หน่วยสมรรถนะ
ตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีตรวจสอบ (Method Validation)
สาขาวิชาชีพอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า
รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ
1. รหัสหน่วยสมรรถนะ | GEM-BITK-068B |
2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ | ตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีตรวจสอบ (Method Validation) |
3. ทบทวนครั้งที่ | / |
4. สร้างใหม่ | ปรับปรุง |
5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification) | |
1. อาชีพนักวิเคราะห์โลหะมีค่า 1 3111 ช่างเทคนิคด้านเคมีและวิทยาศาสตร์กายภาพ |
6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency) | |
หน่วยสมรรถนะนี้ใช้กับผู้ปฎิบัติงานในห้องปฏิบัติการตรวจสอบโลหะมีค่า หรือผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบโลหะมีค่าในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยมีการใช้เครื่องมือในการตรวจสอบโลหะมีค่า ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้และทักษะในเรื่องของการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีตรวจสอบ (Method Validation) |
7. สำหรับระดับคุณวุฒิ |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
8. กลุ่มอาชีพ (Sector) | |
กลุ่มวิชาชีพอัญมณีและเครื่องประดับ |
9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี) | |
N/A |
10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี) | |
N/A |
11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria) |
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) | เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) | รหัส PC (ตามเล่มมาตรฐาน) |
รหัส PC (จากระบบ) |
---|---|---|---|
50060201 เลือกวิธีทดสอบที่เหมาะสม |
1. เข้าใจวิธีการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ |
50060201.01 | 159739 |
50060201 เลือกวิธีทดสอบที่เหมาะสม |
2. เลือกวิธีทดสอบตามความต้องการลูกค้าและข้อจำกัดของวิธีทดสอบนั้นๆ |
50060201.02 | 159740 |
50060202 ตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ |
1. กำหนดตัวแปรที่มีผลต่อการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ |
50060202.01 | 159744 |
50060202 ตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ |
2. ทดลองตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ |
50060202.02 | 159745 |
50060202 ตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ |
3. ประเมินและสรุปผลความใช้ได้ของวิธีทดสอบ |
50060202.03 | 159746 |
12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge) | |
N/A |
13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) | |
(ก) ความต้องการด้านทักษะ 1. สามารถเข้าใจวิธีการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 2. สามารถเลือกวิธีทดสอบตามความต้องการลูกค้าและข้อจำกัดของวิธีทดสอบนั้นๆ 3. สามารถกำหนดตัวแปรที่มีผลต่อการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 4. สามารถทดลองตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 5. สามารถประเมินและสรุปผลความใช้ได้ของวิธีทดสอบ (ข) ความต้องการด้านความรู้ 1. ความรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 2. ความรู้เกี่ยวกับการเลือกวิธีทดสอบตามความต้องการลูกค้าและข้อจำกัดของวิธีทดสอบนั้นๆ 3. ความรู้เกี่ยวกับการกำหนดตัวแปรที่มีผลต่อการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 4. ความรู้เกี่ยวกับการทดลองตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 5. ความรู้เกี่ยวกับการประเมินและสรุปผลความใช้ได้ของวิธีทดสอบ |
14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide) | |
หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) (ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) 1. แสดงความเข้าใจวิธีการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 2. แสดงการเลือกวิธีทดสอบตามความต้องการลูกค้าและข้อจำกัดของวิธีทดสอบนั้นๆ 3. แสดงการกำหนดตัวแปรที่มีผลต่อการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 4. แสดงการทดลองตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 5. แสดงการประเมินและสรุปผลความใช้ได้ของวิธีทดสอบ (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) 1. อธิบายเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 2. อธิบายเกี่ยวกับการเลือกวิธีทดสอบตามความต้องการลูกค้าและข้อจำกัดของวิธีทดสอบนั้นๆ 3. อธิบายเกี่ยวกับการกำหนดตัวแปรที่มีผลต่อการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 4. อธิบายเกี่ยวกับการทดลองตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 5. อธิบายเกี่ยวกับการประเมินและสรุปผลความใช้ได้ของวิธีทดสอบ 6. ใบบันทึกผลการทดสอบข้อเขียน 7. ใบบันทึกผลการสัมภาษณ์ (ค) คำแนะนำในการประเมิน ผู้ประเมินตรวจประเมินเกี่ยวกับการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีตรวจสอบ โดยพิจารณาจากหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหลักฐานการปฏิบัติงาน และหลักฐานด้านความรู้ (ง) วิธีการประเมิน 1. ข้อสอบข้อเขียน แบบทดสอบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก 2. การสัมภาษณ์ |
15. ขอบเขต (Range Statement) | |
(ก) คำแนะนำ ผู้เข้ารับการประเมินต้องมีความรู้และทักษะในเรื่องของเครื่องมือหรืออุปกรณ์ตรวจสอบโลหะมีค่า ซึ่งเน้นถึงการปฏิบัติในห้องปฏิบัติการตรวจสอบโลหะมีค่า โลหะมีค่าในหน่วยสมรรถนะนี้ ได้แก่ ทองคำ และเงิน ทั้งที่เป็นชิ้นงานโลหะและตัวเรือนเครื่องประดับ หรือในรูปของโลหะผสม ผู้เข้าประเมินควรมีความรู้และทักษะที่สำคัญในการใช้เครื่องมือตรวจสอบโลหะมีค่า โดยเฉพาะต้องมีความรู้และทักษะในเรื่องของการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีตรวจสอบ (Method Validation) การที่ห้องปฎิบัติการตรวจสอบโลหะมีค่า จะตรวจสอบให้ผลถูกต้องและเป็นที่น่าเชื่อถือนั้น วิธีตรวจสอบจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญ ดังนั้นการเลือกวิธีตรวจสอบมาใช้ เช่น วิธีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วไป วิธีการที่ผู้อื่นพัฒนาขึ้น หรือเป็นวิธีที่พัฒนาขึ้นเองในห้องปฏิบัติการ จะต้องมีการทดสอบก่อนว่า สามารถใช้ตรวจสอบตัวอย่างได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เช่น เพื่อหาปริมาณส่วนประกอบโลหะมีค่าในชิ้นงานตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบว่าตัวอย่างมีคุณภาพเข้ามาตรฐานหรือไม่ เป็นต้น สมรรถนะนี้ มีการใช้ข้อมูลเป็นแนวทางในการกำหนดสมรรถนะ คือ มาตรฐาน ISO 17025 General requirements for the competence of testing and calibration laboratories หรือ มอก. 17025-2561 ข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการสอบเทียบ และหนังสือเรื่องการจัดทำระบบคุณภาพ ISO 17025 & GLP สำหรับห้องปฏิบัติการเคมี โดยอภิชาติ อิ่มยิ้ม ปีพ.ศ. 2559 (ข) คำอธิบายรายละเอียด การตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีตรวจสอบ (Method Validation) เป็นกระบวนการศึกษาทางห้องปฏิบัติการเพื่อศึกษาหรือยืนยันคุณลักษณะเฉพาะของวิธีวิเคราะห์ และประเมินด้วยวิธีทางสถิติว่าวิธีวิเคราะห์นี้มีความถูกต้องและเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน คุณลักษณะเฉพาะของวิธีเหล่านี้ เช่น ความจำเพาะเจาะจง (Specificity/ Selectivity) ความแม่น (Accuracy) ความเที่ยง (Precision) พิสัยหรือช่วงของการใช้งาน (Working range) และความเป็นเส้นตรง (Linearity) ขีดจำกัดของวิธีเชิงคุณภาพและปริมาณ (Limit of detection และ Limit of quantitation) และความทนของวิธี (Ruggedness/ Robustness) เป็นต้น การศึกษาคุณลักษณะเฉพาะเหล่านี้อาจไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีวิเคราะห์และวัตถุประสงค์ของการใช้งาน การตรวจสอบความถูกต้องของวิธีวิเคราะห์ (Method Validation) จำเป็นอย่างยิ่งในกรณีต่อไปนี้ 1. วิธีทดสอบที่ไม่ใช่วิธีมาตรฐาน เป็นวิธีที่ยังไม่ได้รับการยอมรับทั่วไปในวงการที่เกี่ยวข้อง เช่น วิธีที่ห้องปฏิบัติการพัฒนาเอง วิธีที่ห้องปฏิบัติการปรับเปลี่ยนหรือดัดแปลงจากวิธีมาตรฐาน 2. วิธีทดสอบที่ใช้นอกขอบเขตวิธีมาตรฐาน 3. เมื่อผลการควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่าวิธีทดสอบมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 4. การนำไปใช้ต่างห้องปฏิบัติการหรือต่างเครื่องมือ 5. เมื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าวิธีสองวิธีไม่แตกต่างกัน เช่น วิธีใหม่กับวิธีมาตรฐาน |
16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure) | |
18.1 เครื่องมือการประเมิน 1. ข้อสอบข้อเขียน แบบทดสอบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก 2. การสอบสัมภาษณ์ ดูรายละเอียดจากคู่มือการประเมิน |