หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

ออกแบบระบบและกลไกการบริหารจัดการงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม

สาขาวิชาชีพบริการการศึกษา วิจัย และภาษา


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ ILS-OCZQ-249B

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ ออกแบบระบบและกลไกการบริหารจัดการงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม

3. ทบทวนครั้งที่ 1 / 2566

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)


ผู้จัดการด้านวิจัยและพัฒนา



6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
ผู้ที่ผ่านหน่วยสมรรถนะนี้สามารถออกแบบระบบและกลไกสำหรับการบริหารจัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมได้ โดยนำผลวิเคราะห์ ข้อสรุปวิจัย เพื่อการพัฒนา นวัตกรรม จัดทำระบบ แผนงานกิจกรรมสังเคราะห์ผลงานวิจัย และกำหนดกลไกการบริหารจัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม อีกทั้งจะต้องบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมได้ (ภายใน) โดยเข้าใจการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่สามารถควบคุมได้ บริหารการเปลี่ยนแปลงที่สามารถควบคุมได้ และประเมินผลการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ยังสามารถบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถควบคุมได้ (ภายนอก) โดยเข้าใจการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจสามารถควบคุมได้ บริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจสามารถควบคุมได้ ประเมินผลการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถควบคุมได้ และแก้ไขปัญหาและปรับตัว/รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
สาขาวิชาชีพบริการการศึกษา วิจัย และภาษา สาขาการวิจัยและพัฒนา

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
นักวิเคราะห์นโยบายและแผน  ผู้จัดการโครงการ ผู้บริหารโครงการ นักวิจัย

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
- คู่มือจรรยาวิชาชีพวิจัยและแนวทางปฏิบัติ โดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (พ.ศ. 2555)- กฎระเบียบของแหล่งทุน- พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2564- พ.ร.บ. ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พ.ศ. 2564

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
00511 ออกแบบระบบและกลไกสำหรับการบริหารจัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม 1. นำผลวิเคราะห์ข้อสรุปวิจัย เพื่อการพัฒนา นวัตกรรม 00511.01 186326
00511 ออกแบบระบบและกลไกสำหรับการบริหารจัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม 2. จัดทำระบบ แผนงานกิจกรรมสังเคราะห์ผลงานวิจัย 00511.02 186327
00511 ออกแบบระบบและกลไกสำหรับการบริหารจัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม 3. กำหนดกลไกการบริหารจัดการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม 00511.03 186328
00512 บริหารความเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมได้ (ภายใน) 1. เข้าใจการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่สามารถควบคุมได้ 00512.01 186329
00512 บริหารความเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมได้ (ภายใน) 2. บริหารการเปลี่ยนแปลงที่สามารถควบคุมได้ 00512.02 186330
00512 บริหารความเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมได้ (ภายใน) 3. ประเมินผลการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่สามารถควบคุมได้ 00512.03 186331
00513 บริหารความเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมได้ (ภายนอก) 1. เข้าใจการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจสามารถควบคุมได้ 00513.01 186333
00513 บริหารความเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมได้ (ภายนอก) 2. บริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจสามารถควบคุมได้ 3. ประเมินผลการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถควบคุมได้ 00513.02 186334
00513 บริหารความเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมได้ (ภายนอก) 3. ประเมินผลการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถควบคุมได้ 00513.03 186335
00513 บริหารความเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมได้ (ภายนอก) 4. แก้ไขปัญหาและปรับตัว/รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ 00513.04 186468

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)


- ความรู้และทักษะที่จำเป็น คือ การบริหารจัดการ ประสบการณ์ด้านการทำวิจัยและการสรรหาแหล่งทุน จริยธรรม และจรรยาบรรณการวิจัยรวมถึงการออกแบบการวิจัย การดำเนินการวิจัย และการบริหารทรัพยากรในการวิจัย
- ความรู้และทักษะการบริหารตามภาวการณ์ต่างๆ อาทิ การบริหารแนววิทยาศาสตร์ มนุษยสัมพันธ์  เชิงระบบและตามสถานการณ์ ภาวการณ์ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามบริบท (Context) ของสังคม ทั้งด้านเศรษฐกิจ  การเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ฯลฯ เป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งต้องบริหารแบบรู้เท่าทัน ทันการณ์  มีวิสัยทัศน์ โดยใช้พื้นฐานความรู้เดิมเป็นตัวตั้ง แล้วนำมาวิเคราะห์เรียบเรียง เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจ  แล้วจัดการกำจัดจุดอ่อนและเพิ่มจุดแข็ง


13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ


1. ความต้องการด้านทักษะ




- ทักษะในการจัดการ 




- ทักษะในการบริหาร




- ทักษะในการแก้ไขปัญหา




- ทักษะในการประเมินผล




- ทักษะทางการคิดวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจ




- ทักษะในการวางแผนกลยุทธ์




- ทักษะในการวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค




- ทักษะในการบริหารทรัพยากรการวิจัย




- ทักษะในการวิเคราะห์ความเสี่ยง

(ข) ความต้องการด้านความรู้


1. ความต้องการด้านความรู้




- ความรู้เกี่ยวกับการจัดการ 




- ความรู้เกี่ยวกับการบริหาร




- ความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา




- ความรู้เกี่ยวกับการประเมินผล




- ความรู้เกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจ




- ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์




- ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค




- ความรู้เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรการวิจัย




- ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ความเสี่ยง


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)


1. หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)




- แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลง




- ผลลัพธ์จากการบริหารการเปลี่ยนแปลง เช่น การปรับแบบการวิจัย กรอบการวิจัย




- ใบรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง




2. หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)




-สามารถประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงมีความรู้ความเข้าใจในบริบทของงานวิจัยไปเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น (Certificate จาก PMI)  มีใบผ่านการฝึกอบรม Project Manager ใบผ่านการฝึกอบรมการวิจัย เป็นต้น




3. คำแนะนำในการประเมิน




- เจ้าหน้าที่สอบตรวจประเมินหลักฐานโดยพิจารณาจากร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหลักฐานด้านปฏิบัติงานและหลักฐานด้านความรู้




4. วิธีการประเมิน




- การประเมินความรู้และการประเมินการปฏิบัติงาน ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ 


15. ขอบเขต (Range Statement)

-    มีความเข้าใจการบริหารงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เศรษฐกิจ สังคม และเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การวิจัยแห่งชาติ ได้อย่างเหมาะสมกับผลงานวิจัยนั้น 

-    สามารถนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม รองรับการเปลี่ยนแปลงในบริบทที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลง รวมถึงประเมินผลทั้งที่สามารถควบคุมได้ และไม่อาจสามารถควบคุมได้ และสามารถแก้ไขปัญหาและปรับตัว/รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้

-    การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management ) หมายถึง การวางแผนการดำเนินการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง และสนับสนุนให้เกิดการปรับตัวและการยอมรับ พร้อมทั้งสร้างศักยภาพใหม่ๆ เพื่อรองรับให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างเป็นผลตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากปัจจัย 2 ประเภท คือ ปัจจัยภายนอก เป็นสิ่งผลักดันจากภายนอกไม่ว่าจะเป็น นโยบายภาครัฐ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง เป็นต้น และปัจจัยภายใน เช่น การปรับระบบการดำเนินการงาน การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นต้น (อ้างอิง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ)  กระบวนการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงยังเป็นกรอบความคิดแบบหนึ่งของการจัดการความรู้ เพื่อให้องค์กรที่ต้องการจัดการความรู้ได้มุ่งเน้นถึงปัจจัยภายใน ที่จะมีผลกระทบต่อการจัดการความรู้ โดยกระบวนการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงประกอบด้วยการเตรียมการและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Transition and Behavior Management) การสื่อสาร (Communication) กระบวนการและเครื่องมือ (Process and Tools) การเรียนรู้ (Learning) และการวัดผล (Measurement)

 


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)


ทดสอบโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์



ยินดีต้อนรับ