หน่วยสมรรถนะ
ดำเนินการพัฒนาโปรแกรมแบบ Integration
สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมดิจิทัล
รายละเอียดหน่วยสมรรถนะ
1. รหัสหน่วยสมรรถนะ | ICT-VXWA-011B |
2. ชื่อหน่วยสมรรถนะ | ดำเนินการพัฒนาโปรแกรมแบบ Integration |
3. ทบทวนครั้งที่ | 1 / - |
4. สร้างใหม่ | ปรับปรุง |
5. สำหรับชื่ออาชีพและรหัสอาชีพ (Occupational Classification) | |
อาชีพนักพัฒนาระบบ |
6. คำอธิบายหน่วยสมรรถนะ (Description of Unit of Competency) | |
เป็นผู้ที่มีสามารถอ่าน Functional/ Program Specification/ UML และ เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML |
7. สำหรับระดับคุณวุฒิ |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
8. กลุ่มอาชีพ (Sector) | |
ผู้ประกอบวิชาชีพด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล |
9. ชื่ออาชีพและรหัสอาชีพอื่นที่หน่วยสมรรถนะนี้สามารถใช้ได้ (ถ้ามี) | |
2166 นักออกแบบกราฟิกและสื่อผสม2356 ผู้ฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ2512 นักพัฒนาซอฟต์แวร์2513 นักพัฒนาเว็บไซต์และสื่อผสม2514 โปรแกรมเมอร์2519 นักวิเคราะห์และพัฒนาซอฟต์แวร์และโปรแกรมประยุกต์ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น2521 นักออกแบบและผู้บริหารฐานข้อมูล |
10. ข้อกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Licensing or Regulation Related) (ถ้ามี) | |
N/A |
11. สมรรถนะย่อยและเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Elements and Performance Criteria) |
หน่วยสมรรถนะย่อย (EOC) | เกณฑ์ในการปฏิบัติงาน (Performance Criteria) | รหัส PC (ตามเล่มมาตรฐาน) |
รหัส PC (จากระบบ) |
---|---|---|---|
10305.01 อ่าน Functional/ Program Specification/ UML | 1.1 เขียน Pseudo code / Flowchart/ UML (เข้าใจลำดับ) ในระดับ Integration System | 10305.01.01 | 118856 |
10305.01 อ่าน Functional/ Program Specification/ UML | 1.2 บอกผลลัพธ์ของ Functional/ Program Specification (เข้าใจผลลัพธ์) ในระดับ Integration System | 10305.01.02 | 118857 |
10305.02 เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML | 2.1 แยกโมดูลย่อยตามพฤติกรรมการทำงาน ในระดับ Integration System | 10305.02.01 | 118862 |
10305.02 เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML | 2.2 เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UMLในระดับ Integration System | 10305.02.02 | 118863 |
10305.02 เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML | 2.3 ตรวจสอบผลลัพธ์ของโปรแกรมตามที่กำหนดใน Functional/ Program Specification/ UML | 10305.02.03 | 118864 |
10305.02 เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML | 2.4 เขียนโปรแกรมภายใต้ Virtualization Technology | 10305.02.04 | 118865 |
10305.02 เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML | 2.5 ทำ Auto Scale เพื่อช่วยให้การใช้งาน Load Balance เกิดประโยชน์สูงสุด | 10305.02.05 | 118866 |
12. ความรู้และทักษะก่อนหน้าที่จำเป็น (Pre-requisite Skill & Knowledge) | |
N/A |
13. ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) | |
(ก) ความต้องการด้านทักษะ 1. เขียน Pseudo code / Flowchart/ UML ในระดับ Integration System 2. บอกผลลัพธ์ Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 3. แยกโมดูลย่อยตามพฤติกรมการทำงาน 4. เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 5. ตรวจสอบผลลัพธ์ของโปรแกรมตามที่กำหนดใน Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 6. เขียนโปรแกรมภายใต้ Virtualization Technology 7. ทำ Auto Scale เพื่อช่วยให้การใช้งาน Load Balance เกิดประโยชน์สูงสุด (ข) ความต้องการด้านความรู้ 1. ความรู้ในการเขียน Pseudo code / Flowchart/ UML ในระดับ Integration System 2. ความรู้ในการบอกผลลัพธ์ Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 3. ความรู้ในการแยกโมดูลย่อยตามพฤติกรมการทำงาน 4. ความรู้ในการเขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 5. ความรู้ในการตรวจสอบผลลัพธ์ของโปรแกรมตามที่กำหนดใน Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 6. ความรู้ในการเขียนโปรแกรมภายใต้ Virtualization Technology 7. ความรู้ในการทำ Auto Scale เพื่อช่วยให้การใช้งาน Load Balance เกิดประโยชน์สูงสุด |
14. หลักฐานที่ต้องการ (Evidence Guide) | |
หลักฐานที่ต้องการจะกำหนดข้อแนะนำเกี่ยวกับการประเมิน และควรที่จะใช้ประกอบร่วมกันกับเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Performance Criteria) และ ทักษะและความรู้ที่ต้องการ (Required Skills and Knowledge) (ก) หลักฐานการปฏิบัติงาน (Performance Evidence) 1. เอกสารหลักฐานที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน (ข) หลักฐานความรู้ (Knowledge Evidence) 1. ผลจากการสอบข้อเขียน 2. ผลจากการสัมภาษณ์ 3. ผลจากการสอบปฏิบัติ (ค) คำแนะนำในการประเมิน ผู้เข้ารับการประเมินต้องผ่านการประเมิน ที่ครอบคลุมในทุกสมรรถนะประเมินย่อย ขอบเขต ความรู้และทักษะที่กำหนด ในกรณีที่ผู้รับการประเมินผ่านไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้ประเมินจะต้องแจ้งหน่วยสมรรถนะที่ ไม่ผ่าน และให้ผู้รับการประเมินไปทบทวนสมรรถนะที่ยังไม่ผ่านและสามารถกลับมาทดสอบสมรรถนะใหม่อีกครั้ง (ง) วิธีการประเมิน 1. ผู้ประเมินทำการประเมินการปฏิบัติงานที่ต้องการของผู้เข้าทดสอบโดยใช้ เอกสารหลักฐานที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน 2. ผู้ประเมินทำประเมินความรู้ผู้เข้าทดสอบโดยใช้การสอบข้อเขียน แบบสัมภาษณ์และการสอบปฏิบัติ |
15. ขอบเขต (Range Statement) | |
(ก) คำแนะนำ ในการปฏิบัติงานให้คำนึงถึง การแปลงการอ่าน Functional/ Program Specification/ UML และ เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML (ข) คำอธิบายรายละเอียด 1. การเขียน Pseudo code / Flowchart/ UML ในระดับ Integration System 2. การบอกผลลัพธ์ Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 3. การแยกโมดูลย่อยตามพฤติกรมการทำงาน 4. การเขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 5. การตรวจสอบผลลัพธ์ของโปรแกรมตามที่กำหนดใน Functional/ Program Specification/ UML ในระดับ Integration System 6. การเขียนโปรแกรมภายใต้ Virtualization Technology 7. การทำ Auto Scale เพื่อช่วยให้การใช้งาน Load Balance เกิดประโยชน์สูงสุด |
16. หน่วยสมรรถนะร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
17. อุตสาหกรรมร่วม/กลุ่มอาชีพร่วม (ถ้ามี) | |
N/A |
18. รายละเอียดกระบวนการและวิธีการประเมิน (Assessment Description and Procedure) | |
วิธีการประเมินสามารถจำแนกได้ตามสมรรถนะย่อย ดังนี้ 1. สมรรถนะย่อย 10305.01 อ่าน Functional/ Program Specification/ UML ให้ทำการทดสอบโดยใช้การสอบข้อเขียน แบบสัมภาษณ์และการสอบปฏิบัติ 2. สมรรถนะย่อย 10305.02 เขียนโปรแกรมตาม Functional/ Program Specification/ UML ให้ทำการทดสอบโดยใช้การสอบข้อเขียน แบบสัมภาษณ์และการสอบปฏิบัติ |