หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

ฝึกนักกีฬาคนพิการ

สาขาวิชาชีพการกีฬา


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ SPT-FGZN-267A

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ ฝึกนักกีฬาคนพิการ

3. ทบทวนครั้งที่ - / 2566

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย



6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
เป็นผู้มีความรู้ในการจัดเตรียมรูปแบบการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาแต่ละประเภทและระดับความพิการ พัฒนาความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ความอดทนของกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงอดทนของระบบหัวใจและหลอดเลือด ความคล่องแคล่วว่องไว ความสัมพันธ์ของร่างกาย กำหนดสถานที่และอุปกรณ์ในการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกายกับการเล่นกีฬาแต่ละประเภทและระดับความพิการได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
N/A

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
10206.01

ฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาแต่ละประเภทและระดับความพิการ   

A.จัดเตรียมรูปแบบการฝึกให้สอดคล้องกับกีฬาแต่ละประเภทและระดับความพิการ

10206.01.01 182721

B.ฝึกนักกีฬาให้ความเหมาะสมกับร่างกายในแต่ละบุคคลและสอดคล้องกับชนิดกีฬาและระดับความพิการ

10206.01.02 182722

C.เตรียมสถานที่และอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกนักกีฬาเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาในแต่ละช่วงฝึกสอน 

10206.01.03 182723

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)
N/A

13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1. มีทักษะในการจัดเตรียมรูปแบบการฝึกนักกีฬาคนพิการให้สอดคล้องของแต่ละประเภทและระดับความพิการได้อย่างเหมาะสม

2. มีทักษะในการจัดเตรียมรูปแบบการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแต่ละประเภทกีฬาและระดับความพิการได้อย่างเหมาะสม

3. มีทักษะในการจัดเตรียมรูปแบบการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาความยืดหยุ่นของร่างกายแต่ละประเภทกีฬาและระดับความพิการได้อย่างเหมาะสม

4. มีทักษะในการจัดเตรียมรูปแบบการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาความอดทนของกล้ามเนื้อแต่ละประเภทกีฬาและระดับความพิการได้อย่างเหมาะสม

5. มีทักษะในการจัดเตรียมรูปแบบการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาความแข็งแรงอดทนของระบบหัวใจและหลอดเลือดแต่ละประเภทกีฬาและระดับความพิการได้อย่างเหมาะสม

6. มีทักษะในการจัดเตรียมรูปแบบการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาความคล่องแคล่วว่องไวแต่ละประเภทกีฬาและระดับความพิการได้อย่างเหมาะสม

7. มีทักษะในการจัดเตรียมรูปแบบการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของร่างกายแต่ละประเภทกีฬาและระดับความพิการได้อย่างเหมาะสม

8. มีทักษะในการฝึกและฟื้นฟูนักกีฬาคนพิการให้มีความเหมาะสมในแต่ละบุคคลเมื่อมีการบาดเจ็บของร่างกายแต่ละประเภทกีฬาและระดับความพิการได้อย่างเหมาะสม

9. มีทักษะในการกำหนดสถานที่และอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาแต่ละประเภทและระดับความพิการในแต่ละช่วงฝึกสอน

 

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1. ความรู้เกี่ยวกับการฝึกนักกีฬาคนพิการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาแต่ละประเภทและระดับความพิการ เช่น การฝึกที่พัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่นร่างกาย ความอดทนของกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงอดทนของระบบหัวใจและหลอดเลือด ความคล่องแคล่วว่องไว ความสัมพันธ์ของร่างกายได้อย่างเหมาะสม

 2. ความรู้เกี่ยวกับฝึกนักกีฬาคนพิการให้มีความเหมาะสมกับกีฬาแต่ละประเภทและระดับความพิการในการฟื้นฟูร่างกายเมื่อมีการบาดเจ็บ 

 


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมินและควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน(Performance Criteria)และความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

    ไม่มี

(ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)

    1. ผลการทดสอบความรู้

    2. เอกสาร/หลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบผ่านการอบรมที่เชื่อถือได้

(ค) คำแนะนำในการประเมิน

ผู้เข้ารับการประเมินต้องผ่านการประเมินที่ครอบคลุมในทุกสมรรถนะย่อยขอบเขตความรู้และทักษะที่กำหนดในกรณีที่ผู้รับการประเมินผ่านไม่ครบตามเกณฑ์กำหนดผู้ประเมินต้องแจ้งหน่วยสมรรถนะและสมรรถนะย่อยที่ไม่ผ่านให้ผู้รับการประเมินไปทบทวนสมรรถนะที่ยังไม่ผ่านและสามารถกลับมาทดสอบสมรรถนะใหม่อีกครั้ง

(ง) วิธีการประเมิน

    1. ผู้ประเมินทำการประเมินความรู้ผู้เข้าทดสอบโดยใช้แบบทดสอบความรู้และ/หรือเอกสาร/หลักฐานที่เกี่ยวข้อง

 


15. ขอบเขต (Range Statement)

ขอบเขตอธิบายถึงขอบเขตของการปฏิบัติงานและสภาพแวดล้อมอื่นๆหรือสถานการณ์อื่นๆที่มีผลกระทบต่อการทำงานรวมถึงเครื่องมืออุปกรณ์เทคโนโลยีทรัพยากรที่ใช้หรือข้อกำหนดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

(ก) คำแนะนำ

     ไม่มี

(ข) คำอธิบายรายละเอียด

     ไม่มี

 


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

กระบวนการและวิธีการประเมินให้ดูในคู่มือการประเมิน