ช่างพิมพ์ออฟเซตป้อนแผ่น

    

ต้องมีความรู้ทางด้านการพิมพ์ออฟเซต โครงสร้างเครื่องพิมพ์ออฟเซต ระบบการพิมพ์ออฟเซต การควบคุมคุณภาพ หรือต้องมีทักษะด้าน การเตรียมเครื่องพิมพ์ออฟเซต การปรับตั้งเครื่องพิมพ์ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์คุณภพางานพิมพ์ เป็นต้น  

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1.    เลือกใช้งานแผ่นทดสอบมาตรฐานได้ถูกต้อง

2.    เตรียมเครื่องมือวัดตามคู่มือได้อย่างถูกต้องก่อนการใช้งาน

3.    ปรับตั้งเครื่องให้พร้อมก่อนการใช้งาน

4.    ใช้งานเครื่องมือวัดได้ตรงตามวัตถุประสงค์

5.    อ่านค่าและวิเคราะห์ผลการจับหมึกจากแผ่นทดสอบมาตรฐาน ค่าความเปรียบต่าง ค่าความเพี้ยนของสีหมึกและความเป็นเทาได้

6.    การลำดับสีพิมพ์

7.    กำหนดสมดุลสี (color balance) หรือสมดุลสีเทา (gray balance) ของหมึกพิมพ์ได้ 

8.    อ่านค่าและวิเคราะห์ผลค่าความดำ และค่าความแตกต่างสีระหว่างงานพิมพ์และงานปรู๊ฟได้

9.    ตรวจสอบรายละเอียดงานพิมพ์ให้ถูกต้องตรงตามงานปรู๊ฟ

10.    การเลือกแบบพิมพ์ทดสอบถูกต้อง

11.    การกำหนดปัจจัยในการหาคุณลักษณะการพิมพ์ได้

12.    สร้างแผนภูมิแสดงคุณลักษณะการพิมพ์ได้

13.    อ่าน วิเคราะห์ และประเมินแผนภูมิแสดงคุณลักษณะการพิมพ์ได้

14.    การดูแลบำรุงรักษาเครื่องมือวัด

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1.    การสุ่มตัวอย่างงานพิมพ์

2.    การใช้งานเครื่องมือวัดตามคู่มือการใช้งานเครื่อง

3.    ความรู้เรื่องแบบทดสอบมาตรฐาน

4.    คุณสมบัติหมึกพิมพ์

5.    ความรู้พื้นฐานและทฤษฎีการวัดค่าการจับหมึกพิมพ์

6.    ขั้นตอนการวัดค่าการจับหมึก

7.    ค่ามาตรฐานและเกณฑ์มาตรฐานค่าการจับหมึกที่ถูกกำหนดไว้ เช่น มาตรฐานโรงพิมพ์ มาตรฐานสมาคมวิชาชีพ หรือมาตรฐานสากลต่าง ๆ

8.    ความรู้พื้นฐานและทฤษฎีการหาค่าความเปรียบต่าง

9.    ขั้นตอนการหาค่าความเปรียบต่าง

10.    ค่ามาตรฐานและเกณฑ์มาตรฐานค่าความเปรียบต่างที่ถูกกำหนดไว้ เช่น ข้อกำหนดโรงพิมพ์ มาตรฐานสมาคมวิชาชีพ หรือมาตรฐานสากลต่าง ๆ

11.    ความรู้พื้นฐานและทฤษฎีการหาค่าความเพี้ยนของสีหมึกและความเป็นเทา

12.    ขั้นตอนการหาค่าความเพี้ยนของสีหมึกและความเป็นเทา

13.    ความรู้เรื่องความดำและการหาความแตกต่างสี

14.    ขั้นตอนการวัดค่าความดำและค่าสี

15.    ค่ามาตรฐานและเกณฑ์มาตรฐานค่าความดำและความแตกต่างสีเช่น มาตรฐานโรงพิมพ์ มาตรฐานสมาคมวิชาชีพ หรือมาตรฐานสากลต่าง ๆ

16.    การควบคุมคุณภาพงานพิมพ์ออฟเซต

17.    หลักเกณฑ์ในการพิจารณาลักษณะการพิมพ์

 

    

(ก)    หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

1.    ผลการอ่านค่าและวิเคราะห์ค่าพื้นทีเม็ดสกรีนและเม็ดสกรีนบวม (TVI) ได้อย่างถูกต้อง

2.    ผลการวัดค่าพื้นที่เม็ดสกรีนและเม็ดสกรีนบวม (TVI) ด้วยเครื่องมือวัดค่าความดำพื้นทึบได้อย่างถูกต้อง

3.    ผลการอ่านค่าและวิเคราะห็ค่าการจับหมึก (Trapping)

4.    ผลการวัดและวิเคราะห์ความเปรียบต่างภาพพิมพ์

5.    ผลการคำนวณและวิเคราะห์ค่าความเปรียบต่าง (Print Contrast)

6.    ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพในการผลิตงานพิมพ์ (จากชิ้นงานที่ทำการวัดวิเคราะห์)

7.    ผลการวัดและวิเคราะห์ค่าความเพี้ยนสี(Hue Error) และความเป็นเทา (Grayness)

8.    ผลการวัดค่าความดำในตำแหน่งที่ใช้คำนวณค่าค่าความเพี้ยนสี(Hue Error) และความเป็นเทา (Grayness)ได้อย่างถูกต้อง

9.    ผลการคำนวณและวิเคราะห์ค่าค่าความเพี้ยนสี(Hue Error) และความเป็นเทา (Grayness)ได้อย่างถูกต้อง

10.    ผลการวัดและวิเคราะห์ค่าสี (L*a*b*) เปรียบเทียบความแตกต่างสีกับแผ่นปรู๊ฟ

11.    ผลการวิเคราะห์คุณลักษณะการพิมพ์ (Print characteristic)

12.    ผลการปรับตั้งค่าเครื่องมือคุณลักษณะการพิมพ์ (Print characteristic) ได้ตามคู่มือปฏิบัติงาน

13.    ผลการวิเคราะห์คุณลักษณะการพิมพ์ด้วยแผนภูมิแสดงคุณลักษณ์การพิมพ์ (print characteristic curve)

14.    ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพในการผลิตงานพิมพ์

15.    ผลการบันทึกและรายงานผล

(ข)    หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)

1.    การเลือกใช้งานอุปกรณ์เพื่อการวัดค่า

2.    หลักการและเหตุผลในการวัดค่าต่าง ๆ 

3.    มาตรฐานและเกณฑ์ค่าความดำพื้นทึบและเม็ดสกรีนบวม

4.    มาตรฐานและเกณฑ์ค่าการจับหมึก

5.    มาตรฐานและเกณฑ์ค่าการจับหมึกค่าความเปรียบต่าง

6.    มาตรฐานและเกณฑ์ค่าความเพี้ยนสี(Hue Error) และความเป็นเทา (Grayness)

7.    มาตรฐานและเกณฑ์ค่าสี (L*a*b*) เปรียบเทียบความแตกต่างสีกับแผ่นปรู๊ฟ

8.    มาตรฐานและเกณฑ์คุณลักษณะการพิมพ์ (Print characteristic)

9.    การเลือกใช้และการวิเคราะห์แบบทดสอบมาตรฐาน (test form)

10.    หลักการและเหตุผลในการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์กับงานปรู๊ฟ

11.    มาตรฐานและเกณฑ์การควบคุมคุณภาพงานพิมพ์กับงานปรู๊ฟ

12.    วิธีการดำเนินการตรวจสอบและวิเคราะห์คุณลักษณะการพิมพ์

13.    แนวทางการนำผลวิเคราะห์คุณลักษณะการพิมพ์ไปใช้กำหนดหรือใช้เป็นเกณฑ์ในการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์

(ค)    คำแนะนำในการประเมิน

1.    หลักฐานการปฏิบัติงานที่ต้องการ ได้แก่ ประเมินการเตรียม การดำเนินการ และการเลือกเครื่องมือในการตรวจสอบคุณภาพงานพิมพ์

2.    หลักฐานความรู้ที่ต้องการ ได้แก่ หลักการเลือกเครื่องมือในการตรวจสอบคุณภาพงานพิมพ์ และเทคนิคการเขียนรายงาน

(ง)    วิธีการประเมิน

N/A

(ก)    คำแนะนำ 

1.    เครื่องมือวัดค่า เช่น เครื่องวัดความดำ (densitometer) เครื่องสเปกโทรเดนซิโตมีเตอร์ (spectrodensitometer)

2.    การเตรียมเครื่องมือวัด ได้แก่ การอุ่นเครื่องและการปรับเทียบค่ามาตรฐาน (calibration)

3.    การปรับตั้งเครื่อง ได้แก่ การเลือกฟิลเตอร์ต้องเป็นฟิลเตอร์สำหรับสีที่สองเท่านั้น การตั้งสีขาวอ้างอิง

4.    ตำแหน่งในการวัดค่าค่าการจับหมึกคือ แถบควบคุมการจับหมึกในแบบทดสอบมาตรฐาน (test form)

5.    ค่าการจับหมึก คือ ค่าความสามารถของหมึกพิมพ์สีที่สองในการพิมพ์ซ้อนทับหมึกพิมพ์สีแรก คำนวณได้จากสมการของ พรูซิล (Preucil’s equation)

ค่าการจับหมึก (%) = [(DOP – D1) / D2] x 100

โดยที่ 

DOPคือ ค่าความดำพื้นทึบของการพิมพ์ซ้อนทับทั้งสองสี

D1คือ ค่าความดำพื้นทึบของหมึกพิมพ์สีแรก

D2 คือ ค่าความดำพื้นทึบของหมึกพิมพ์สีที่สอง

6.    ค่าการจับหมึกของแถบสีแดงไม่น้อยกว่า 70% แถบสีน้ำเงินไม่น้อยกว่า 75% และแถบสีเขียวไม่น้อยกว่า 80%

7.    ตำแหน่งในการวัดความเปรียบต่างภาพพิมพ์ คือ พื้นทึบ (พื้นที่สกรีน 100%) และสกรีน (พื้นที่สกรีน 75 – 80%) บนแถบควบคุม (control strip)

8.    ค่าความเปรียบต่างภาพพิมพ์ คือ การวัดความสามารถในการเก็บรายละเอียดบริเวณเงา (shadow) ของสิ่งพิมพ์ คำนวณได้จากสมการของ Shinner e Renzer’s equation

ค่าความเปรียบต่างภาพพิมพ์ = [(DS-Dt) / DS] x 100

โดยที่ 

DSคือ ค่าความดำพื้นทึบ (พื้นที่สกรีน 100%)

Dt คือ ค่าความดำพื้นที่สกรีน 75% หรือ 80% 

9.    ค่าความเปรียบต่างของสีดำไม่น้อยกว่า 50% และสีน้ำเงินเขียว ม่วงแดง และเหลืองไม่น้อยกว่า 40% หรือเป็นไปตามข้อกำหนดของโรงพิมพ์หรือมาตรฐานทางการพิมพ์อื่น ๆ

10.    ตำแหน่งในการวัดความความเพี้ยนของสีหมึกและความเป็นเทา คือ พื้นทึบ (พื้นที่สกรีน 100%) ของสีน้ำเงินเขียว (C) สีม่วงแดง (M) และสีเหลือง (Y) บนแถบควบคุม (control strip)

11.    ค่าความเพี้ยนของสีหมึก (hue error) แสดงถึงค่าความผิดพลาดของสีหมึกพิมพ์ที่ใช้ทั่วไปกับสีหมึกพิมพ์ในอุดมคติ คำนวณได้จากสมการต่อไปนี้

ค่าความเพี้ยนของสีหมึก (%) = [(DM - DL) / (DH - DL)] x 100

โดยที่ 

DLคือ ค่าความดำพื้นทึบของหมึกพิมพ์สีน้ำเงินเขียว หรือม่วงแดง หรือเหลือง ที่มีค่าต่ำสุด

DMคือ ค่าความดำพื้นทึบของหมึกพิมพ์สีน้ำเงินเขียว หรือม่วงแดง หรือเหลือง ที่มีค่าปานกลาง

DHคือ ค่าความดำพื้นทึบของหมึกพิมพ์สีน้ำเงินเขียว หรือม่วงแดง หรือเหลือง ที่มีค่าสูงสุด

12.    ค่าความเป็นเทา (grayness) คือ ความเป็นสีเทาที่เกิดจากการความไม่บริสุทธิ์ของหมึกพิมพ์ หรือการปนเปื้อนของสีอื่น ๆ ในหมึกพิมพ์ คำนวณได้จากสมการต่อไปนี้

ค่าความเป็นเทา (%) = (DL / DH) x 100

โดยที่ 

DLคือ ค่าความดำพื้นทึบของหมึกพิมพ์สีน้ำเงินเขียว หรือม่วงแดง หรือเหลือง ที่มีค่าต่ำสุด

DHคือ ค่าความดำพื้นทึบของหมึกพิมพ์สีน้ำเงินเขียว หรือม่วงแดง หรือเหลือง ที่มีค่าสูงสุด

13.    ค่าความเพี้ยนของสีหมึกและค่าความเป็นเทาเป็นไปตามข้อกำหนดของโรงพิมพ์หรือมาตรฐานทางการพิมพ์อื่น ๆ ที่โรงพิมพ์เลือกใช้

14.    สมดุลสี (color balance) หรือสมดุลสีเทา (gray balance) คือ การแก้ไขความบกพร่องสีหรือความผิดเพี้ยนสีของหมึกพิมพ์

15.    การตรวจสอบงานพิมพ์กับงานปรู๊ฟ คือ การตรวจสอบสี การตรวจสอบรายละเอียดงานพิมพ์ (รายละเอียดภาพ) การตรวจสอบค่าความดำ

16.    เครื่องมือวัดค่า เช่น เครื่องวัดความดำ (densitometer) เครื่องสเปกโทรเดนซิโตมีเตอร์ (spectrodensitometer) เครื่องสเปกโทรโฟโต้มีเตอร์(spectrophotometer)

17.    การเตรียมเครื่องมือวัด ได้แก่ การอุ่นเครื่องและการปรับเทียบค่ามาตรฐาน (calibration)

18.    การปรับตั้งเครื่อง ได้แก่ การเลือกแหล่งกำเนิดแสง การกำหนดมุมมองผู้สังเกตการณ์ แบบจำลองสี 

19.    ตำแหน่งในการวัดค่า คือ แถบควบคุม (controlstrip)

20.    ค่าความดำและค่าความแตกต่างสีให้เป็นไปตามข้อกำหนดโรงพิมพ์ หรือมาตรฐานสมาคมวิชาชีพ หรือมาตรฐานสากลต่าง ๆ

21.    แบบพิมพ์ทดสอบ ได้แก่ แบบพิมพ์ที่สร้างขึ้น ประกอบขึ้น หรือใช้แบบพิมพ์ทดสอบตามมาตรฐานสากล

22.    ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพงานพิมพ์ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ กระดาษพิมพ์ หมึกพิมพ์ วัสดุอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น แม่พิมพ์ ผ้ายาง น้ำยาฟาวน์เทน การปรับตั้งเครื่องพิมพ์ การควบคุมการพิมพ์และสภาวะการพิมพ์

23.    คุณลักษณะการพิมพ์ คือ การวิเคราะห์การผลิตน้ำหนักสีโดยรวมของภาพพิมพ์ (tone value increase) โดยอาศัยการวิเคราะห์แผนภูมิแสดงคุณลักษณะการพิมพ์ (print characteristic curve)

24.    การบันทึกและรายงานผลสำหรับใช้เป็นค่าอ้างอิงในการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์ภายในโรงพิมพ์

25.    การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องวัด ได้แก่ การทำความสะอาด การตรวจสอบสภาพด้วยตาเปล่า

(ข)    คำอธิบายรายละเอียด

N/A

 

18.1 การทดสอบโดยข้อสอบ (รายละเอียดตามคู่มือประเมินหน้า.......)

18.2 การทดสอบโดยการประเมินการปฏิบัติงาน (รายละเอียดตามคู่มือประเมินหน้า.......)

18.3 การประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงาน (รายละเอียดตามคู่มือประเมินหน้า.......)