัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตร

สาขาวิชาชีพเกษตรกรรม


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ ARC-AKML-928A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ จัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตร

3. ทบทวนครั้งที่ 1 / 2566

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

ผู้ปฏิบัติงานด้านระบบการจัดการสวนยางพาราอย่างยั่งยืน


1 6112 ผู้ปฏิบัติงานด้านการปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล

6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
       หน่วยสมรรถนะนี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตร โดยผู้ที่ผ่านหน่วยสมรรถนะนี้ต้องมีความรู้ความเข้าใจใน หลักการวนเกษตรสวนยางพารา วิธีจัดสร้างสวนยางแบบวนเกษตร หลักความหลากหลายทางชีวภาพในสวนยางพาราและประโยชน์ของการทำสวนยางพาราแบบวนเกษตร และการประยุกต์ใช้หลักการจัดการสวนยางพาราแบบวนเกษตร และมีทักษะได้แก่ สามารถทำสวนยางพาราในแบบวนเกษตรได้อย่างถูกต้อง สามารถระบุแนวปฏิบัติและประโยชน์การจัดการสวนยางพาราแบบวนเกษตรได้

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
กลุ่มอาชีพเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ ผู้ปฏิบัติงานด้านเพาะปลูกยางพารา

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
ISCO 6112 ผู้ปฏิบัติงานด้านการปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
B251

หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา

1. อธิบายหลักการวนเกษตรสวนยางพาราตามหลักมาตรฐานสากลได้อย่างถูกต้อง

B251.01 196514
B251

หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา

2. อธิบายวิธีการจัดสร้างสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพาราได้ 

B251.02 196515
B251

หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา

3. อธิบายหลักความหลากหลายทางชีวภาพและประโยชน์ของการทำสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพาราได้

B251.03 196516
B251

หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา

4. ดำเนินการทำสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพาราได้อย่างถูกวิธี

B251.04 196517
B252

ประยุกต์หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา

1. อธิบายหลักการประยุกต์หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรได้

B252.01 196522
B252

ประยุกต์หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา

2. ระบุแนวปฏิบัติของการประยุกต์หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรได้

B252.02 196523
B252

ประยุกต์หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา

3. ระบุประโยชน์การจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรได้

B252.03 196524

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)

1)  วนเกษตร

2)  หลักการวางแผน


13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1)   มีทักษะในการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ การทดสอบ และการสรุปผลจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตร

2)   มีทักษะในการสังเกตเบื้องต้น แยกความแตกต่าง  ระบุ ดำเนินการ และประเมินแนวทางการปฏิบัติงานจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยาง

3)   มีทักษะในการสื่อสาร อธิบาย และทำความเข้าใจร่วมกับผู้ร่วมงานหรือผู้รับปฏิบัติตามแผนงานหรือแผนปฏิบัติการให้เข้าใจและปฏิบัติงานจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรให้ถูกต้อง

4)   มีทักษะในการติดต่อประสานงานกับผู้อื่นที่ทำงานหรือต้องรับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1)    มีความรู้ในหลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยาง

2)    มีความรู้ในการประยุกต์หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยาง


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) ทักษะและความรู้ที่ต้องการ

       (ก)  หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

              1)  หลักฐาน/หนังสือรับรองการทำงาน หรือการผ่านงานที่ออกโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้

              2)  ใบผ่านการฝึกอบรม หรือ ใบรับรองประสบการณ์การทำงาน (ถ้ามี)

       (ข)  หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)

              1)  หลักฐานคุณวุฒิการศึกษา

              2)  หลักฐานการผ่านการอบรม หรือการประชุมเชิงปฏิบัติการ

              3)  ผลการสอบข้อเขียน

              4)  ผลการทดสอบสัมภาษณ์/ปฏิบัติ

       (ค)  คำแนะนำในการประเมิน

              1) การประเมินเป็นการใช้แบบสอบข้อเขียน และการสัมภาษณ์เชิงเทคนิคหรือประเมินจากการปฏิบัติงานจริงประกอบกัน โดยต้องผ่านในทุกวิธีการประเมิน

              2) ผู้เข้ารับการประเมินแสดงความจำนงในการขอรับการประเมินคุณวุฒิวิชาชีพในสาขาอาชีพ และระดับชั้น ที่ประสงค์จะขอรับการประเมิน

              3) ผู้รับการประเมินจะต้องกรอกแบบยื่นคำขอรับการทดสอบสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ระบุข้อมูลประวัติของผู้รับการประเมิน และยื่นเอกสารประกอบการยื่นขอรับการทดสอบสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพผ่านช่องทางที่กำหนด

       (ง)  วิธีการประเมิน

              1)  การสอบข้อเขียน

              2)  การสอบสัมภาษณ์

              3)  การสอบปฏิบัติ


15. ขอบเขต (Range Statement)

       (ก)  คำแนะนำ

       ขอบเขต (Range Statement) อธิบายถึงการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยสมรรถนะนี้ระบุองค์ประกอบ ในการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทั่วไปให้มีความเหมาะสม โดยต้องดำเนินงานเป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ มาตรฐาน แผนการดำเนินงาน และนโยบายของเจ้าของสวนยางและผู้ประกอบการการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตร ซึ่งต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

       (ข)  คำอธิบายรายละเอียด

       ความหมายสวนยางพาราตามหลักวนเกษตร

       สวนยางพาราแบบวนเกษตร หมายถึง การทำสวนยางพาราที่มีการใช้ ประโยชนที่ดินอย่าง ต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการเลือกองค์ประกอบต่างๆ ทั้งพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ในหน่วยพื้นที่นั้น ๆ จะต้องคำนึงถึงสภาพภูมิประเทศ ดินฟ้าอากาศ และความต้องการของ เกษตรกรเป็นสำคัญ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในปัจจุบันและความยั่งยืนในอนาคตทั้ง ในทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหาร

       หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยาง

       การจัดสร้างวนเกษตรยางพารา สามารถดำเนินการทำได้หลายวิธี ซึ่งแนวทางการจัดทำตามวิธีการดังต่อไปนี้

              1. วิธีปลูกสลับแถว (Alternate rows) เป็นวิธีการที่นำเอาพืชหลายชนิดมาปลูกสลับแถวกับยางพารา

              2. วิธีปลูกเป็นแนวกันลม (Tree along borders) เป็นวิธีการที่นำเอาพืชยืนต้นที่อาจเป็นพืชเกษตรหรือพืชป่า ปลูกไว้รอบ ๆพื้นที่สวนยาง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นแนวกันลม ซึ่งพืชกันลมจะช่วยลดความเสียหายที่จะทำให้ต้นยางหักล้มได้

              3. วิธีปลูกผสมผสาน (Random mixture) เป็นวิธีการปลูกพืชอื่นหลายๆชนิดคละกันอยู่ในระหว่างแถวยาง การที่จะนำเอาพืชชนิดใดปลูกในสวนยาง ควรยึดหลักความต้องการแสงของพืชแต่ละชนิด และความสัมพันธ์ระหว่างพืชเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

              4. วิธีปลูกขยายแถว การปลูกยางพาราระยะกำหนดปกติ เช่น 3×7 เมตร หรือ 3×8

       รูปแบบของสวนยางพาราแบบวนเกษตร 

       โครงการร่วมอนุรักษ์เขาคอหงส์ (2555) ได้จำแนกรูปแบบของสวนยางพาราแบบวนเกษตรตามลักษณะชนิดพืช ร่วมยางที่ปลูกเป็น 4 รูปแบบ1) การปล่อยไม้ธรรมชาติให้เติบโตเป็นป่ายางพารา 2) การปลูกไม้ป่าเป็นพืชร่วมยาง 3) การปลูกไม้ป่าและไม้ผลเป็นพืชร่วมยาง 4) การปลูกไม้ผลเป็นพืชร่วมยาง

       ประยุกต์หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา

       สำหรับการประยุกต์หลักการจัดการสวนยางพาราตามหลักวนเกษตรยางพารา มีตัวอย่างในเรื่องขั้นตอนวางแผนการปลูกเป็นระยะและช่วงเวลาการเจริญเติบโตของยางพารา ดังนี้

              1) เริ่มต้น(ตุลาคม 2555) ด้วยการโค่นยางพาราที่หมดอายุ และเว้นไม้ใหญ่ในสวนไว้ทั้งหมด ได้แก่ ตะเคียน ยาง สะเดาเทียม เป็นต้น และปรับพื้นที่เท่าที่จำเป็น ทำร่องน้ำ วางเส้นทางคลองไส้ไก่ ทำการเตรียมดิน ทำน้ำหมักชีวภาพ ทำจุลินทรีย์ และทำปุ๋ยหมักชีวภาพ เตรียมไว้ก่อน พร้อมกล้ายางพารา

              2) ปลูกยางพารา ทำแถวเป็น 7.5?3 เมตร พร้อมปลูกกล้วยระหว่างแถวยางห่างกันประมาณ 10 เมตร ที่สวนใช้กล้วยน้ำว้า เพราะหาง่าย ปลูกเป็นไม้พี่เลี้ยงและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นแก่ดิน ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ คลุมโคนต้นด้วยหญ้า แล้วปล่อยให้หญ้าขึ้นเพื่อห่มดินไว้

              3) ช่วง 6 เดือนต่อมา ยางพาราและกล้วยเริ่มตั้งตัวได้ พร้อมเหล่าสหายก็คือหญ้า หญ้า และหญ้า จัดการด้วยการตัดหญ้า หมกไว้โคนยาง ทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์ฉีดน้ำหมักชีวภาพ และทำการปลูกไม้ยืนต้น ได้แก่ ประดู่ ตะเคียน ยางนา พะยอม ไม้สัก ปลูกไว้ข้างกอกล้วยในแนวเดียวกันให้กล้วยช่วยเป็นพี่เลี้ยง ไม้ยืนต้นเหล่านี้เป็นไม้โตช้าจะไม่สามารถแย่งแสงจากยางได้ในระยะต้น แต่เป็นไม้ที่สูงกว่ายางในระยะยาว ไว้เป็นมรดกหรือไม้บำนาญชีวิต ปลูก และผักสวนครัว มะเขือ พริก ถั่วฝักยาว ถั่วพลู เผือก ข้าวโพด ตะไคร้ กะเพรา โหระพา แมงลัก กระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบแดง ฯลฯ ปลูกแฝกขอบแนวร่องน้ำกันดินทลาย

              4) เมื่อไม้ยางพาราครบ 1 ปี เริ่มทำเป็นป่าด้วยการปลูกไม้ยืนต้น ไม้ผลเพิ่มเติม ด้วยการปลูกไผ่ซางหม่น ไผ่ซางนวล ไผ่กิมซุง ไผ่บงใหญ่ ไผ่รวก ไผ่บงหวาน ไผ่หว่ะโซว ระหว่างแถงยางพารา ในแนวเดียวกับกล้วย ปลูกสลับกับกล้วย ไผ่ส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นไผ่เพาะเมล็ด จะโตตามต้นยางขึ้นไป ทำการปลูกชั้นล่าง ขิง ข่า ดาหลา อ้อดิบ กระชาย ขมิ้น และผักสวนครัว มะเขือ พริก ถั่วฝักยาว หญ้าเนเปียร์ ฯลฯ ไว้เก็บกิน

              5) เมื่อผ่านไปปีครึ่ง ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ผลเพิ่มเติม สะตอ เนียง ยางบง สะเดาเทียม กระถินเทพา ในแนวรอบสวนโดยห่างกันประมาณ 2 เมตรเพื่อเป็นไม้กำหนดเขตแดน และป้องกันสารเคมีต่างๆ ที่จะเข้ามาในสวน

              6) ครบเวลา 2 ปีดูแลจัดการสวน รอให้ต้นไม้เติมโตตามธรรมชาติ ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ คืนชีวิตให้แผ่นดิน เรียกพนักงานพรวนดิน(ไส้ดือน) ให้กลับมา ตัดหญ้าตามกำลัง ในฤดูแล้งปล่อยหญ้าบางส่วนไว้คลุมดิน และตัดทำปุ๋ยตามความเหมาะสม ปลูกต้นไม้เสริมตามกำลังเพิ่มความหลากหลาย ได้แก่ ผักหวาน ชะมวง อ้อดิบ สับประรด ฝาง กระถิน หญ้าเนเปียร์ อ้อย ฯลฯ ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ

              7) เข้าสู่ปีที่ 3 ต้นไม้เริ่มสูงใหญ่พอมีร่มเงา สามารถปลูกพืชที่ไม่ต้องการแสงมาก เริ่มปลูกเหลียง ในร่องยางพารา บางส่วนปลูกสละอินโดในระหว่างร่องยางพาราที่เว้นไว้ตามแผนผังที่ออกแบบสวน ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพปีละ 2-3 ครั้ง

              8) ปีต่อๆ มา ต้นไม้ที่หลายหลายจะค่อยๆ เติบโต โดยผ่านการดูแลซึ่งกันและกัน บางชนิดอาจจะตายไปตามอายุ เช่นกล้วย จะได้แสงไม่พอก็จะไม่โตและตายไปในที่สุด ต้นไม้ที่หลากหลายก็จะพึ่งพากันเอง เป็นการพื้นฟูธรรมชาติ ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพปีละ 2 ครั้ง


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

1)  ประเมินจากแบบสอบข้อเขียน

2)  ประเมินโดยการสัมภาษณ์ตามแบบทดสอบที่กำหนดไว้

3)  ประเมินโดยการสอบปฏิบัติ

4)  ประเมินจากหลักฐานอื่น ๆ เช่น หนังสือรับรอง เอกสารรับรองการผ่านการอบรม หนังสือรับรองการทำงาน/ผ่านงาน โดยต้องดำเนินการควบคู่กับการสัมภาษณ์



ยินดีต้อนรับ