หน่วยสมรรถนะ

หน่วยสมรรถนะ

ซักผ้าด้วยมือ

สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ


รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ


1. รหัสหน่วยสมรรถนะ --ZZZ-2-003ZB

2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ ซักผ้าด้วยมือ

3. ทบทวนครั้งที่ 1 / 2562

4. สร้างใหม่ ปรับปรุง

5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification)

อาชีพแม่บ้าน



6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency)
หน่วยสมรรถนะนี้ใช้ทักษะและความรู้ในการซักผ้าด้วยมือ  ต้องการความสามารถในการจำแนกเสื้อผ้าแต่ละชนิด  การขจัดรอยเปื้อนบนผ้า  การเลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ซักเสื้อผ้าได้อย่างสะอาดและถูกวิธี

7. สำหรับระดับคุณวุฒิ
1 2 3 4 5 6 7 8

8. กลุ่มอาชีพ (Sector)
อาชีพแม่บ้าน

9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี)
Unit Group 5152 Domestic Housekeepers (ISCO – 08)

10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี)
N/A

11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria)
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) รหัส PC
(ตามเล่มมาตรฐาน)
รหัส PC
(จากระบบ)
20111 จำแนกผ้าสำหรับซักด้วยมือ 1. แยกเสื้อผ้าสำหรับซักด้วยมือ 20111.01 135187
20111 จำแนกผ้าสำหรับซักด้วยมือ 2. ระบุคุณสมบัติของผ้าแต่ละชนิด 20111.02 135188
20111 จำแนกผ้าสำหรับซักด้วยมือ 3. อธิบายความหมายของสัญลักษณ์การดูแลรักษาเสื้อผ้าที่จะนำไปปฏิบัติ 20111.03 135189
20112 ขจัดรอยเปื้อนบนผ้า 1. ระบุชนิดของรอยเปื้อนบนเสื้อผ้า 20112.01 135190
20112 ขจัดรอยเปื้อนบนผ้า 2. เลือกใช้สารทำความสะอาดรอยเปื้อนที่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อร่างกาย 20112.02 135191
20112 ขจัดรอยเปื้อนบนผ้า 3. ปฏิบัติการขจัดรอยเปื้อนบนผ้าได้ โดยไม่เหลือคราบสกปรก 20112.03 135192
20113 เลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์สำหรับซักผ้าด้วยมือ 1. เลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและรักษาเสื้อผ้าได้เหมาะสม 20113.01 135193
20113 เลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์สำหรับซักผ้าด้วยมือ 2. ศึกษาฉลากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและรักษาเสื้อผ้า 20113.02 135194
20114 ปฏิบัติการซักด้วยมือ 1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและรักษาเสื้อผ้าได้เหมาะสมกับการซักผ้าด้วยมือ 20114.01 135195
20114 ปฏิบัติการซักด้วยมือ 2. ซักผ้าด้วยมือได้สะอาดและถูกวิธี 20114.02 135196
20114 ปฏิบัติการซักด้วยมือ 3. ตากผ้าได้เหมาะสมกับประเภทของเสื้อผ้า 20114.03 135197

12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge)
N/A

13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

1.  ทักษะการแยกผ้าได้เหมาะสมกับวิธีการซัก

2.  ทักษะการเลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้า

3.  ทักษะการซักผ้าด้วยมือ

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1.  ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของผ้า

2.  ความรู้เกี่ยวกับความหมายของสัญลักษณ์การดูแลรักษาเสื้อผ้า


14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide)

หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge)

(ก)  หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence)

1. แบบทดสอบการปฏิบัติงาน (แยกเสื้อผ้าได้เหมาะสมกับวิธีการซัก)

2. แบบทดสอบการปฏิบัติงาน (ปฏิบัติการขจัดรอยเปื้อนบนผ้าได้โดยไม่เหลือคราบสกปก)

3. แบบทดสอบการปฏิบัติงาน (เลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและรักษาเสื้อผ้าได้เหมาะสม)

4. แบบทดสอบการปฏิบัติงาน (เลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและรักษาเสื้อผ้าได้เหมาะสมกับการซักผ้าด้วยมือ)

5. แบบทดสอบการปฏิบัติงาน (ซักผ้าด้วยมือได้สะอาดและถูกวิธี)

6. แบบทดสอบการปฏิบัติงาน (ตากผ้าได้เหมาะสมกับประเภทของเสื้อผ้า)    

(ข)  หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence)

1. แบบสัมภาษณ์ (ระบุคุณสมบัติของผ้าแต่ละชนิด)

2. แบบสัมภาษณ์ (อธิบายความหมายของสัญลักษณ์การดูแลรักษาเสื้อผ้าที่จะนำไปปฏิบัติ)

3. แบบสัมภาษณ์ (ระบุชนิดของรอยเปื้อนบนเสื้อผ้า)

4. แบบสัมภาษณ์ (เลือกใช้สารทำความสะอาดรอยเปื้อนที่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อร่างกาย)

5. แบบสัมภาษณ์ (ศึกษาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและรักษาเสื้อผ้า)

(ค) คำแนะนำในการประเมิน

N/A

(ง) วิธีการประเมิน

1.  การทดสอบการปฏิบัติ        

2.  การสัมภาษณ์


15. ขอบเขต (Range Statement)

ขอบเขตอธิบายถึงขอบเขตของการปฏิบัติงาน และสภาพแวดล้อมอื่นๆ หรือสถานการณ์อื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อการทำงาน รวมถึงเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ทรัพยากรที่ใช้ หรือข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

(ก)     คำแนะนำ

N/A

(ข)  คำอธิบายรายละเอียด

1.  แยกเสื้อผ้า คือ การแยกผ้าขาวและผ้าสีออกจากกัน การแยกเสื้อผ้า กระโปรงหรือกางเกงออกจากกัน เพราะชนิดมีความสกปรกแตกต่างกัน

ผ้าขาว  คือ  เสื้อผ้าที่มีสีขาว  ควรแยกซักจากผ้าสี  ไม่ควรซักรวมกันผ้าสีจะทำให้สีขางหมอง

ผ้าสี  คือ  เสื้อผ้าที่มีสีต่างๆทุกสีจะต้องซักรวมกันได้  แต่ควรระวังสีเสื้อตกใส่กัน

2. คุณสมบัติของผ้าที่ทำจากเส้นใยดังนี้

2.1  ผ้าใยธรรมชาติ ได้จากพืช เช่น ฝ้าย  ลินิน  ป่าน  ไหม  ขนสัตว์  คุณสมบัติดูดซับความชื้น  ยับง่าย  และทนความร้อน

2.2  ผ้าจากใยสังเคราะห์  ได้จากการสังเคราะห์จากสารเคมี  เพื่อทดแทนเส้นใยจากธรรมชาติ เช่น ไนลอน โพลีเอสเตอร์  มีคุณสมบัติไม่ดูดซับความชื้น  ไม่ยับ  แต่ไม่ทนต่อความร้อน

3. ป้ายสัญลักษณ์การดูแลรักษาเสื้อผ้า  คือ  แถบผ้าที่ติดไว้บริเวณตะเข็บข้างลำตัวอาจเป็นรูปภาพ  หรือคำบรรยาย     เป็นภาษาอังกฤษ  เพื่อจะได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง

4.  รอยเปื้อน คือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า รอยเปื้อนที่พบในชีวิตประจำวัน มี 6 ประเภท คือ

4.1 เสื้อผ้าที่เปื้อนครีม เนย น้ำมัน

4.2 เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือด

4.3 เสื้อผ้าที่เปื้อนยางผลไม้ ยางดอกไม้ ยางหญ้า

4.4 เสื้อผ้าที่เปื้อนชา กาแฟ ช็อกโกแลต

4.5 เสื้อผ้าที่เปื้อนน้ำมันเครื่อง สนิมของโลหะ

4.6 เสื้อผ้าที่เปื้อนสีน้ำมัน

5.  สารขจัดรอยเปื้อน  คือสารที่ใช้ทำความสะอาดรอยเปื้อน ได้แก่

5.1 สบู่  ใช้ทำความสะอาดคราบเลือด

5.2 น้ำส้มสายชู  ใช้ทำความสะอาดคราบหมึก กาว

5.3 แป้งข้าวจ้าวใช้ทำความสะอาดคราบครีม เนย น้ำมัน

5.4 น้ำมะนาว  ใช้ทำความสะอาดสนิมเหล็ก น้ำมันเครื่อง ยางกล้วย

5.5 ทินเนอร์  ใช้ทำความสะอาดสีน้ำมัน

5.6 แอลกอฮอล์  ใช้ทำความสะอาดปากกาลูกลื่น ครีมขัดรองเท้า

5.7 น้ำมันสน  ใช้ทำความสะอาดสีเคลือบเงา ปากกาเมจิก

6. อุปกรณ์ซักผ้า ประกอบด้วย

6.1 ถังหรืออ่าง  ใช้สำหรับแช่และซักผ้า

6.2 แปรงซักผ้า  ใช้แปรงผ้าในส่วนที่สกปรกมาก เช่น ปก ขอบแขน อาจใช้กระดานแปรงผ้ารองผ้าขณะแปรง

6.3 ไม้แขวนเสื้อ  ใช้แขวนเสื้อ กางเกง เพื่อแขวนเสื้อผ้าให้อยู่ทรงในขณะตากผ้า

6.4 ไม้หนีบผ้า  ใช้สำหรับหนีบผ้าบนราวตากผ้า เพื่อกันผ้าตกลงสู่พื้น

6.5 ราวตากผ้า  ใช้สำหรับตากผ้า ทำจากเชือกเหมาะสำหรับตากผ้าที่มีน้ำหนักเบา

7. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้า ประกอบด้วย

7.1  ผงซักฟอก  มี  4  ประเภท

-  ผงซักฟอกชนิดผง  สำหรับซักผ้าสกปรกทั่วไป มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดคราบดิน โคลน ที่ฝังแน่นในเสื้อผ้า จึงเหมาะสมสำหรับซักชุดนักเรียน เสื้อผ้าเด็กที่สกปรกมาก

-  ผงซักฟอกชนิดน้ำ  ใช่ในการกำจัดคราบอาหาร ไขมัน คราบสกปรกบนเนื้อผ้าพิเศษ

-  ผงซักฟอกสูตรพิเศษ เป็นผงซักฟอกชนิดเข้มข้นมีทั้งชนิดผงและน้ำ ใช้เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผงซักฟอกแบบธรรมดา

-  ผงซักฟอกแบบอ่อน  สำหรับซักผ้าด้วยมือและเครื่องซักผ้า เหมาะสำหรับเสื้อผ้าเนื้อละเอียด เสื้อผ้าเด็ก บอบบาง

7.2 สบู่ซักผ้า  สำหรับซักรอยเปื้อนปกเสื้อ ถุงเท้า รองเท้าผ้าใบ ทาทิ้งไว้ก่อนซัก

7.3  สารฟอกขาว สำหรับขจัดรอยเปื้อน มีส่วนผสมคลอรีน จะใช้ในการซักผ้าขาวหรือผ้าสกปรกที่ต้องการฟอกเฉพาะส่วน

7.4  น้ำยาปรับผ้านุ่ม  ช่วยลดความกระด้าวของผ้า ทำให้ผ้ามีกลิ่นหอม ใส่ผสมกับน้ำสุดท้ายของการซัก

8.  ซักผ้าด้วยมือคือ  การทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ต้องใช้มือขยี้หรือแปรงผ้าที่ซัก

ขั้นตอนการซักผ้าด้วยมือ

8.1  แยกเสื้อผ้า  โดยแยกผ้าสีขาว  ผ้าสี ผ้าสีไม่ตก ผ้าสีตก เสื้อ กางเกง กระโปรง และผ้าที่สกปรกมากและซักจะต้องแยกไม่ปะปนกัน

8.2  สำรวจรอยเปื้อน  ถ้ามีรอยเปื้อนมากให้แยกไปขจัดรอยเปื้อนก่อนนำไปซัก

8.3  ตรวจรอยชำรุดของเสื้อผ้า เช่น ชายกางเกง ชายกระโปรง เสื้อขาด ตะเข็บปริ กระดุมหลุด

8.4  นำผ้าแช่ในน้ำที่ผสมผงซักฟอกแช่ทิ้งไว้สักครู่ ขยี้ตรงรอนเปื้อน คอ แขน ด้านหน้า ด้านหลัง แล้วขยี้ทั้งตัว

8.5  ซักล้างในน้ำสะอาด  2-3 ครั้ง เพื่อล้างผงซักฟอกให้หมด

9. การตากผ้าคือ  การทำให้ผ้าแห้งด้วยการแขวน  การวางพาดบนราวตากผ้า

ขั้นตอนการตากผ้า

9.1  กลับเสื้อผ้าเอาด้านในออกมาด้านนอกทุกชิ้น สลัดผ้าเพื่อไม่ให้เกิดรอยยับ

9.2  ใช้ไม้แขวนสำหรับตากเสื้อ ใช้มือจัดรูปทรงดึงผ้าเบาๆ และกางเกง กระโปรง จะใช้ไม้หนีบ หนีบที่บริเวณขอบเอวกางเกง ซึ่งเป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุด

9.3  ควรตากผ้าในที่โปร่งมีแสงแดดรำไร เพื่อไม่ให้สีผ้าหมอง  แต่ถ้าผ้าเนื้อหนาควรตากในที่ที่มีแดดจัดเพื่อจะได้แห้งเร็วและไม่มีกลิ่นอับ


16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี)
N/A

17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี)
N/A

18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure)

1.  ทดสอบการปฏิบัติงาน

2.  การสัมภาษณ์



ยินดีต้อนรับ