หน่วยสมรรถนะ
ปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ
สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมดิจิทัล
รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ
1. รหัสหน่วยสมรรถนะ | ICT-LWAP-192B |
2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ | ปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ |
3. ทบทวนครั้งที่ | 1 / - |
4. สร้างใหม่ | ปรับปรุง |
5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification) | |
นักจัดการความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ |
6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency) | |
เป็นผู้ที่สามารถ วางแผนความต้องการของระบบ พัฒนาระบบ ทดสอบและประเมินผล |
7. สำหรับระดับคุณวุฒิ |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
8. กลุ่มอาชีพ (Sector) | |
ผู้เชี่ยวชาญระบบเครือข่าย ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ นักวิเคราะห์ความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ ผู้บริหารด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ ผู้บริหารเครือข่ายคอมพิวเตอร์ |
9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี) | |
2131.50 ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของไอที2529 ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร |
10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี) | |
ไม่มี |
11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria) |
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) | เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) | รหัส PC (ตามเล่มมาตรฐาน) |
รหัส PC (จากระบบ) |
---|---|---|---|
41202.01 วางแผนความต้องการของระบบ | 1.1 ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยง ศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อกำหนด Functional requirements และ Specifications ประมาณราคาค่าใช้จ่ายของระบบ | 41202.01.01 | 119448 |
41202.01 วางแผนความต้องการของระบบ | 1.2 กำหนดความต้องการของระบบ | 41202.01.02 | 119449 |
41202.01 วางแผนความต้องการของระบบ | 1.3 บูรณาการนโยบายด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจในระบบที่พัฒนา | 41202.01.03 | 119450 |
41202.02 พัฒนาระบบ | 2.1 วิเคราะห์ข้อจำกัดในการออกแบบ ข้อดีข้อเสีย ของระบบที่พัฒนา | 41202.02.01 | 119444 |
41202.02 พัฒนาระบบ | 2.2 ประยุกต์นโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยเข้าไปยังระบบที่ทำการพัฒนา ประเมินภัยคุกคาม ช่องโหว่ และความเสี่ยงของระบบ | 41202.02.02 | 119445 |
41202.02 พัฒนาระบบ | 2.3 พัฒนาซอฟต์แวร์ตามข้อกำหนดทางด้านความมั่นคงปลอดภัย | 41202.02.03 | 119446 |
41202.02 พัฒนาระบบ | 2.4 พัฒนาระบบการสำรองข้อมูลที่มีความมั่นคงปลอดภัย | 41202.02.04 | 119447 |
41202.03 ทดสอบและประเมินผล | 3.1 กำหนดระดับของความมั่นคงปลอดภัยของซอฟต์แวร์ | 41202.03.01 | 119439 |
41202.03 ทดสอบและประเมินผล | 3.2 วางแผนการทดสอบตามวัตถุประสงค์และข้อกำหนด | 41202.03.02 | 119440 |
41202.03 ทดสอบและประเมินผล | 3.3 จัดทำสภาพแวดล้อมของการทดสอบและตรวจสอบทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงของระบบ | 41202.03.03 | 119441 |
41202.03 ทดสอบและประเมินผล | 3.4 ดำเนินการทดสอบระบบ | 41202.03.04 | 119442 |
41202.03 ทดสอบและประเมินผล | 3.5 วิเคราะห์ผลการทดสอบ | 41202.03.05 | 119443 |
12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge) | |
ไม่มี |
13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) | |
(ก) ความต้องการด้านทักษะ 1. สามารถทำการวิเคราะห์ความเสี่ยง ศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อกำหนด Functional requirements และ Specifications ประมาณราคาค่าใช้จ่ายของระบบ 2. สามารถกำหนดความต้องการของระบบ 3. สามารถบูรณาการนโยบายด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจในระบบที่พัฒนา 4. สามารถวิเคราะห์ข้อจำกัดในการออกแบบ ข้อดีข้อเสีย ของระบบที่พัฒนา 5. สามารถประยุกต์นโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยเข้าไปยังระบบที่ทำการพัฒนา ประเมินภัยคุกคาม ช่องโหว่ และความเสี่ยงของระบบ 6. สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ตามข้อกำหนดทางด้านความมั่นคงปลอดภัย 7. สามารถพัฒนาระบบการสำรองข้อมูลที่มีความมั่นคงปลอดภัย 8. สามารถกำหนดระดับของความมั่นคงปลอดภัยของซอฟต์แวร์ 9. สามารถวางแผนการทดสอบตามวัตถุประสงค์และข้อกำหนด 10. สามารถจัดทำสภาพแวดล้อมของการทอสอบและตรวจสอบทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับข้อกำหนดและความต้องการของระบบ 11. สามารถดำเนินการทดสอบระบบ 12. วิเคราะห์ผลการทดสอบ ให้คำแนะนำทางด้านความมั่นคงปลอดภัยตามผลการทดสอบที่ได้รับ (ข) ความต้องการด้านความรู้ 1. ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาระบสารสนเทศอย่างมั่นคงปลอดภัย 2. ความรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมซอฟต์แวร์ 3. ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจ 4. ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการและระบบเครือข่าย 5. ความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตการพัฒนาระบบ 6. ความรู้เกี่ยวกับอัลกอริทึม 7. ความรู้เกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล 8. ความรู้เกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างคอมพิวเตอร์และมนุษย์ 9. ความรู้เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ 10. ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการและระบบเครือข่าย 11. ความรู้เกี่ยวกับระบบสารสนเทศขององค์กร 12. ความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดในการประเมินผลระบบสารสนเทศ 13. ความรู้เกี่ยวกับการประเมินความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ 14. ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการและระบบเครือข่าย 15. ความรู้เกี่ยวกับการทดสอบระบบชนิดต่าง ๆ |
14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide) | |
หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมินและควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) (ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) 1. เอกสารหลักฐานที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) 1. ผลการทดสอบความรู้ 2. ผลการสัมภาษณ์ (ค) คำแนะนำในการประเมิน ผู้เข้ารับการประเมินต้องผ่านการประเมิน ที่ครอบคลุมในทุกสมรรถนะประเมินย่อย ขอบเขต ความรู้และทักษะที่กำหนด ในกรณีที่ผู้รับการประเมินผ่านไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้ประเมินจะต้องแจ้งหน่วยสมรรถนะที่ไม่ผ่าน และให้ผู้รับการประเมินไปทบทวนสมรรถนะที่ยังไม่ผ่านและสามารถกลับมาทดสอบสมรรถนะใหม่อีกครั้ง (ง) วิธีการประเมิน 1. ทดสอบโดยใช้แบบข้อเขียน 2. ทดสอบโดยใช้แบบสัมภาษณ์ |
15. ขอบเขต (Range Statement) | |
(ก) คำแนะนำ ในการปฏิบัติงานให้คำนึงถึงการวางแผนความต้องการของระบบ การพัฒนาระบบ การทดสอบและประเมินผล (ข) คำอธิบายรายละเอียด 1. การวางแผนความต้องการของระบบ การวิเคราะห์ความเสี่ยง ศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อกำหนด Functional requirements และ Specifications ประมาณราคาค่าใช้จ่ายของระบบ ให้พิจารณาขอบเขตของระบบที่ต้องการพัฒนา พิจารณาภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องโดยอาจพิจารณาจากภัยคุกคามที่เคยเจอ ภัยคุกคามที่อาจจะไม่เคยเกิดภายในองค์กรแต่เกิดกับผู้ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน เป็นต้น ให้เลือกวิธีการประเมินความเสี่ยงที่เหมาะสม การกำหนดความต้องการของระบบ ให้พิจารณาเก็บข้อมูลให้รอบด้าน ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม การบูรณาการนโยบายด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจในระบบที่พัฒนา ให้พิจารณานโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศขององค์กร รวมทั้งกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ แนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการให้เหมาะสม 2. การพัฒนาระบบ การวิเคราะห์ข้อจำกัดในการออกแบบ ข้อดีข้อเสีย ของระบบที่พัฒนา เป็นสิ่งที่จำเป็น และจำเป็นต้องมีการสื่อสารผลที่ได้จากการวิเคราะห์ไปให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ใช้งานระบบด้วย การประยุกต์นโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยเข้าไปยังระบบที่ทำการพัฒนา ประเมินภัยคุกคาม ช่องโหว่ และความเสี่ยงของระบบ ควรมีการดำเนินการตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาระบบ เนื่องจากจะทำให้มั่นใจได้ว่าระบบที่พัฒนาขึ้นได้มีการพิจารณาข้อกำหนด แนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศขององค์กร และเมื่อระบบถูกพัฒนาเสร็จสิ้นจะสอดคล้องกับนโยบายทางด้านความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ รวมถึงเป้าหมายและกลยุทธ์ทางธุรกิจขององค์กร การพัฒนาซอฟต์แวร์ตามข้อกำหนดทางด้านความมั่นคงปลอดภัย แม้ว่าจะทำให้กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์มีความล่าช้าลงไปบ้างเนื่องจากจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม แต่จะทำให้มั่นใจได้ว่าซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นนั้นไม่มีช่องโหว่ที่เป็นที่รู้จักในช่วงที่มีการพัฒนา และจะช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการนำเอาซอฟต์แวร์ดังกล่าวไปใช้งาน การพัฒนาระบบการสำรองข้อมูลที่มีความมั่นคงปลอดภัย อาจมีการพิจารณาการกำหนดการควบคุมการเข้าถึงและการนำเอาวิทยาการเข้ารหัสลับ มาใช้ 3. การทดสอบและประเมินผล การกำหนดระดับของความมั่นคงปลอดภัยของซอฟต์แวร์ ให้พิจารณาถึงระดับระดับความลับของข้อมูล ระดับระดับความลับของผู้ใช้งาน การควบคุมการเข้าถึง รวมทั้งการควบคุมทางด้านความมั่นคงปลอดภัยสำหรับซอฟต์แวร์นั้น ๆ การวางแผนการทดสอบตามวัตถุประสงค์และข้อกำหนด ให้พิจารณาถึงแนวทางการทดสอบทางด้านความมั่นคงปลอดภัย นอกเหนือไปจากการทดสอบปรกติที่ได้มีการทำอยู่แล้ว เช่น การทดสอบช่องโหว่ การทดสอบการโจมตี เป็นต้น การจัดทำสภาพแวดล้อมของการทอสอบและตรวจสอบทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับข้อกำหนดและความต้องการของระบบ โดยปกติแล้วอาจจะไม่สามารถจำลองสภาพแวดล้อมให้เหมือนจริงได้ครบถ้วน แต่ให้พิจารณาการควบคุมปัจจัยหลักในการใช้งานระบบให้เหมาะสม การดำเนินการทดสอบระบบ ให้มีการควบคุมการทดสอบ และกำหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจน การวิเคราะห์ผลการทดสอบ ให้คำแนะนำทางด้านความมั่นคงปลอดภัยตามผลการทดสอบที่ได้รับ โดยเทียบกับมาตรฐาน หรือแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ที่เป็นที่ยอมรับในภาคอุตสาหกรรม หรือได้รับคำแนะนำจากหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับ |
16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี) | |
ไม่มี |
17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี) | |
ไม่มี |
18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure) | |
วิธีการประเมินสามารถจำแนกได้ตามสมรรถนะย่อย ดังนี้ 1. สมรรถนะย่อย 41202.01 วางแผนความต้องการของระบบ ให้ทำการทดสอบโดยใช้แบบข้อเขียนและทดสอบโดยใช้แบบสัมภาษณ์ 2. สมรรถนะย่อย 41202.02 พัฒนาระบบ ให้ทำการทดสอบโดยใช้แบบข้อเขียนและทดสอบโดยใช้แบบสัมภาษณ์ 3. สมรรถนะย่อย 41202.03 ทดสอบและประเมินผล ให้ทำการทดสอบโดยใช้แบบข้อเขียนและทดสอบโดยใช้แบบสัมภาษณ์ |