อาชีพผู้ปฏิบัติงานเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ระดับ 4

ISCO-08         3131 เจ้าหน้าที่/ช่างเทคนิคควบคุมเครื่องจักรผลิตไฟฟ้า (Board Operator)

3131 เจ้าหน้าที่/ช่างเทคนิคคุมเครื่องกังหันผลิตไฟฟ้า (Board Operator)

                      3131 เจ้าหน้าที่/ช่างเทคนิคคุมเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้า (Board Operator)

1. ความรู้พื้นฐานโรงต้นกำลังไฟฟ้า โดยเนื้อหาประกอบด้วย โรงต้นกำลังต่าง ๆ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ โรงไฟฟ้าพลังความร้อน โรงไฟฟ้าพลังกังหันก๊าซ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม


2. ความรู้พื้นฐานด้านงานช่าง/วิศวกรรม

(ก) ความต้องการด้านทักษะ

ทักษะในการทำงานด้านเทคนิค (Technical Skills)     

1. 
   

   ทักษะการปฏิบัติงานเดินระบบในสภาวะปกติ (Normal Operation) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

   
   


2. 
   

   ทักษะการสังเกตเพื่อรวบรวมปัญหาและหาสาเหตุ ด้วยวิธีสังเกต ได้ยิน ได้กลิ่น และประสาทสัมผัส เช่น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ 

   
   


3. 
   

   ทักษะการอ่านและการใช้คู่มือปฏิบัติงานทั้งด้านเทคนิคและความปลอดภัยของกังหันก๊าซและอุปกรณ์ประกอบของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า เช่น Single Line Diagram, Process Flow Diagram, Work Instruction

   
   


4. 
   

   ทักษะการใช้เครื่องมือวัด เครื่องมือช่าง หรืออุปกรณ์อ่านค่าแสดงผลแบบต่าง ๆ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดหรือปืนวัดอุณหภูมิ (Infrared Thermometer) มัลติมิเตอร์ (Multimeter) ประแจ

   
   


5. 
   

   ทักษะในการปฏิบัติงานเดินเครื่องระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

   
   


6. 
   

   ทักษะการสลับลำดับการทำงานของอุปกรณ์

   
   


7. 
   

   ทักษะในการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protection Equipment :PPE) ประกอบด้วย อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ (Head Protection) อุปกรณ์ป้องกันดวงตา (Safety Glasses) อุปกรณ์ป้องกันหู (Ear Protection) อุปกรณ์ป้องกันมือ (Hand Protection) และอุปกรณ์ป้องกันเท้า (Safety Footwear)

   
   


8. 
   

   ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติงาน

   
   

ทักษะในการทำงาน (Soft Skills)

9. 
   

   ทักษะการติดต่อประสานงาน

   
   


10. 
    

    ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการปฏิบัติงาน

    
    


11. 
    

    ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Team Working)

    
    

(ข) ความต้องการด้านความรู้

1. ระบบไฟฟ้าเบื้องต้น เช่น ระบบไฟฟ้า 1 เฟส ระบบไฟฟ้า 3 เฟส  ระบบการส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า เป็นต้น


2. เทอร์โมไดนามิกส์เบื้องต้น เช่น การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ การเปลี่ยนแปลงความดัน การเปลี่ยนสถานะของสสาร เป็นต้น


3. หลักการอ่านรหัส Kraftwerk Kennzeichen System (KKS CODE) ของอุปกรณ์ในโรงไฟฟ้า


4. หลักการทำงานและขั้นตอนของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า


5. หลักการขั้นตอนการสลับลำดับการทำงานของอุปกรณ์


6. ความรู้การปฏิบัติงานเดินเครื่องระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า


7. หลักการและขั้นตอน Startup ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าในสภาวะต่าง ๆ ได้แก่ Hot Mode Warm Mode และ Cold Mode


8. หลักการและขั้นตอน Shutdown ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ได้แก่ Reserve Shutdown, Emergency Shutdown เป็นต้น


9. ความรู้ด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยในโรงไฟฟ้าเบื้องต้น


10. ความรู้ความสามารถด้านการใช้โปรแกรมเอกสารบนคอมพิวเตอร์


11. ความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้งานระบบการจัดการงานบำรุงรักษาด้วยคอมพิวเตอร์ (CMMS)


12. คำศัทพ์ภาษาอังกฤษทางเทคนิคในการปฏิบัติงาน

(ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) หรือ

1. ใบรับรองการปฏิบัติงานจากสถานประกอบการ (ถ้ามี)


2. แบบบันทึกผลการสังเกตการปฏิบัติงาน (ถ้ามี)


3. แบบรวบรวม/แฟ้มสะสมผลงานการปฏิบัติงาน (ถ้ามี)


4. หลักฐานการอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (ถ้ามี) โดยไม่ต้องประเมินในหน่วยสมรรถนะ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม


5. หลักฐานการอบรมหลักสูตรความรู้พื้นฐานโรงไฟฟ้า (ถ้ามี) โดยไม่ต้องประเมินในหน่วยสมรรถนะความรู้พื้นฐานโรงไฟฟ้า

        (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) หรือ

1. หลักฐานการศึกษา


2. ใบรับรองการปฏิบัติงานจากสถานประกอบการ (ถ้ามี)


3. แบบบันทึกผลการสัมภาษณ์ (ถ้ามี)


4. แบบบันทึกผลการสอบข้อเขียน (ถ้ามี) 


5. แบบรวบรวม/แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) การปฏิบัติงาน (ถ้ามี)

          (ค) คำแนะนำในการประเมิน

                    ประเมินเข้ารับการประเมินสามารถนำหลักฐานการปฏิบัติงานและหลักฐานความรู้มาประกอบในการประเมิน โดยรวบรวมข้อมูลตามรายละเอียดที่แสดงในรายการตรวจสอบ (Check list) รายการ

          (ง) วิธีการประเมิน

1. พิจารณาหลักฐานความรู้ที่ผู้เข้ารับการประเมินนำมาแสดง เช่น ใบรับรองฯ

2. พิจารณาหลักฐานการปฏิบัติงาน แสดงหลักฐานการผ่านการอบรม/ใบรับรองจากสถานประกอบการ (ถ้ามี)

           ขอบเขตของการประเมินสมรรถนะในหน่วยสมรรถนะนี้ ผู้เข้ารับการประเมินจะถูกประเมินทักษะการเดินระบบในสภาวะปกติ เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ในการ Startup และ Shutdown แก้ไขปัญหาระบบในสภาวะฉุกเฉิน เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ก่อนและระหว่างงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ ทดสอบความพร้อมอุปกรณ์หลังจากงานบำรุงรักษาเชิงแก้ไข รวมถึงทดสอบความพร้อมระบบหลังงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ (Planned Outage) (Function Test) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

(ก) คำแนะนำ

       ผู้เข้ารับการประเมินจะต้องปฏิบัติการเดินเครื่องระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า โดยต้องทราบถึงหลักการเดินเครื่องดังกล่าว

(ข) คำอธิบายรายละเอียด

1. ระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า ประกอบด้วย

• Compressed Air System


• Cooling Water System


• Closed Cooling Water System


• Fire Water System


• Chilled Water System


• Sampling System


• Conitnuous Emission Monitoring System : CEMS


• Oil Seperater System

2. เดินระบบในสภาวะปกติ (Normal Operation) หมายถึง ระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าสามารถใช้งานปกติและพารามิเตอร์ต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติตามที่ระบุไว้ในคู่มือ


3. การสลับลำดับการทำงานของอุปกรณ์ หมายถึง การเดินเครื่องอุปกรณ์สำรอง (Standby) สลับกับอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ตามแผนการสลับอุปกรณ์


4. ตรวจอุปกรณ์ตามรายการตรวจสอบ (Check list/Log Sheet) และสิ่งผิดปกติของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า โดยจะดำเนินการตรวจระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าตามรายการตรวจสอบ (Check list/Log Sheet) ที่กำหนด พร้อมทั้งจะระบุสิ่งผิดปกติของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า แล้วจึงดำเนินการแขวนล็อกเอาท์และแท็กเอาท์ (Lock out - Tag out: LOTO) และระบุสถานที่ที่พบสิ่งผิดปกติ


5. สิ่งผิดปกติของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า หมายถึง สิ่งผิดปกติที่เกิขึ้นกับระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า เช่น การสั่นสะเทือนของมอเตอร์ ท่อน้ำรั่ว ท่อลมรั่ว เป็นต้น


6. รายการตรวจสอบ (Check list/Log Sheet) หมายถึง แบบฟอร์มบันทึกข้อมูลการทำงานของอุปกรณ์รายวัน เช่น Main Condenser Pressure เป็นต้น


7. รายงานผล คือ การรายงานผลการตรวจสอบสถานะของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าให้กับหัวหน้างาน และรวมถึงการรายงานสถานะของระบบที่รับผิดชอบเพื่อส่งมอบ-กะ


8. ตรวจสอบสถานะระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า สำหรับการ Startup และ Shutdown โดยจะดำเนินการตรวจสอบสถานะระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า พร้อมทั้งแจ้งสิ่งผิดปกติของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าที่เกิดขึ้นก่อนและระหว่างการ Startup และ Shutdown


9. ระบุและแก้ไขปัญหาในการเกิดเหตุฉุกเฉินได้เบื้องต้น โดยจะดำเนินการตรวจสอบสาเหตุและแก้ไขปัญหาหน้างานที่ไม่ซับซ้อน เช่น ในกรณีที่วาล์วเปิดไม่สุดผู้ปฏิบัติงานเดินเครื่องโรงไฟฟ้าระดับ 4 สามารถปรับวาล์วเองได้ที่ตัวอุปกรณ์ เป็นต้น


10. ตรวจสอบสถานะระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าทั้งก่อนและระหว่างงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ โดยจะดำเนินการตรวจสอบสถานะและสิ่งผิดปกติของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า ก่อนและระหว่างงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ เมื่อพบสิ่งผิดปกติจึงดำเนินการแขวนล็อกเอาท์และแท็กเอาท์ (Lock out - Tag out: LOTO) ระบุสถานที่ที่พบสิ่งผิดปกติและแจ้งปัญหา รวมถึงประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเก็บข้อมูลของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า ก่อนและระหว่างงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ


11. แขวนล็อกเอาท์และแท็กเอาท์ (Lock out - Tag out: LOTO) พร้อมทั้งระบุสถานที่ตามแผนงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า โดยจะมีการประสานงานระหว่างหน่วยงานบำรุงรักษา


12. รายงานผลการทดสอบเพื่อตรวจรับระบบ โดยจะดำเนินการรายงานผลการทดสอบให้กับหัวหน้างานเพื่อตรวจรับระบบของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า และปลดล็อกเอาท์และแท็กเอาท์ (Lock out - Tag out: LOTO) ออก


13. สนับสนุนการทดสอบฟังก์ชัน (Function Test) โดยจะมีการดำเนินสังเกตและทดสอบฟังก์ชัน (Function Test) ตามแผนงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ และรวมถึงประสานงานกับผู้รับผิดชอบงานบำรุงรักษาเพื่อตรวจรับระบบ


14. รายงานผลการทดสอบฟังก์ชันระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า โดยจะดำเนินการรายงานผลการทดสอบฟังก์ชันระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าให้กับหัวหน้างานเพื่อตรวจรับระบบ พร้อมทั้งปลดล็อกเอาท์และแท็กเอาท์ (Lock out - Tag out: LOTO) ออก


15. ล็อกเอาท์และแท็กเอาท์ (Lock out - Tag out: LOTO) คือ ระบบที่นำมาใช้ในการควบคุมอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการซ่อมบำรุงเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีแหล่งจ่ายพลังงาน เช่น พลังงานกล พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น มีการปฏิบัติดังนี้

15.1 เตรียมการปิดระบบ (Preparation for Shutdown) ก่อนที่จะทำการปิดการทำงานของเครื่องจักร จะต้องมีความรู้และตัดสินใจได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นเป็นแหล่งพลังงานชนิดใด

15.2 ปิดเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ (Machine or Equipment Shutdown) 

15.3 ตัดแยกเครื่องจักร (Machine Isolation) โดยอุปกรณ์การตัดแยกแหล่งพลังงาน เช่น อุปกรณ์เบรคเกอร์ (Breakers) สวิตช์ วาล์ว เป็นต้น

15.4 ใช้อุปกรณ์ระบบล็อกเอ้าท์/ป้ายแท็กเอ้าท์ (Log out/Tag out Device Application) อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดแยกพลังงานจะประกอบไปด้วยตัวล็อกและป้ายแท็กเอ้าท์ ซึ่งใช้โดยผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายหน้าที่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ทั้งตัวล็อกและป้ายแท็กเอ้าท์จะต้องติดกับตัวอุปกรณ์ที่ทำการตัดแยก

15.5 ปลดปล่อย/ควบคุมพลังงานสะสม (Stored Energy Release/Restraint) หลังจากตัดแยกแหล่งพลังงานแล้ว เพื่อใหเครื่องจักรปลอดภัยจากพลังงานที่เปนอันตรายซึ่งยังตกคางหรือเก็บสํารองไว้

15.6 ตรวจสอบ (Verification) เมื่อเริ่มทำงานกับเครื่องจักรที่มีการควบคุมพลังงานด้วยระบบล็อกเอ้าท์และป้ายแท็กเอ้าท์ ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติงานจะต้องตรวจสอบและยืนยันสถานะ “ปลอดพลังงาน” ของเครื่องจักรตลอดเวลาระหวางการบริการหรือซอมบํารุง

15.7 ปลดอุปกรณ์ระบบล็อกเอ้าท์/ป้ายแท็กเอ้าท์ โดยผูติดตั้งอุปกรณ์ระบบ ล็อกเอ้าท์/ป้ายแท็กเอ้าท์เทานั้นจะเปนผูปลด ก่อนปลดจะต้องตรวจสอบความพร้อมการทำงานของเครื่องจักรและสวนประกอบตาง ๆ และตําแหนงผู้ปฏิบัติงานทุกคนอยู่ในที่ปลอดภัย

16. สภาวะฉุกเฉิน (Emergency Response) หมายถึง เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต ทรัพย์สิน บุคคล ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม


17. การบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ (Planned Outage) หมายถึง การทำงานบำรุงรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์ระหว่างหยุดเดินเครื่องตามแผน


18. การบำรุงรักษาเชิงแก้ไข (Corrective Maintenance) หมายถึง การทำงานบำรุงรักษาภายหลังที่เครื่องจักร อุปกรณ์เริ่มมีอาการผิดปกติ เกิดขัดข้องชำรุดเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพที่สามารถใช้งานต่อไปได้ตามปกติ


19. การทดสอบฟังก์ชัน (Function Test) หมายถึง การทดสอบอุปกรณ์และระบบ Protection System/Logic Control ก่อนเดินเครื่องจริง โดยวิธีการจำลองสัญญาณ (Simulation) เช่น Fire pump Test, Air Compressor Test เป็นต้น

18.1 เครื่องมือประเมิน เดินระบบในสภาวะปกติ (Normal Operation) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

        1. ข้อเขียนแบบปรนัย เช่น การเดินระบบในสภาวะปกติ (Normal Operation) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

        2. การสัมภาษณ์ เช่น การสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของการเดินระบบในสภาวะปกติ (Normal Operation) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

18.2 เครื่องมือประเมิน เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ในการ Startup และ Shutdown ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

1. ข้อเขียนแบบปรนัย เช่น การเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ในการ Startup และ Shutdown ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า


2. การสัมภาษณ์ เช่น การสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของการเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ในการ Start-up และ Shut down ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

18.3 เครื่องมือประเมิน แก้ไขปัญหาระบบในสภาวะฉุกเฉิน (Emergency Response) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

1. ข้อเขียนแบบปรนัย เช่น การแก้ไขปัญหาระบบในสภาวะฉุกเฉิน (Emergency Response) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า


2. การสัมภาษณ์ เช่น การสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของการแก้ไขปัญหาระบบในสภาวะฉุกเฉิน (Emergency Response) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

18.4 เครื่องมือประเมิน เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ก่อนและระหว่างงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ (Planned Outage) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

1. ข้อเขียนแบบปรนัย เช่น การเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ก่อนและระหว่างงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ (Planned Outage) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า


2. การสัมภาษณ์ เช่น การสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของการเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ก่อนและระหว่างงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ (Planned Outage) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

18.5 เครื่องมือประเมิน ทดสอบความพร้อมอุปกรณ์หลังจากงานบำรุงรักษาเชิงแก้ไข (Corrective Maintenance) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

1. ข้อเขียนแบบปรนัย เช่น การทดสอบความพร้อมอุปกรณ์หลังจากงานบำรุงรักษาเชิงแก้ไข (Corrective Maintenance) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า


2. การสัมภาษณ์ เช่น การสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของการทดสอบความพร้อมอุปกรณ์หลังจากงานบำรุงรักษาเชิงแก้ไข (Corrective Maintenance) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

18.6 เครื่องมือประเมิน ทดสอบความพร้อมระบบหลังงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ (Planned Outage) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า

1. ข้อเขียนแบบปรนัย เช่น การทดสอบความพร้อมระบบหลังงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ (Planned Outage) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า


2. การสัมภาษณ์ เช่น การสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับการทดสอบความพร้อมระบบหลังงานบำรุงรักษาแบบหยุดตามวาระ (Planned Outage) ของระบบสนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้า