หน่วยสมรรถนะ
การรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัย
สาขาวิชาชีพธุรกิจโฆษณาประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน
รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ
1. รหัสหน่วยสมรรถนะ | PCP-APR-5-047ZB |
2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ | การรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัย |
3. ทบทวนครั้งที่ | - / - |
4. สร้างใหม่ | ปรับปรุง |
5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification) | |
ชื่ออาชีพ 1222 Advertising and Public Relations Managers, 2432 Public Relations Professionals 1 1222 ผู้จัดการด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 1 2432 ผู้ประกอบวิชาชีพด้านการประชาสัมพันธ์ |
6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency) | |
ผู้ที่ผ่านสมรรถนะนี้จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการประมวลเอกสารที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบเอกสาร การทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง วรรณคดีที่เกี่ยวข้อง ทฤษฎี เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับงานประชาสัมพันธ์เพื่อให้นักวิจัยมีความคิดใหม่ๆ และวิธีการใหม่ๆ ในการทำวิจัยและจะเป็นส่วนเสริมให้งานวิจัยสำเร็จ |
7. สำหรับระดับคุณวุฒิ |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
8. กลุ่มอาชีพ (Sector) | |
สาขาวิชาชีพธุรกิจโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สาขาประชาสัมพันธ์ (Public Relations) |
9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี) | |
N/A |
10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี) | |
N/A |
11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria) |
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) | เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) | รหัส PC (ตามเล่มมาตรฐาน) |
รหัส PC (จากระบบ) |
---|---|---|---|
04302.01 รวบรวมข้อมูลพื้นฐานทางทฤษฎีและแนวคิดต่างๆ | 1. สามารถเขียนสรุปประเด็นเรียงตามหัวข้อลำดับเวลา จากการทบทวนงานวิจัยหรือเอกสารต่างๆ ได้ | 04302.01.01 | 136364 |
04302.01 รวบรวมข้อมูลพื้นฐานทางทฤษฎีและแนวคิดต่างๆ | 2. เปรียบเทียบประเด็นที่มีข้อสรุปหรือหลักฐานได้ | 04302.01.02 | 136365 |
04302.01 รวบรวมข้อมูลพื้นฐานทางทฤษฎีและแนวคิดต่างๆ | 3. สืบค้นทฤษฎีและแนวคิดจากช่องทางที่น่าเชื่อถือ | 04302.01.03 | 136366 |
04302.02 รวบรวมข้อมูลสถานภาพทางการวิจัย | 1. อธิบายถึงการบูรณาการความคิด และหลักการได้ | 04302.02.01 | 136367 |
04302.02 รวบรวมข้อมูลสถานภาพทางการวิจัย | 2. อธิบายอย่างชัดเจนทุกด้านของความขัดแย้ง หลีกเลี่ยงอคติ | 04302.02.02 | 136368 |
04302.02 รวบรวมข้อมูลสถานภาพทางการวิจัย | 3. ระบุประเด็นที่มีความเห็นร่วมกัน และขัดแย้งกันได้ | 04302.02.03 | 136369 |
04302.02 รวบรวมข้อมูลสถานภาพทางการวิจัย | 4. ระบุองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานประชาสัมพันธ์ได้ | 04302.02.04 | 136370 |
04302.03 รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างแนวทางการวิจัยที่เหมาะสม | 1. ระบุการประเมินความพยายามของนักวิจัยโดยเปรียบเทียบกับความพยายามของผู้อื่นในเรื่องที่ใกล้เคียงกัน | 04302.03.01 | 136371 |
04302.03 รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างแนวทางการวิจัยที่เหมาะสม | 2. ระบุความคิดใหม่ๆ และวิธีการใหม่ๆ ในการทำวิจัยจากการทบทวนวรรณกรรม | 04302.03.02 | 136372 |
04302.03 รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างแนวทางการวิจัยที่เหมาะสม | 3. ระบุการวิจัยของตนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิจัยอื่นๆ อย่างไร | 04302.03.03 | 136373 |
04302.03 รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างแนวทางการวิจัยที่เหมาะสม | 4. ระบุการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่ตนอาจประสบต่อไป | 04302.03.04 | 136374 |
12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge) | |
N/A |
13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) | |
(ก) ความต้องการด้านทักษะ
(ข) ความต้องการด้านความรู้
|
14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide) | |
(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) 1. ใบรับรองการปฏิบัติงานจากสถานประกอบการ 2. แบบบันทึกรายการจากการสังเกต (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) 1. ใบรับรองการปฏิบัติงานจากสถานประกอบการ 2. แบบบันทึกรายการจากการสัมภาษณ์ (ค) คำแนะนำในการประเมิน 1. ผู้ประเมินตรวจประเมินเกี่ยวกับการกำหนดวัตถุประสงค์ทางธุรกิจโดยพิจารณาจากร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหลักฐานการปฏิบัติงาน และหลักฐานความรู้ (ง) วิธีการประเมิน 1. พิจารณาตามหลักฐานการปฏิบัติงาน 2. พิจารณาตามหลักฐานความรู้ |
15. ขอบเขต (Range Statement) | |
(ก) คำแนะนำ หน่วยสมรรถนะนี้เป็นการทดสอบ การต่อยอดความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วยเสีย โดยในการประเมินต้องคำนึงถึงข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1) ผู้เข้ารับการประเมินสามารถแสดงความรู้ ความต้องการ และความเข้าใจในการวิเคราะห์ผลประโยชน์ ผลกระทบ ที่ส่งผลในการตัดสินใจของลูกค้าหรือองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด หน่วยสมรรถนะนี้เป็นการทดสอบ ประเมินการกำหนดวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ โดยในการประเมินต้องคำนึงถึงข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1) ผู้เข้ารับการประเมินสามารถแสดงความรู้ และความสามารถในการการประมวลเอกสารที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบเอกสาร การทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง วรรณคดีที่เกี่ยวข้อง ทฤษฎี เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับงานประชาสัมพันธ์ (ข) คำอธิบายรายละเอียด ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data) คือ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลขั้นต้นที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลโดยตรง เป็นข้อมูลที่ลงมือเก็บครั้งแรกด้วยตนเอง หรือจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แล้วนำเอาข้อมูลเหล่านั้นใช้เป็นเอกสารอ้างอิง เมื่อต้องการข้อมูลเหล่านี้ก็จะไปทำการวัดหรือสังเกตเอามาโดยตรง ได้มาจากการสำรวจ การสัมภาษณ์ การทดลอง และการส่งแบบสอบถามไปให้กรอก เป็นต้น ข้อมูลที่ได้จะมีความถูกต้องและทันสมัยเป็นปัจจุบันมากกว่าข้อมูลทุติยภูมิ ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data) คือ ข้อมูลที่ได้จากแหล่งที่รวบรวมข้อมูลไว้แล้ว ที่มีผู้หนึ่งผู้ใด หรือหน่วยงานได้ทำการเก็บรวบรวมหรือเรียบเรียงไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น ข้อมูลทางสถิติต่างๆ ที่มีการบันทึกไว้แล้ว ข้อมูลจากรายงานการวิจัย บันทึกการนิเทศ เป็นต้น แล้วสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้อ้างอิงได้เลย ข้อมูลที่ได้อาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงได้ การที่จะตัดสินใจว่าข้อมูลไหนเป็นข้อมูลปฐมภูมิหรือข้อมูลทุติยภูมินั้น มีหลักสังเกตง่ายๆ คือ ถ้าเป็นข้อมูลปฐมภูมิจะต้องเป็นข้อมูลที่ผู้เขียนหรือผู้ประเมินผลได้พบเหตุการณ์ต่างๆ หรือลงมือสำรวจศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นเริ่มแรกด้วยตนเองมิได้คัดลอกมาจากผู้อื่น แต่ถ้าเป็นข้อมูลที่ได้คัดลอกมาจากบุคคลอื่นๆ แล้วนำมาเรียบเรียงใหม่ ถือว่าเป็นข้อมูลทุติยภูมิ ลักษณะข้อมูล จำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. ข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative data) เป็นข้อมูลที่บอกเป็นตัวเลขหรือปริมาณที่มีอยู่จริงของตัวแปรแต่ละตัวที่กำลังสนใจศึกษาอยู่ เช่น จำนวนเกษตรกร รายได้ของเกษตรกร พื้นที่ปลูกหม่อน เป็นต้น 2. ข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative data) เป็นข้อมูลไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขได้ แต่จะบอกในลักษณะคำพูดหรือบรรยายที่แสดงคุณลักษณะที่แตกต่างของตัวแปรต่างๆ โดยพยายามแยกเป็นกลุ่มตามคุณสมบัติ เช่น อาชีพ เพศ ศาสนา พันธุ์หม่อนที่ปลูก พันธุ์ไหมที่เลี้ยง การใช้ปุ๋ย เป็นต้น ลักษณะของข้อมูลที่ดี ต้องมีคุณลักษณะดังต่อไปนี้ 1. มีความถูกต้อง แม่นยำ สามารถให้ข้อเท็จจริงที่ปราศจากความลำเอียงหรืออคติ 2. มีความเป็นปัจจุบัน ทันสมัยอยู่เสมอ 3. มีความสมบูรณ์ครบถ้วน สามารถให้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนทุกด้านตามประเด็นที่ต้องการ 4. มีความชัดเจน กะทัดรัด ไม่เยิ่นเย่อ หรือมีรายละเอียดมากจนเกินไป 5. มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้และอยู่ในขอบเขตของความต้องการที่จะศึกษา |
16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure) | |
18.1 เครื่องมือประเมินกำหนดวัตถุประสงค์ทางธุรกิจตามข้อกำหนดมาตรฐาน 1. แบบฟอร์มประเมินผลการสัมภาษณ์แบบฟอร์มประเมินผลการสังเกตการณ์ 2. ผลข้อสอบข้อเขียน ดูรายละเอียดจากคู่มือประเมิน 18.2 เครื่องมือประเมินการกำหนดโจทย์หรือปัญหาในธุรกิจตามข้อกำหนดมาตรฐาน 1. แบบฟอร์มประเมินผลการสัมภาษณ์แบบฟอร์มประเมินผลการสังเกตการณ์ 2. ผลข้อสอบข้อเขียน ดูรายละเอียดจากคู่มือประเมิน 18.3 เครื่องมือประเมินการกำหนดเกณฑ์ความสำเร็จของธุรกิจตามข้อกำหนดมาตรฐาน 1. แบบฟอร์มประเมินผลการสัมภาษณ์แบบฟอร์มประเมินผลการสังเกตการณ์ 2. ผลข้อสอบข้อเขียน ดูรายละเอียดจากคู่มือประเมิน |