อาชีพแม่บ้าน

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1.  ทักษะด้านการจัดอาหารสำหรับเด็ก

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1.  ความรู้เกี่ยวกับงานผ้าเบื้องต้น

2.  ความรู้เรื่องการใช้ยาสามัญประจำบ้าน

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมินและควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก)    หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

1. แบบทดสอบการปฏิบัติงาน (จัดเตรียมเสื้อผ้าเครื่องใช้เหมาะสมกับวัยเด็กและฤดูกาล)

3.  แบบทดสอบการปฏิบัติงาน (ดูแลรักษาความสะอาดของที่นอน)

(ข)  หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)

1. แบบสัมภาษณ์ความรู้ (จัดอาหารแต่ละมื้อมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน)

2. แบบสัมภาษณ์ความรู้ (ลักษณะอาหารน่ารับประทานเหมาะสมกับวัย)

4. แบบสัมภาษณ์ความรู้ (ดูแลเครื่องใช้ส่วนตัวเหมาะสมกับวัยเด็ก)

4. แบบสัมภาษณ์ความรู้ (ดูแลเรื่องความสะอาดเครื่องแต่งกาย ของใช้)

5. แบบสัมภาษณ์ความรู้ (ดูแลเรื่องการเล่นของเล่น)

(ค)  คำแนะนำในการประเมิน

N/A

(ง)  วิธีการประเมิน

1.  การทดสอบการปฏิบัติงาน

2.  การสัมภาษณ์

ขอบเขตอธิบายถึงขอบเขตของการปฏิบัติงาน และสภาพแวดล้อมอื่นๆ หรือสถานการณ์อื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อการทำงาน รวมถึงเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ทรัพยากรที่ใช้ หรือข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

(ก)    คำแนะนำ

N/A

(ข)    คำอธิบายรายละเอียด

1.  เด็กเล็ก  หมายถึง  สมาชิกในครอบครัวที่มีอายุระหว่าง  2 – 5  ขวบ  เพราะเป็นสมาชิกที่ยังเล็กมาก  ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด

2.  อาหารสำหรับเด็กมีความจำเป็นอย่างยิ่ง  ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตมีการปรุงที่น่ารับประทาน  รสชาติไม่จัดเกินไป

2.1  คุณค่าทางโภชนาการสำหรับเด็กควรได้อาหารครบทุกหมู่คือ ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และนม

2.2  ลักษณะอาหารสำหรับเด็ก

2.2.1  คำนึงถึงความสะอาด และเป็นอาหารที่ย่อยง่าย

2.2.2  ควรหัดให้เด็กทานเนื้อสัตว์แบบไม่เหนียว เช่น เนื้อปลา ตับบด ก่อนที่จะทาน เนื้อหมู ไก่

2.2.3  ปรับเปลี่ยนอาหารให้หลากหลาย เช่น ผัก แทนที่จะเป็นผักล้วนๆควรปรุงไปกินอาหารอื่น เช่น ไข่เจียว ไข่ตุ๋น หรือชุบแป้งทอด

2.2.4  หลีกเลี้ยงอาหารขบเคี้ยว  ขนมหวานจัด ลูกอม น้ำอัดลม

2.2.5  เพิ่มอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเหลือง เพราะช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

3.  เสื้อผ้าเด็ก  หมายถึง  คุณลักษณะของเสื้อผ้า  แบบ  ลักษณะการตัดเย็บ  และวัสดุที่ใช้ประกอบการตกแต่ง

3.1  เลือกเสื้อผ้าเนื้อนิ่ม ดูแลรักษาง่าย

3.2  มีตะเข็บหรือรอยต่อน้อย

3.3  เป็นแบบที่ใส่ง่ายถอดง่าย ตัวหลวม ไม่เข้ารูป

3.4  ลวดลายผ้าเป็นดอกไม้เล็กๆ ลายตุ๊กตา หรือผ้าพื้นสีอ่อนหรือสีสดใสก็ได้

3.5  มีการตกแต่งด้วยลูกไม้ขนาดเล็ก วัสดุตกแต่งไม่ควรเป็นโลหะ

3.6  ถ้าอากาศร้อนควรเลือกใช้เนื้อผ้าบางเบา  ถ้าอากาศเย็นควรใช้ผ้าเนื้อหนานุ่ม

4.  เครื่องใช้  หมายถึง  ของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็ก  ประกอบด้วย  ผ้าขนหนู  แปรงสีฟัน  ยาสีฟัน  สบู่ ฯลฯ

4.1  ผ้าขนหนู เลือกชนิดผ้านุ่มๆ ไม่แข็งกระด้าง  ซับน้ำได้ดี  สีสดใส มีลวดลายการ์ตูน หรือลายดอกไม้ ขนาด พอเหมาะสำหรับเด็ก ซักทำความสะอาดเป็นประจำ

4.2  ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพูสระผม ควรใช้ที่ผลิตสำหรับเด็กเท่านั้น  โดยอ่านจากฉลากกำกับ  และใช้ตามคำแนะนำ  ห้ามใช้ของผู้ใหญ่เด็ดขาดเพราะอาจเป็นอันตรายต่อเด็ก

5.  ที่นอนของเด็กควรมีความเป็นสัดส่วน สะดวก ปลอดภัย เหมาะสมกับวัยเด็ก

5.1  จัดเก็บทำความสะอาดทุกวัน เพื่อป้องกัน  ฝุ่น  ไรฝุ่น

5.2  ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

5.3  ห้องนอน ควรเปิดหน้าต่าง ให้แสงแดดส่องช่วยให้ห้องสะอาด ไม่อับชื้น

6.   ดูแลเรื่องความสะอาดเครื่องแต่งกายและของใช้

6.1  จัดเสื้อผ้า  ไม่ปะปบกัน เพื่อหยิบใช้ได้สะดวก

6.2  ทำความสะอาด ซัก รีด ซ่อมแซมด้วยวิธีง่ายๆ เช่น ตัดกระดุม ติดตะขอ

6.3  เปลี่ยนของใช้ส่วนตัว เมื่อถึงเวลาอันควร เช่น เปลี่ยนแปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว   

7.  ดูแลเรื่องการเล่น

7.1  การเล่นจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว และความคิด สิ่งที่อยู่รอบตัว ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้     ควรจัดหาของเล่นที่เหมาะสมและมีความปลอดภัยไว้ให้เด็ก เช่น ตุ๊กตา ดินน้ำมัน โดยมีผู้ใหญ่คอยดูแลในขณะที่เล่นไม่ควรปล่อยให้เด็กนั่งเล่นเพียงอย่างเดียวเป็นเวลานานเช่น เกมกด

7.2  ของเล่นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ต้องไม่มีส่วนประกอบของวัสดุมีคมหรือมีส่วนผสมของสารพิษเช่น สีที่มีสารตะกั่ว

1.  การทดสอบการปฏิบัติงาน

2.  การสัมภาษณ์